ทำไมหัวขโมยญี่ปุ่นถึงเอาผ้าโพกหัวแล้วม้วนไว้ใต้จมูก??
สวัสดีค่ะ ก่อนหน้านี้เคยเขียนเรื่อง “ทำไมรูปหัวขโมยญี่ปุ่นต้องแบกห่อผ้าสีเขียวมีลายม้วน ๆ??” แล้วมีผู้อ่านสงสัยอีกเรื่องว่า “แล้วทำไมหัวขโมยต้องเอาผ้าโพกหัวแล้วม้วน (หรือผูก) ไว้ใต้จมูก??” นั่นสินะ ของมันคู่กันจริง ๆ ด้วย งั้นเราไปหาคำตอบกันดีกว่า
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับผ้าโพกหัวที่ว่ากัน จริง ๆ แล้วผ้าอันนี้เรียกว่า “เทะนุกุย” ค่ะ
ผ้าเทะนุกุย
ผ้าเทะนุกุย (手拭) แปลตรงตัวว่า “ผ้าเช็ดมือ” ค่ะ มักทำมาจากผ้าฝ้ายย้อมสีมีลวดลาย ขนาดประมาณ 35 x 90 ซม. กุ๊นขอบไว้แค่ด้านยาวสองข้าง เนื้อบางเบา แห้งไว และใช้งานได้ยาวนาน
ที่มาของผ้าเทะนุกุย
ภาพพิมพ์ไม้สมัยเอโดะเป็นรูปนักแสดงคาบูกิกับผ้าเทะนุกุย
ผ้าเทะนุกุยมีการใช้กันในหมู่ชาวญี่ปุ่นมานานแล้วโดยผ่านการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยมามากมาย
ในสมัยโบราณผ้าเทะนุกุยทำจากป่านและไหม ใช้เช็ดถูทำความสะอาดองค์พระและเครื่องแต่งหิ้งสักการะเป็นหลัก ต่อมาในสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794-1185) ผ้านี้นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายในพิธีกรรมชินโต ถือเป็นของสูงค่า ในเวลานั้นผ้าฝ้ายยังมีราคาแพงเพราะต้องนำเข้าจากจีนแผ่นดินใหญ่
เมื่อผ่านไปหลายร้อยปี มีการปลูกฝ้ายกันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่นช่วงยุคต้นเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) ทำให้ผ้าฝ้ายมีราคาถูกลงจนคนทั่วไปสามารถซื้อหามาใช้ทำเครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวัน
ผ้าเทะนุกุยที่ทำจากผ้าฝ้ายได้รับความนิยมสูงสุดในสมัยเอโดะ ด้วยความใกล้มือใช้สะดวกจึงมีประยุกต์การใช้งานต่าง ๆ อย่างกว้างขวางประกอบกับเทคนิคการย้อมสีทำลวดลายผ้าที่พัฒนาขึ้นมาก ทำให้ผ้าเทะนุกุยมีบทบาทในด้านแฟชั่นของชาวเอโดะด้วย
แม้ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็คหน้ายุคใหม่เริ่มเข้ามาในญี่ปุ่นสมัยเมจิ แต่ผ้าเทะนุกุยก็ยังไม่ได้จางหายไปจากชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่นค่ะ
ประโยชน์ของผ้าเทะนุกุย
ผ้าเทะนุกุยไม่ได้ใช้แค่เช็ดมือตามชื่ออย่างเดียว แต่เป็นผ้าสารพัดประโยชน์ ไม่มีกฏตายตัวสำหรับการใช้งานจึงประยุกต์ได้หลายอย่างค่ะ
• ใช้กับร่างกาย เช่น เช็ดหน้า เช็ดเหงื่อไคล เช็ดตัวหลังอาบน้ำ กันเปื้อน พับเป็นเส้นหรือม้วนคาดไว้รอบศีรษะเพื่อซับเหงื่อ โพกคลุมศีรษะ ผูกปิดปาก พันรอบคอ หรือแม้กระทั่งใช้ปฐมพยาบาล
• ใช้ร่วมกับของอื่น ๆ เช่น รองสิ่งของ คลุมปิด ห่อของ ใช้ต่างเชือก หรือตกแต่งบ้านเรือน
• อื่น ๆ ตามแต่จะประยุกต์ใช้
ตัวอย่างการใช้งานผ้าเทะนุกุย
จะว่าไปก็ทำนองเดียวกับผ้าขาวม้าบ้านเราที่ใช้ได้ตั้งแต่เป็นผ้านุ่งอาบน้ำยันผูกทำเปล ยิ่งใช้ยิ่งนุ่ม จนเก่าแล้วก็ทำผ้าเช็ดโต๊ะ ผ้าเทะนุกุยผืนเล็กกว่าและมีลวดลายสวยงามหลากหลาย ใช้เองก็ได้เป็นของขวัญของฝากก็ดี สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งทำลายของตัวเองขายในร้านขายของที่ระลึกราคาก็ไม่แพงนัก ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 1,500 เยนค่ะ
ตัวอย่างลายผ้าเทะนุกุย
ผ้าเทะนุกุยลายการ์ตูนดังอย่างดาบพิฆาตอสูรก็มี
ผ้าเทะนุกุยกับการใช้โพกคลุมศีรษะ
เวลาผู้อ่านดูหนังหรืออ่านการ์ตูนย้อนยุคแนวซามุไรคงจะได้เห็นภาพตัวละครสวมผ้าโพกคลุมหัวกันมาบ้างนะคะ ผู้คนในสมัยเอโดะทั้งหญิงชายนิยมใช้ผ้าเทะนุกุยโพกคลุมหัวหลากหลายรูปแบบ จุดประสงค์หลัก ๆ คือ เพื่อคลุมผมไม่ให้สกปรก บังแดด ปิดบังใบหน้า หรือประดับตกแต่ง เทียบกันแล้วก็คือใช้ต่าง “หมวก” นั่นเองค่ะ
ละครย้อนยุค “มิโตะ โคมง” ที่มีตัวละครสวมผ้าคลุมหัวหลายคน
การโพกคลุมศีรษะด้วยผ้าเทะนุกุย นอกจากแบ่งแยกรูปแบบชายหญิงแล้วยังแยกตามวัยด้วย และที่ต้องคลุมผมไม่ให้สกปรกนั้น เพราะคนญี่ปุ่นสมัยนั้นมักไว้ผมยาวแล้วให้ช่างหวีชโลมน้ำมันเป็นทรงต่าง ๆ ให้อยู่ยาวนานโดยไม่ได้สระผมกันบ่อย ๆ เวลาคนทำงานใช้แรงจึงต้องคลุมผมไม่ให้สิ่งสกปรกมาเกาะมากเกินไป
อุปรากรคาบูกิมีอิทธิพลอย่างมากต่อแฟชั่นการแต่งตัวด้วยผ้าเทะนุกุย นักแสดงมักผูกคลุมศีรษะและใช้ผ้าลายหรือสีเฉพาะตัวละครเพื่อสื่อบทบาทและให้คนดูจดจำ บางครั้งรูปแบบการโพกคลุมผ้าจึงมาจากการแสดงอุปกากรคาบูกิก่อนแล้วค่อยแพร่หลายไปในหมู่ประชาชน
เรามาดูรูปแบบบางส่วนการโพกคลุมศีรษะในสมัยก่อนกันค่ะ
1. เค็งคะ (けんか) เป็นการโพกผ้าแบบปิดศีรษะ ปิดปลายสองข้างพันไว้ที่ด้านหลังแล้วพับปลาย ลักษณะคล้ายการโพกผ้าสี่เหลี่ยม bandana ในปัจจุบัน ที่ได้ชื่อว่า “เค็งคะ” (วิวาท) เพราะสมัยก่อนคนจะตีกันมักจะโพกหัวแบบนี้เพื่อไม่ให้คนอื่นมาจับจุกจนพลาดท่า แต่ปัจจุบันมักโพกกันในกลุ่มผู้ร่วมงานเทศกาล
2. โดจู (道中) พับผ้าให้มีลักษณะเป็นทรงกระบอก พับปลายเป็นสามเหลี่ยมไปข้างหน้า แล้วสวมเหมือนหมวก มักเห็นได้ในกลุ่มชาวบ้านที่กำลังเดินทาง
3. ฮานะคาเคะ (鼻掛け) โพกผ้าปิดด้านบนศีรษะแล้วม้วนปลายพันไว้ใต้จมูก หรือด้านซ้าย บางทีก็เรียกว่า นุสึตโตะคาบุริ (盗人被り) หรือคลุมแบบหัวขโมย
4. มิจิยูกิ (道行) เป็นการโพกผ้าปิดด้านบนศีรษะแล้วม้วนปลายพันไว้ใต้คาง
5. เทคคะ (てっか) เป็นการโพกผ้าปิดคลุมตั้งแต่ด้านบนศีรษะไปถึงปากเห็นเฉพาะดวงตา
6. โอคิเทนุกุย (置き手拭い) พับผ้าเทะนุกุยประมาณสามสี่ทบแล้ววางปิดไว้บนศีรษะเฉย ๆ
7. โฮโอะคาบุริ (ほおかぶり) เป็นการใช้ผ้าแนวยาวคลุมรอบศีรษะแล้วมัดไว้ที่ใต้คาง
8. โยชิวาระคาบุริ (吉原かぶり) เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปินในย่านเริงรมย์โยชิวาระ โดยพับผ้าครึ่งหนึ่งแล้วผูกชายสองข้างไว้กับผมด้านหลัง
9. อาเนะซังคาบุริ (姉さんかぶり) เป็นการคลุมศีรษะของผู้หญิงที่พบได้ทั่วไป มักใช้ในเวลาทำงานบ้าน
10. ฟุคินางาชิ (吹き流し) เป็นการคลุมศีรษะของผู้หญิงใช้ผ้าแนวยาวคลุมศีรษะไว้เฉย ๆ บางทีใช้ปากคาบชายผ้าไว้ มักเห็นในการแสดงอุปรากรคาบูกิ
หัวขโมยญี่ปุ่นกับการโพกผ้าคลุมหัวรั้งชายไว้ใต้จมูก
จะเห็นได้ว่า หนึ่งในรูปแบบการโพกคลุมศีรษะคือ “ฮานะคาเคะ” (鼻掛け) หรือโพกผ้าไว้แล้วม้วนปลายสองข้างผูกรั้งไว้ที่ใต้จมูกหรือข้างหู ว่ากันว่าใช้โพกในหมู่คนที่ต้องทำงานพบเจอกับฝุ่น เช่น คนงาน คนวิ่งส่งของหรือม้าเร็ว (ฮิเคียคุ 飛脚) ที่ต้องวิ่งบนถนนดิน
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมหัวขโมยคลุมศีรษะแบบฮานะคาเคะนั้น มีอยู่ 2 ประการค่ะ
ข้อแรกคือเพื่อปิดบังใบหน้าและทรงผม จุดนี้อาจจะแตกต่างจากแนวคิดปัจจุบันที่ว่าควรปิดบังช่วงใต้จมูกถึงคางอยู่บ้าง เพราะสมัยก่อนชายชาวญี่ปุ่นจะไว้จุก “ชนมาเกะ” (丁髷) โดยโกนผมตั้งแต่ด้านหน้าไปถึงกลางศีรษะ แล้วมัดปลายผมทาน้ำมันวางข้างบน
โดยเฉพาะในสมัยเอโดะนิยมผมทรง “อิโจมาเกะ” (銀杏髷) ทรงผมนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยที่บ่งบอกถึงชนชั้นบุคคลนั้น เช่น ซามุไร พ่อค้า ช่างฝีมือ หรือแม้แต่โรนิน (คนจร) เป็นต้น นับเป็นจุดเด่นที่บางครั้งคนร้ายต้องการปกปิดไม่ให้ผู้อื่นเห็น และการมีวัตถุพาดกลางใบหน้าท่ามกลางความมืดสลัวทำให้เป็นการยากในการจดจำใบหน้าหากมีผู้พบเห็นด้วย
ตัวอย่างความแตกต่างของจุกชนมาเกะของนักรบ (ซ้าย) พ่อค้าชาวเมือง (กลาง) และคนจร (ขวา)
เหตุผลถัดมาคือ ช่วยลดการสูดดมฝุ่น บางครั้งขโมยหรือคนร้ายลักลอบเข้าบ้านทางหลังคา การคลุมศีรษะนอกจากช่วยลดสิ่งสกปรกที่จะมาเกาะเส้นผมแล้ว การใช้ปลายผ้ารั้งไว้ที่ใต้จมูกยังช่วย ‘ลด’ ฝุ่นที่จะเข้าจมูก ทำให้คนร้ายไม่จามเสียงดังจนเสียการด้วย
จริง ๆ ไม่ได้จำกัดว่า หัวขโมยต้องคลุมศีรษะแบบนี้ แต่ภาพจำมาจากอิทธิพลของอุปรากรคาบุกิค่ะ หนึ่งในเรื่องราวที่ได้รับความนิยมคือ เรื่องราวของจอมโจรคนดังที่ปล้นคนรวยนิสัยหยาบช้าแล้วแจกจ่ายให้คนจนอย่าง “เนซึมิโคะโซ จิโรคิยิ” ซึ่งนักแสดงจะคลุมศีรษะแบบฮานะคาเคะเป็นสัญลักษณ์เป็นที่จดจำของคนดู
ดังสะท้อนในภาพพิมพ์ไม้อุคิโยเอะรูปนักแสดงคนดังที่สวมบทบาทตัวละครและวางขายให้ผู้คนซื้อหาสะสม ไม่ต่างจากโปสเตอร์รูปดาราและไอดอลในปัจจุบัน อย่างรูปสองจอมโจร “เบนเท็นโคโซ คิคุโนะซึเกะ” (弁天小僧菊之介) และ “เนซึมิ โคะโซ จิโรคิยิ” (鼠小僧次郎吉) โดยศิลปินโทโยฮาระ คุนิจิกะที่ทำขึ้นในช่วงปลายเอโดะปี 1878 ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่หอสมุดกรุงโตเกียว
โจร “เนซึมิโคะโซ” กับผ้าคลุมหัวแบบฮานะคาเคะ
โจรคนซ้ายคือ เบนเทนโคโซ แสดงโดยนักอุปรากรคาบุกิ อิวาอิ ฮันชิโร่ ส่วนโจรที่คลุมหัวแบบฮานะคาเคะที่อยู่ในภาพคือ เนซึมิโคะโซ จิโรคิยิ แสดงโดยนักอุปรากรคาบุกิ โอโนเอะ คิคุโกโรรุ่นที่ 5 และการโพกผ้าของนักแสดงคาบุกิในบทบาทเนซึมิโคะโซยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ตามภาพโฆษณาการแสดงคาบูกิตอน “เนซึมิโกโซ จิโรคิยิ” ของโรงละคร Zenshinza ในปี 2019
โฆษณาการแสดง “เนซึมิโกโซ จิโรคิยิ” ของโรงละคร Zenshinza ในปี 2019
เวลาผ่านไปเข้าสู่ยุคใหม่ ภาพหัวขโมยคลุมผ้าเทะนุกุยพันชายไว้ใต้จมูกแบกห่อผ้าคาราคุสะก็ได้รับการถ่ายทอดผ่านสื่อการ์ตูน และละครจนกลายเป็นภาพจำควบคู่กัน แม้ว่าในความเป็นจริงอาจมีการคลุมผ้าแบบฮานะคาเคะให้เห็นในบริบทอื่น ๆ เช่น ในงานเทศกาลเป็นต้น
หญิงคลุมผ้าเทะนุกุยแบบฮานะคาเคะในงานเทศกาลอาวะโดริ
สรุปได้ว่า ในสมัยก่อนนอกจากคนบางอาชีพแล้วหัวขโมยโพกผ้าคลุมหัวแบบฮานะคาเคะรั้งชายไว้ใต้จมูก เพื่อคลุมปกปิดผมใบหน้าและลดการสูดดมฝุ่นเวลาลอบเข้าบ้าน และด้วยอิทธิพลของอุปรากรคาบูกิ ทำให้การคลุมหัวแบบนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของหัวขโมยสืบต่อมาทางสื่ออื่น ๆ ในยุคต่อมาจนถึงปัจจุบัน และจากที่แนะนำเรื่องผ้าเทะนุกุยไป ถ้าผู้อ่านได้มีโอกาสซื้อหาหรือได้รับผ้ามาก็ลองเอามาประยุกต์ใช้ดูนะคะ
เรื่องแนะนำ :
– ทำไมรูปหัวขโมยญี่ปุ่นต้องแบกห่อผ้าสีเขียวมีลายม้วน ๆ
– วันวาเลนไทน์ทั้งที ไม่ใช่แค่เป็นฝ่ายให้ช็อกโกแลต แต่สาวญี่ปุ่นก็อยากได้ดอกไม้นะเออ
– ทำความรู้จัก 6 ท่านั่งแมวเหมียวในภาษาญี่ปุ่น
– พฤติกรรมการใส่น้ำหอมและเคล็ดลับสไตล์สาวญี่ปุ่น
– ทำความรู้จัก 13 ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ในญี่ปุ่น
สรุปเนื้อหาและรูปภาพจาก
– https://ja.wikipedia.org/wiki/手拭
– https://detail.chiebukuro.yahoo.co.jp/
– https://twitter.com/oji_masanori
– http://www.natubunko.net
– https://www.tenuguikoubou.shop
– https://historivia.com
– http://style365.jugem.jp
– http://www.zenshinza.com
– https://ja.ukiyo-e.org
#ทำไมหัวขโมยญี่ปุ่นถึงเอาผ้าโพกหัวแล้วม้วนไว้ใต้จมูก??