เข้าสู่ช่วงฤดูการแต่งงานอีกแล้วนะคะ ในช่วง 2 เดือนนี้ มีเพื่อนดิฉันแต่งงาน 4 คู่ วันก่อน ช่วงหลัง งานแต่งงานไทยพัฒนาไปมาก มีพร็อพให้คนมาถ่ายรูปเล่นหน้างานบ้าง มีการโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวบ้าง ดิฉันเคยไปงานหนึ่ง เขาเอา Printer มาตั้ง เราสามารถรอรับภาพถ่ายกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้หลังเลิกงานเลย
เข้าสู่ช่วงฤดูการแต่งงานอีกแล้วนะคะ ในช่วง 2 เดือนนี้ มีเพื่อนดิฉันแต่งงาน 4 คู่ วันก่อน ช่วงหลัง งานแต่งงานไทยพัฒนาไปมาก มีพร็อพให้คนมาถ่ายรูปเล่นหน้างานบ้าง มีการโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวบ้าง ดิฉันเคยไปงานหนึ่ง เขาเอา Printer มาตั้ง เราสามารถรอรับภาพถ่ายกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้หลังเลิกงานเลย
งานแต่งงานของคนญี่ปุ่นจะเล็กกว่าของคนไทยมาก แขกประมาณ 70-100 คนเท่านั้นเอง เขาจะชวนแค่เพื่อนที่สนิทจริงๆ ญาติ เจ้านายแค่นั้นเองค่ะ แขกประเภทเพื่อนสนิทพ่อ เพื่อนสนิทแม่ กำนัน ส.ส. ส.ว. นี่ไม่มี แต่ด้วยความที่เป็นงานเล็กๆ เขาก็จะมีมนตร์เสน่ห์น่ารักๆ ในแบบญี่ปุ่น ไปมากี่งาน ก็รู้สึกอยากจัดงานอย่างนี้บ้าง รู้สึกอย่างนี้ทุกครั้งเลย! (เจ้าบ่าวในอนาคตดิฉันขา…รีบปรากฏตัวเร็วเร้ว ดิฉันมีไอเดียเพียบเลยนะคะ)
ก่อนจะเล่าถึงความน่ารักของงานแต่งญี่ปุ่น ขอเล่าเรื่องการใส่ซองนิดหนึ่งนะคะ การใส่ซองนี่ เป็นสิ่งที่ดิฉันรู้สึกว่าไทยกับญี่ปุ่นต่างกันโดยสิ้นเชิง! คนไทยมักจะใส่ซองลงในซองบัตรเชิญใช่ไหมคะ เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเขียนชื่อด้วย บ่าวสาวก็แกะซองง่าย รู้ว่าใครเป็นใคร บางคนลืมเอาซองมาก็มาขอซองหน้างานหรือจากโรงแรม จำนวนเงินก็แล้วแต่ศรัทธา
แต่คนญี่ปุ่นจะมีพิธีรีตองมาก จำนวนเงินที่ให้ควรเป็นเลขคี่ค่ะ เช่น 1 หมื่น 3 หมื่น 5 หมื่นเยน ไม่ให้เลขคู่ เขาว่ามันไม่เป็นมงคล ธนบัตรที่ใส่ซองต้องเป็นธนบัตรใหม่ ไม่ใช่แบงค์เน่าๆ ที่ควักจากกระเป๋าสตางค์ ซองที่ใส่ ก็ต้องไปซื้อซองอลังการงานสร้างมาใส่ให้ แค่ค่าซองก็ปาไป 200-300 บาทแล้ว
เอาล่ะค่ะ มาพูดถึงเรื่องงานแต่งกันดีกว่า เมื่อเรามาถึงงานใส่ซอง รับของชำร่วยปุ๊บ ก็เดินเข้างาน ตรงหน้าทางเข้า ก็จะมีแผนผังที่นั่งเรียบร้อยว่า เราต้องเดินไปนั่งที่ไหน สิ่งที่น่ารักมากๆ คือ แต่ละที่นั่ง จะมีป้ายชื่อแขก และการ์ด (Booklet) จากเจ้าบ่าวเจ้าสาวค่ะ ใน Booklet ก็จะกล่าวถึงรายละเอียดของงาน คำขอบคุณต่างๆนานา บางงาน เจ้าสาวก็ลงมือเขียน Message สั้นๆถึงแขกทุกคน ให้ความรู้สึก Handmade และน่ารักมากๆ เลยค่ะ
งานแต่งงานของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นโต๊ะกลม ไม่ค่อยมีค็อกเทล บ่าวสาวก็สามารถเล่นเกมทำกิจกรรมแต่ละโต๊ะได้เยอะมาก เช่น เจ้าบ่าวเจ้าสาวเพื่อนดิฉันเล่นเกมคล้ายๆเก้าอี้ดนตรี เขาส่งตุ๊กตา 2 ตัวให้แขกเวียนกันทั้งงานค่ะ ถ้าเพลงหยุดแล้วตุ๊กตาไปอยู่ที่ใคร คนนั้นก็ได้รางวัล (งานนั้น ดิฉันเป็นผู้โชคดี และได้รับไวน์ 2 ขวดกลับบ้านไป อิๆ) อีกงานหนึ่ง เขาส่งโถสลากให้พวกเราจับสลากกันแต่ละโต๊ะ ใครได้สลากสีแดง ก็จะได้ของขวัญพิเศษจากบ่าวสาวไป หรืออย่างตอนถ่ายภาพที่โต๊ะ เขาก็มีกล่องฉลากให้เราจับว่า จะทำหน้าแบบไหนถ่ายรูปดี มีทั้ง “หน้ายี้” “ทำปากจู๋” “ทำมือเป็นรูปหัวใจ” อะไรแบบนี้ สนุกมากๆ
ถัดมา ลองมาดูลำดับพิธีและเมนูอาหารในงานนะคะ
3. ท่านประธานกล่าวสุนทรพจน์
4. คัมไป (ไชโย)
5. เริ่มรับประทานอาหาร
6. สุนทรพจน์ 1 (เพื่อนขึ้นมาพูดและแสดงการแสดงตลึ่งตึ่งโป๊ะ งานนี้ มีเพื่อนเจ้าบ่าวมาเต้นประกอบเพลงวง Exile…)
7. เดินถ่ายภาพที่ระลึกกับแขกผู้มีเกียรติทุกโต๊ะ
8. พิธีตัดเค้ก
9. เจ้าสาวออกไปเปลี่ยนชุด
10. Time Capsule (ให้ทุกคนเขียนการ์ดให้แก่บ่าวสาวในอีก 10 ปีข้างหน้า แล้วเขาเอาการ์ดทุกคนมาปิดผนึก…ไอเดียนี้เก๋มาก ชอบ)
11. สุนทรพจน์ 2 (ลืมไปแล้วว่าคืออะไร)
12. มอบช่อดอกไม้
13. เจ้าภาพกล่าวคำขอบคุณ
14. เจ้าบ่าวกล่าวคำขอบคุณ
15. แขกผู้มีเกียรติทยอยกลับ (ทุกคนจะเดินสองแถว ออกจาก Hall ไปพร้อมกัน)
16. เจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนส่งแขก
ลองมาดูหน้าตาอาหารในงานแต่งงานของคนญี่ปุ่นนะคะ ทุกอย่างจะถูกจัดให้แขกแต่ละคนๆ ทุกคนจะทานเสร็จไล่เลี่ยกัน บริกรก็จะเดินมาเก็บจานเก่า และเสิร์ฟจานใหม่ต่อหน้าแต่ละคนๆไป ไม่มีปัญหาแบ่งหูฉลามไม่เท่ากัน หรือเหลือชิ้นมารยาทไว้ 1 ชิ้นเหมือนโต๊ะจีนในงานแต่งบ้านเรา อาหารงานแต่งของเพื่อนดิฉันเป็นสไตล์ฝรั่งเศสผสมกับญี่ปุ่นค่ะ
อาหารในงานแต่งงานญี่ปุ่นนี้จะประณีต ดูดี และใช้ของดีๆ มาปรุงทั้งนั้นค่ะ เราปาดน้ำลายแล้วมาดู Booklet บ่าวสาวกันต่อนะคะ
ถัดมา เป็นภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวตอนกุ๊กกิ๊กสวีทกัน บางทีก็มีรูปเพื่อนๆ ด้วย เวลานั่งรออาหารหรือไม่รู้จะทำอะไร ก็ชี้ชวนเพื่อนดูรูปในการ์ดย้อนความหลัง สร้างประเด็นใหม่ๆในการเม้าท์มอยต่อไป
ว่าด้วยเรื่องชุดไปงานแต่งงาน หลังๆ เห็นบ่าวสาวไทยชอบกำหนด Dress Code ขอให้แขกแต่งสีโน้นสีนี้ เวลาถ่ายรูปก็ออกมาสวยดี^^ งานแต่งญี่ปุ่นที่ดิฉันไปมา ยังไม่มี Dress Code ขนาดนั้น ที่ดิฉันแปลกใจคือ ชุดจะสีทึมๆ เล็กน้อย ไม่ค่อยสีสดๆ เหมือนบ้านเรา ลองดูภาพด้านล่างสิคะ
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างคือ การตัดเค้ก เค้กญี่ปุ่นจะเป็นเค้กจริง ไม่ได้เป็นเค้กโฟมปลอม ดาบปลอมเหมือนบ้านเรา
เขาหั่นและตักแบ่งให้แขกทานกันจริงๆ (มีพนักงานมาช่วยตัดแบ่งในภายหลังนะคะ)
เมืองไทย ผู้ใหญ่เป็นผู้คล้องพวงมาลัยให้บ่าวสาว แต่ที่ญี่ปุ่น เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะมอบช่อดอกไม้ให้แก่คุณพ่อคุณแม่ตัวเองค่ะ ซีนนี้จะเป็นซีนที่ซึ้งที่สุด เพราะเจ้าสาวจะอ่านจดหมายที่ตัวเองเขียนถึงคุณพ่อคุณแม่ ดิฉันเคยเห็นพนักงานเสิร์ฟบางคนก็ยืนน้ำตาซึมไปด้วย จากประสบการณ์ที่ไปงานแต่งงานญี่ปุ่นมา 3 งาน เจ้าสาวทุกคนอ่านจดหมายไป ร้องไห้ไปด้วยความตื้นตันพระคุณบิดามารดา แขกอย่างเราก็ซึ้งไปด้วยค่ะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura