กว่าจะเป็นสุนัขชิบะ
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
สุนัขชิบะ (柴犬[ชิบะอินุ]) เป็นสุนัขพันธุ์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในหมู่คนไทยและในหลายประเทศภาษาอังกฤษเรียกทับศัพท์ว่า Shiba
คำว่า 柴 [ชิบะ] นั้นหมายถึง “ไม้พุ่มเล็กๆ” ซึ่งที่มาของชื่อสุนัขชิบะนั้นคิดได้สามทาง
สุนัขมีความคล่องแคล่วในการลอดพุ่มไม้เล็กๆ เป็นสุนัขล่าเหยื่อที่ดีได้
สุนัขมีขนสีน้ำตาลที่แลดูคล้ายกับสีของพุ่มไม้ที่ใบเริ่มเหี่ยวเฉา
ขนาดที่เล็กของสุนัขชิบะ ซึ่งคำว่า 柴 [ชิบะ] เป็นศัพท์โบราณที่แสดงถึงสิ่งของเล็กๆ
สุนัขชิบะเป็นสุนัขขนาดเล็ก ตัวผู้ขนาดความสูงอยู่ 38 – 41 cm ตัวเมีย 35 – 38 cm มีขนข้างบนสีน้ำตาลแดง บางตัวอาจจมีขนสีขาว หรือ สีดำ
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า สุนัขน่าจะอยู่คู่กับมนุษย์บนเกาะญี่ปุ่นมายาวนาน เมื่อเราย้อนกลับไปดูรูปปั้นดินเผา หรือดูรูปปั้นตุ๊กตา Haniwa (埴輪)ที่มีอายุยืนยาวมาตั้งแต่สมัยโจมง(縄文 14,000 – 300 ปีก่อนคริสตกาล) และสมัยโคะฟุน (古墳 ราวค.ศ.300 – 538) รูปปั้นที่มีหน้าตาคล้ายสุนัขเหล่านั้น จะมีหูตั้ง และมีหางที่ทั้งม้วนและตั้ง
รูปปั้นจากยุคสมัยโจมน
รูปปั้นจากยุคสมัยโคะฟุน สมัยคริส (ภาพจาก National Tokyo museum)
ซากกระดูกสุนัขที่ถูกขุดขึ้นมาได้มีขนาดความสูงราวๆ 37 – 50 cm ส่วนมากมีขนาดเล็ก เรียกได้ว่าสุนัขเหล่านี้มีขนาดไม่ต่างกับสุนัขชิบะในปัจจุบัน
พอยุคศักราชเมจิ (ค.ศ. 1868 – 1912) ซึ่งเป็นยุคที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศรับเอาวัฒนธรรมจากโลกภายนอก และมีการนำเข้าสุนัขตะวันตก คนญี่ปุ่นสมัยนั้นเริ่มตกหลุมรักกับสุนัขตะวันตกที่เป็นของแปลกใหม่ เลยทำให้ความนิยมของเจ้าสุนัขญี่ปุ่นลดลง
ยุคศักราชไทโช (ค.ศ.1912 – 1926) ปริมาณสุนัขตะวันตกเพิ่มมากขึ้นไปอีก เกิดการผสมเผ่าพันธุ์ระหว่างสุนัขตะวันตกกับสุนัขญี่ปุ่น ทำให้จำนวนสุนัขญี่ปุ่นยิ่งลดน้อยลงไปอีก
มีคนญี่ปุ่นที่เล็งเห็นภาวะวิกฤติของสุนัขญี่ปุ่น จึงมีการตั้งสมาคมอนุรักษ์สุนัขญี่ปุ่น (日本犬保存会) ในปีโชวะที่ 3 (ค.ศ.1928)
และในปีโชวะที่ 9 (ค.ศ. 1934) มีการตั้งมาตรฐานสุนัขญี่ปุ่นขึ้นมาเพื่อเป็นบรรทัดฐานและก่อให้เกิดความพยายามในการรักษาสายพันธุ์
+++
ณ ตรงจุดนี้ขอย้อนกลับไปในปีโชวะที่ 5 (ค.ศ. 1930) เป็นปีที่สุนัขตัวผู้ที่ชื่อ “อิชิ” (石) เกิดขึ้นมาที่จังหวัดชิมาเนะ สุนัขตัวนี้เป็นสุนัขสายพันธุ์ เซะคิชูเคน (石州犬) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ญี่ปุ่นเก่าแก่
สุนัขชื่อ “อิชิ”
วันหนึ่งทันตแพทย์ท่านหนึ่งที่ชื่อว่า นากามุระ ซึรุคิจิ (中村鶴吉) ที่ปรกติทำงานที่โตเกียว แล้วกลับมายังบ้านเกิดที่จังหวัดชิมาเนะ เพื่อหาสุนัขไปเลี้ยง จึงมาเจอสุนัข “อิชิ” เข้าจึงเอาไปเลี้ยงที่โตเกียว
คุณนากามุระ ซึรุคิจิ
คุณนากามุระ ซึรุคิจิ กับน้อง “อิชิ”
ปีโชวะที่ 11 (ค.ศ. 1936) สุนัขพันธุ์ชิบะเป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์ที่ได้รับเลือกให้เป็นสิ่งสงวนทางธรรมชาติ, เจ้าสุนัข “อิชิ” ถูกส่งเข้าประกวดกับทาง “สมาคมอนุรักษ์สุนัขญี่ปุ่น” และได้รับรางวัลในปีเดียวกัน
“อิชิ” ได้รับเลือกเป็นพ่อพันธุ์และถูกเปลี่ยนเจ้าของ
ปีโชวะที่ 14 (ค.ศ. 1939) “อิชิ” รับหน้าที่เป็นพ่อพันธุ์เจอกับแม่พันธุ์ “โคะโระ” (コロ) ที่มาจากชิโกะกุ ลูกที่กำเนิดมาที่ชื่อว่า “อะคะ” (アカ) นั้นว่ากันว่าสามารถเอาส่วนดีของพ่อและแม่มาได้ด้วยคุณภาพของขนและขนาดของฝั่งพ่อ และสามารถกลบส่วนด้อยของพ่อซึ่งได้แก่ตาที่โตกับข้อต่อขาหลัง (hock) จะไม่ดีตอนแก่
แต่ว่าหลังจากนั้น ด้วยอิทธิพลจากสงครามโลกครั้งที่สองและการระบาดของโรคหัดสุนัข กลับทำให้จำนวนสุนัขชิบะลดน้อยลงไปอีก
ด้วยความพยายามของผู้คนเลยทำให้มีการเพิ่มจำนวนประชากรสุนัขชิบะ ในปีโชวะที่ 29 (ค.ศ.1954) สุนัขชิบะได้เดินทางข้ามทะเลไปยังอเมริกา ทำให้สุนัขชิบะเลยเป็นที่นิยมทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกาเฉกเช่นปัจจุบัน
สุนัขชิบะถูกเลี้ยงอยู่บนเกาะฮอนชูและชิโกะกุ ตามพื้นที่ภูเขาเพื่อไว้จับกระต่ายและนกป่า
แต่เมื่อเทียบกับสุนัขญี่ปุ่นพันธุ์อื่นแล้ว สุนัขชิบะก็ถูกนำไปเลี้ยงในพื้นที่อุณหภูมิที่ต่ำยิ่งกว่าเรียกได้ว่าเป็นสุนัขที่ทนหนาวได้พอควร และสุนัขชิบะสามารถทนกินอาหารที่ไม่ค่อยสู้ดีได้ เลยเป็นเหตุให้พวกน้องสุนัขชิบะมีขนาดที่เล็กกว่าสุนัขญี่ปุ่นอื่นๆ
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่มาของสุนัขชิบะ ที่เป็นที่นิยมไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่น แต่รวมถึงทั่วโลกด้วยครับ
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– ประวัติศาสตร์ทะเลสาบคาวากุจิโคะ
– ฮะโคะเนะ ประวัติความเป็นมาและเรือโจรสลัด
– ใครคือ Onitsuka Tiger
– สลากกินแบ่งญี่ปุ่น
– ครบรอบ 150 ปีกิจการรถไฟในญี่ปุ่น
อ้างอิง :
– https://allabout.co.jp/
– https://intojapanwaraku.com/
– https://www.tnm.jp/
– https://peco-japan.com/
– https://ja.wikipedia.org/
– https://withnews.jp/
#กว่าจะเป็นสุนัขชิบะ