มังงะ : ความสุขที่เกิดจากการอดทนรอคอย
มังงะ (漫画 manga) ในปัจจุบันจะหมายถึงการ์ตูนช่อง รากคำศัพท์เดิมแปลว่าภาพตามอารมณ์ คำนี้เริ่มมีการใช้เป็นครั้งแรกหลังจากจิตรกรภาพแนวอุคิโยเอะ (ภาพพิมพ์แกะไม้สไตล์ญี่ปุ่นที่นิยมในช่วงศตวรรษที่ 17-20) ชื่อโฮคุไซ ตีพิมพ์หนังสือชื่อโฮคุไซมังงะในคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมังงะพัฒนามาจากอุคิโยเอะและจิตรกรรมตะวันตก และเริ่มคงรูปแบบอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ภายหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นถูกสหรัฐอเมริกาบังคับให้เปิดเสรีภาพแก่สื่อมวลชน
ลักษณะเฉพาะของรูปวาดในมังงะจะมีการเน้นเส้นมากกว่ารูปทรง มีวิธีการให้แสงเงาและจัดช่องภาพที่ไม่ตายตัวเหมือนการ์ตูนตะวันตก (Comics) ใช้เทคนิคการวาดแบบเดียวกันกับการถ่ายทำภาพยนตร์ (Cinematic style) โดยเขียนภาพระยะใกล้และระยะประชิด เปลี่ยนมุมมองและตัดต่อเนื้อหาเรื่องราวอย่างฉับไวโดยใช้เส้นสปีดช่วยในการนำสายตา
ช่วงแรกของมังงะยุคใหม่ภาพตัวละครจะคล้ายคนตะวันตกและมีดวงตาขนาดใหญ่ ซึ่งกลายมาเป็นลักษณะเด่นของมังงะและอนิเมะ นักเขียนมังงะที่ได้รับการบกย่องว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งมังงะยุคใหม่ คือ โอซามุ เทซุกะ เรื่องที่โด่งดังเป็นพลุแตก คือ เรื่องเจ้าหนูอะตอม (แอสโตรบอย) ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 1960 วิธีการอ่านมังงะจะอ่านจากขวาไปซ้ายตามวิธีเขียนหนังสือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น หากมังงะเรื่องไหนได้รับความนิยมจะมีการนำไปสร้างเป็นการ์ตูนอะนิเมะที่เป็นภาพเคลื่อนไหวต่อไป
คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมการ์ตูนมังงะมาก โดยนับรวมมังงะเป็นวิจิตรศิลป์และวรรณกรรมรูปแบบหนึ่ง เนื้อหาของมังงะมีความหลากหลาย ไม่ใช่ให้แค่ความสนุกอย่างเดียวแต่เนื้อหาในมังงะยังสอดแทรกวัฒนธรรมประเพณี วิธีคิด คติสอนใจ ความเชื่อลงไปด้วย บางเรื่องมีการค้นคว้าข้อมูลที่จะใช้ประกอบเนื้อเรื่องมาเป็นอย่างดี เทียบเท่าได้กับหนังสือเรียนที่มีภาพประกอบสวยงาม กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนอ่านอยากศึกษาความรู้เรื่องนั้นต่อ
มังงะเข้ามาในประเทศไทยนานมากช่วงแรกเป็นแบบไม่ได้ขอลิขสิทธิ์ แปลกันแบบเถื่อนๆ โดยเริ่มจากยุคการ์ตูนเล่มใหญ่ การ์ตูนฮีโร่ทีวี มาจนถึงยุคโดราเอมอนบูมที่มีตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ บริษัทหนังสือเริ่มซื้อลิขสิทธิ์มังงะเพื่อตีพิมพ์อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2536 มีมังงะหลายเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก เช่น โดราเอมอน, ดราก้อนบอล,เซนต์เซย่า, โคนัน, ซึบาสะฯลฯ ซึ่งมังงะที่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในไทยมักจะเป็นมังงะที่มีการ์ตูนอะนิเมะให้ดูด้วย
หมอเป็นเด็กยุค 90 ซึ่งเป็นยุคที่มังงะบูมมาก หมอตามอ่านแทบทุกเรื่อง (เป็นเด็กติดการ์ตูน:)) ทั้งที่เป็นนิตยสารมังงะรายสัปดาห์ เช่น บูม, ซีคิดส์, KC weekly และตามซื้อเก็บตอนรวมเล่มอีก มังงะแต่ละเรื่องมีความสั้นยาวไม่เหมือนกัน (บางเรื่องอ่านจนหมดความหวังไปแล้วว่าจะได้อ่านตอนจบ เช่น คำสาปฟาโรห์, หน้ากากแก้ว, วันพีซ, โคนัน)
ความสุขอย่างหนึ่งจากการอ่านมังงะในรูปแบบหนังสือ คือ ความฟินในวันที่มังงะออก ปกติต้องเดินแวะร้านขายการ์ตูนเป็นประจำ มีความหวังตั้งหน้าตั้งตารอ พอเห็นฉบับใหม่ออกมาแทบกรี๊ด ดีใจเหมือนถูกหวย เพราะการ์ตูนบางเรื่องชอบจบแบบคาๆ เช่น คินดะอิจิยอดนักสืบ ต้องรอเป็นเดือนกว่าจะรู้ว่าฆาตกรคือใคร เหตุผลที่ต้องซื้อทั้งมังงะแบบรายสัปดาห์มาซ้ำซ้อนกับแบบรวมเล่มก็เพราะการอดทนรอคอยมันช่างทรมาน เลยยอมตัดใจใช้เงินค่าขนมซื้อ เพื่อที่ว่าอย่างน้อยฉันได้อ่านทุกสัปดาห์ก็ยังดี
หมอคิดว่ารูปแบบการอ่านการ์ตูนมังงะในยุคสมัยเก่าที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีล้ำเหมือนในปัจจุบันทำให้เรามีความสุขจากการอดทนรอคอย (Delay gratification) ยุคนี้คนอ่านมังงะทางอินเตอร์เน็ตทั้งจากเว็ปเถื่อนกับเว็ปที่เสียเงินเพราะเนื้อหาออกมาเร็วกว่าฉบับที่เป็นหนังสือมาก จนทำให้ธุรกิจหนังสือการ์ตูนต้องล้มหายตายจาก สำหรับหมอมันน่าเศร้ามากค่ะ เพราะการที่ได้อ่านมังงะจากหนังสือเราจะได้กลิ่นหมึกพิมพ์ และมือจะเปื้อนหมึก พอเอาหลายเล่มมาเรียงต่อกันจะเกิดความภูมิใจในคอลเลกชั่นที่เรากัดฟันซื้อมา
>> ความสุขจากการอดทนรอคอย (Delay Gratification)
ตามธรรมชาติคนเรามีความต้องการสิ่งที่ทำให้เกิดความพึงพอใจ (Pleasure principle) ที่เป็นความต้องการทางชีวภาพ (Biological needs) ซึ่งจำเป็นต่อการอยู่รอด เช่น อาหาร และยังมีความต้องการทางจิตใจ (Psychological needs) เช่น การได้ซื้อของแบรนด์เหมือนเพื่อนเพื่อทำให้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
ช่วงวัยเด็กที่สมองยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ความสามารถในการอดทนรอคอยจะไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กไม่สามารถคาดการณ์ไปได้ว่าหากอดทนรอไปก่อน สิ่งที่ได้ตามมาภายหลังจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เช่น ยอมที่จะไม่ซื้อขนมเพื่อนำเงินเก็บสะสมไปซื้อของเล่นที่ต้องการ หากเด็กเห็นขนมอยู่ตรงหน้าแล้วอยากกิน เด็กจะใช้เงินซื้อทันทีโดยไม่ได้คิดว่าถ้าอดทนไม่ซื้อขนมครั้งนี้ พอมีเงินเก็บมากพอจะได้ของเล่นที่ต้องการ
การที่เราฝึกเรื่องการอดทนรอคอย จะทำให้เราทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้โดยไม่ไถลไปกับสิ่งยั่วยุระหว่างทาง เช่น ยอมอดดูการ์ตูนช่วงที่อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ เพื่อที่จะทำคะแนนให้ได้ดี พอสอบเสร็จค่อยไปดูก็ได้
ผู้ใหญ่ต้องเป็นคนที่ฝึกสอนเด็กเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อให้เด็กทำสิ่งต่างๆ ได้บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ แต่เพื่อให้เด็กสามารถทนฝืนและจัดการกับความรู้สึกแย่ๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เพราะในชีวิตจริงไม่ใช่ว่าเราจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการทันที ทุกอย่างต้องมีขั้นตอน มีจังหวะและเวลาของมัน
วิธีที่ช่วยในการฝึกการอดทนรอคอย เช่น
. เมื่อเราอยากได้ของสิ่งหนึ่งลองกำหนดระยะเวลา 1 เดือนที่จะไม่ซื้อ พอครบกำหนดเวลาค่อยกลับมาคิดอีกทีว่ายังอยากได้ของชิ้นนั้นจริงมั้ย ข้อดีข้อเสียของการซื้อ
. ให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทาง เพราะบางทีเป้าหมายมันไกลมากจนหมดกำลังใจ เช่น ตั้งเป้าจะลดน้ำหนัก 3 กิโลให้ได้ใน 1 เดือน นอกจากการจำกัดอาหารและออกกำลังกายอย่างเข้มงวดแล้ว ให้มี 1 วันในสัปดาห์ที่ได้กินของที่ตัวเองชอบ
. เบี่ยงเบนความสนใจไปทำอย่างอื่น จะได้ไม่หมกมุ่นกับความคิดที่อยากได้
ทุกวันนี้หมอยังทำตัว Old fashion ไม่อ่านมังงะทางเว็บ ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอซื้อหนังสือการ์ตูนอยู่ค่ะ ขนาดซื้อน้อยแล้วยังมีที่ดองไว้ไม่ได้อ่านเยอะมาก 555
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– กาชาปอง: รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง
– Bonseki: สุขปนขมขื่นบนความงามที่ไม่จีรัง
– Kintsugi: ซ่อมแซมอาการอกหักใจสลาย
– โตเกียวโอลิมปิก 2020 ที่ยังไม่ได้จัด: วิธีการรับมือกับเรื่องที่ไม่คาดคิด
– ยูโด: ไม่ใช่แค่การเล่นกีฬาแต่เป็นการฝึกพลังใจ
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#มังงะ : ความสุขที่เกิดจากการอดทนรอคอย