Kaiju No. 8: การใช้ Soft Power ส่งเสริม Hard Power ของกองกำลังป้องกันญี่ปุ่น
เคยพูดถึงเรื่อง Soft Power และ Hard Power ไปแล้วใน Soft Power และกรุงโรม ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว: มาพิจารณาการพัฒนา Soft Power ของญี่ปุ่นกัน และสรุปง่าย ๆ ว่า Soft Power คือความสามารถที่จะโน้มน้าวให้อีกฝ่ายกำหนดนโยบายของฝ่ายนั้นเองให้เป็นไปในทางเป็นคุณประโยชน์ต่อตัวเราโดยไม่จำเป็นต้องใช้ Hard Power (อย่างเช่นการใช้กำลังรบ หรือการดึงดูดด้วยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ) โดยความสามารถในการโน้มน้าวนี้จะทำผ่าน 3 ปัจจัยของประเทศคือ ค่านิยมทางการเมือง, นโยบายต่างประเทศ, และวัฒนธรรมของประเทศนั้น
วันนี้จะคุยเรื่องที่ว่ามังงะและอนิเมะเรื่อง Kaiju No. 8 นั้นมีลักษณะที่ใช้ Soft Power ส่งเสริม Hard Power ของกองกำลังป้องกันญี่ปุ่นให้มีภาพลักษณ์ที่ดีอย่างมาก
แม้ว่าในโลกแห่งความจริงนั้นญี่ปุ่นไม่ได้มีกองกำลังทหารเป็นของตนเอง เพราะมีเพียงสิ่งที่เรียกว่า 「自衛隊: จิเอไต (กองกำลังป้องกันตนเอง)」 ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Japan Self-Defense Forces (JSDF) ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการแพ้สงครามโลกครั้งที่สองของญี่ปุ่น นำไปสู่เนื้อหาในรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ของญี่ปุ่นที่วางหลักไว้ว่า ญี่ปุ่นห้ามมีกองทัพในเชิงรุก ห้ามทำสงครามกับประเทศใด ๆ เลยเว้นแต่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น ดังนั้น JSDF จึงไม่มีสถานะเป็นกองทัพหรือกองทหารอีกด้วยแม้ว่าจะมีโครงสร้างแบบสามเหล่าทัพคือ บก ทะเล และอากาศ ก็ตาม ถึงอย่างนั้น JSDF ก็มีลักษณะออกไปทาง Hard Power อยู่ดีเพราะมีลักษณะคล้ายกองทัพอย่างมาก
ในเรื่อง Kaiju No. 8 นั้น นอกจากจะมีหน่วย JSDF เหมือนในโลกแห่งความจริงแล้ว ยังมีอีกหน่วยที่มีไว้เพื่อปกป้องประชาชนจากปีศาจยักษ์ 「怪獣: ไคจู」 ที่เรียกว่าหน่วย 「防衛隊: โบเอไต (กองกำลังป้องกันญี่ปุ่น)」 ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Japan Anti-Kaiju Defense Force (JAKDF) เรียกว่าแบ่งหน้าที่กันชัดเจนพอสมควรว่า JSDF ก็ดำเนินกิจกรรมเหมือนในโลกแห่งความจริง ส่วนในโลกแห่ง Kaiju No. 8 ก็จะมีหน่วย JAKDF คอยปกป้องประเทศและประชาชนจากมหันตภัยที่เกิดจากไคจู นั่นเอง
อย่างที่หลายท่านทราบกันว่าญี่ปุ่นเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างมากเรื่องสัตว์ประหลาดยักษ์อาละวาด ถึงขั้นภาษาญี่ปุ่นว่า KAIJU กลายเป็นประเภทหนึ่งของภาพยนตร์กันเลย แม้แต่ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดยักษ์ของฮอลลีวู้ดหลายเรื่องก็ทับศัพท์ญี่ปุ่นลงในภาษาอังกฤษว่า KAIJU ไปเลยด้วยซ้ำ โดยไคจูที่โด่งดังมากที่สุดคงจะเป็นเรื่องก็อดซิลล่าที่ออกอากาศครั้งแรกในปี ค. ศ. 1954 ซึ่งเรื่องก็อดซิลล่านั้นดั้งเดิมจริง ๆ นั้นมีแรงบันดาลใจมาจากความน่ากลัวของอาวุธนิวเคลียร์ ญี่ปุ่นนั้นเป็นเพียงประเทศเดียวในประวัติศาสตร์โลกที่เคยได้ลิ้มรสความน่ากลัวของอาวุธนิวเคลียร์กันแบบเนื้อ ๆ ในขณะที่ประเทศอื่นไม่เคยโดนถล่มแบบนี้มาก่อน ญี่ปุ่นจึงเป็นชาติที่หวาดกลัวอาวุธนิวเคลียร์อย่างมาก นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่ประสบกับแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดอยู่เป็นระยะ เมื่อมีความพยายามอยากสร้างภาพยนตร์ปีศาจร่างยักษ์ จึงเอาแนวคิดมลพิษจากนิวเคลียร์, แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิด มาทำให้เป็นรูปเป็นร่าง จึงกลายเป็นปีศาจก็อดซิลล่า ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ปนเปื้อนกับกัมมันตภาพรังสีจากนิวเคลียร์และกลายพันธุ์กลายเป็นปีศาจร่างยักษ์ที่มีความสามารถเกินไปกว่ามนุษย์จะจินตนาการได้ ทำให้เห็นว่านิวเคลียร์, แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิดที่มองผ่านเลนส์การทำลายล้างของก็อดซิลล่านั้นสร้างความย่อยยับให้ชาวญี่ปุ่นมากเพียงใด

ในเรื่อง Kaiju No. 8 ตัวปีศาจไคจูจึงมีลักษณะร่วมของนิวเคลียร์และแผ่นดินไหว คือ จะฆ่าไคจูต้องทำลาย 「核: คะคุ」 หรือแปลตรงตัวว่านิวเคลียร์ที่อยู่ในตัวของไคจูนั่นเอง นอกจากนี้ เวลาเกิดแผ่นดินไหวก็จะวัดด้วยสเกล Magnitude ดังนั้นเวลาเจอไคจูเลยใช้คำคล้าย ๆ กันว่าคือคำว่า Fortitude ในการบอกเลเวลความร้ายแรงของหายนะไคจูนั้น ๆ เรียกว่าใช้วิธีเรียกนิวเคลียร์และแผ่นดินไหวในโลกแห่งความจริงมาเรียกหายนะที่เกิดจากไคจูกันเลยดีกว่า
ภาพลักษณ์ของ JAKDF ในเรื่องจึงเท่มาก มีฉากซ้อมรบที่สมจริง มีลักษณะการทำงานแบบมืออาชีพ มีการกล่าวถึงการลาหยุดพักร้อน หรือ ลากิจ ที่ดูสมจริงมาก เจ็บจริง ตายจริง ยอมสละชีพเพื่อชาติกันจริง ๆ มีการพัฒนาเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ และตัวละครอื่น ๆ ในทีม JAKDF ก็เก่งมาก ไม่มีตัวละครมนุษย์ตัวไหนที่มีลักษณะเป็นตัวถ่วงเลย (ในขณะที่อนิเมะหรือหนังแปลงร่างแนวนี้ ตัวละครมนุษย์ที่แปลงร่างไม่ได้มักจะไม่เก่ง และบางครั้งเป็นตัวถ่วง) ไม่ต้องแปลงร่างแต่ใช้เทคโนโลยีและการฝึกฝนร่างกาย ก็สู้กับไคจูเก่ง ๆ ได้เท่าเทียม
มังงะและอนิเมะเรื่อง Kaiju No. 8 นี้ จึงพอจะจัดอยู่ในฐานะเป็น Soft Power ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของ Hard Power คือ กองกำลังป้องกันตนเอง (JSDF) ในโลกแห่งความจริงได้ ดูแล้วสมกับภารกิจป้องกันตนเองแต่ไม่รุกรานใคร ได้ชัดเจนมากจริง ๆ
ติดตามผลงานเขียนทั้งหมดของวีรยุทธได้ที่ >> https://www.facebook.com/Weerayuths-Ideas
เรื่องแนะนำ :
– พระเอกซีรีส์คาเมนไรเดอร์: ภาพแทนผู้ชายเท่ของแต่ละยุคในญี่ปุ่น
– ญี่ปุ่นยังคงลงทุนในไทยมากเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง
– สาเหตุที่คาราเต้และกังฟูอยู่รวมกันได้ในภาพยนตร์ Karate Kid: Legends
– ชื่อคณะแปลก ๆ ในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น
– การทำกระบวนการ ‘ชินโต (浸透)’ ในบริษัทเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.gematsu.com/2025/08/kaiju-no-8-the-game-launches-august-31
#Kaiju No. 8: การใช้ Soft Power ส่งเสริม Hard Power ของกองกำลังป้องกันญี่ปุ่น



