เอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นยังคงอยู่ไม่ว่าจะย้ายไปประเทศไหน นอกจากเรื่องของวัฒนธรรมการทำธุรกิจที่เคยพูดถึงไปแล้ว สิ่งที่ดิฉันสังเกตได้จากการไปเยือนบริษัทญี่ปุ่นในประเทศอื่นได้แก่
นโยบายของบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ยังคงเดินหน้าเพิ่มยอดการค้าขายกับต่างประเทศให้มากขึ้นเทียบกับสัดส่วนการขายในญี่ปุ่นที่ไม่มีทีท่าว่ากำลังซื้อจะเพิ่มขึ้น
ดิฉันทำงานด้านการค้าระหว่างประเทศจึงมีโอกาสได้ติดต่อกับบริษัทญี่ปุ่นที่เป็นสาขาในประเทศต่างๆ อยู่ทุกวัน ในบางครั้งยังได้ไปประชุมที่บริษัทสาขาและโรงงานผลิตที่ต่างประเทศด้วย ทั้งในเอเชีย อเมริกาและยุโรป ความประทับใจแรกที่ได้เยี่ยมชมบริษัทญี่ปุ่นในประเทศอื่นๆ ก็คือ บริษัทเหล่านั้นยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นไว้อย่างดีเยี่ยมค่ะ
คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา อาหารการกิน วิถีชีวิต เรียกได้ว่าพอพูดถึงญี่ปุ่นทุกคนนึกออกทันทีว่าเป็น ซูชิ ราเมง ภูเขาฟูจิ ซูโม่ ชาเขียว เหล้าสาเก ศาลเจ้า ชุดกิโมโน การ์ตูนญี่ปุ่น ขนมของฝากที่มีหีบห่อที่มีลักษณะเฉพาะ การทำงานหนัก ฯลฯ
หากเราไปเยือนญี่ปุ่นเรามักจะเห็นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นใส่ชุดยูกาตะเดินเที่ยวกันเป็น เรื่องปรกติเพราะชาวญี่ปุ่นได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แถมรายการทีวีก็มีพิธีกรแต่งตัวด้วยชุดประจำชาติด้วย คนญี่ปุ่นยังนิยมใส่ชุดประจำชาติไปร่วมงานแต่งงานแม้แต่งานแต่งงานคนต่างชาติก็ตาม ญี่ปุ่นใช้ผลิตภัณฑ์ของประเทศตัวเอง เช่นรถยนต์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าของเขาเพราะคุณภาพดี ราคาถูก หาง่าย
ในการทำธุรกิจคนญี่ปุ่นยังทำธุรกิจกับบริษัทญี่ปุ่นด้วยกันมากกว่าทำธุรกิจกับชาติอื่น คนญี่ปุ่นตั้งใจรักษาวัฒนธรรม เช่น คนทำซูชิก็มีความพิถีพิถันในการเลือกทุกวัตถุดิบเพื่อคงเอกลักษณ์ดั้งเดิม หรือคนขายราเมงที่สืบทอดกันมาเป็นร้อยปีก็เพราะเขาภูมิใจในการทำเส้น ทำน้ำซุปในแบบของเขาที่ถ่ายทอดมาแต่บรรพบุรุษ
ปัจจุบันคนญี่ปุ่นพยายามปรับตัวในการเปิดรับข้อมูลข่าวสารของประเทศอื่น และเรียนภาษาต่างประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตามเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นยังคงอยู่ไม่ว่าจะย้ายไปประเทศไหน นอกจากเรื่องของวัฒนธรรมการทำธุรกิจที่เคยพูดถึงไปแล้ว สิ่งที่ดิฉันสังเกตได้จากการไปเยือน บริษัทญี่ปุ่น ในประเทศอื่นได้แก่
1) โรงงานที่มีโครงสร้างแบบญี่ปุ่น เวลาเดินเข้าไปในโรงงานญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่จะสะดุดตาก็คือ ออฟฟิสที่เป็นประตูกระจกดูโปร่งโล่ง ที่สำคัญมักจะมีบันไดขึ้นชั้นสองพาดตรงกลางล็อบบี้ด้านล่างที่ดูเป็น เอกลักษณ์ ซึ่งจะไม่เห็นหากเป็นโรงงานของคนจีนหรือคนไทย และไม่ว่าจะไปโรงงานญี่ปุ่นประเทศไหนๆ ก็มีลักษณะแบบนี้เหมือนกันหมด

2) ชั้นวางรองเท้า ดิฉันเคยไปเยี่ยมลูกค้าที่เป็นโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หลายแห่งที่ ประเทศเวียดนาม ทุกโรงงานที่ไปจะต้องมีชั้นวางรองเท้าให้ผู้มาเยือนเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบริษัท ยิ่งไปกว่านั้นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ เราก็จะต้องเปลี่ยนรองเท้าอีกคู่สำหรับเข้าห้องน้ำโดยเฉพาะค่ะ

3) กิจกรรม 5 ส ที่เป็นที่นิยมกันก็ต้องมีการปฏิบัติในทุกๆ ประเทศที่โรงงานญี่ปุ่นไปตั้ง วัตถุประสงค์ก็เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในที่ทำงาน องค์ประกอบของ 5 ส ก็ได้แก่
สะสาง (整理 seiri) คือ การแยกของที่ต้องการ ออกจากของที่ไม่ต้องการ และขจัดของที่ไม่ต้องการ
สะดวก (整頓 seiton) คือ การจัดวางสิ่งของต่างๆ ในที่ทำงานให้เป็นระเบียบ เพื่อความสะดวกในการใช้งานและปลอดภัย
สะอาด (清掃 seiso) คือ การทำความสะอาดเครื่องจักร อุปกรณ์ และ สถานที่ทำงาน
สุขลักษณะ (清潔 seiketsu) คือ ความหมดจด สะอาดตา ถูกสุขลักษณะ
สร้างนิสัย (躾 shitsuke) คือ การอบรม สร้างนิสัย ในการปฏิบัติงานตามระเบียบ วินัยข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
4) ห้องน้ำ ดิฉันไปบริษัทญี่ปุ่นในหลายประเทศ สิ่งที่ประทับใจที่สุดก็คือ ห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำยังคงเป็นโถชักโครกแบบญี่ปุ่นที่มีปุ่มกดสำหรับชำระล้างสารพัดเหมือน ที่มีที่ประเทศญี่ปุ่นยังไงยังงั้นเลยค่ะ

5) อาหารในโรงอาหาร ตอนไปเยี่ยมโรงงานที่ประเทศยุโรปและเม็กซิโก โรงอาหารภายในโรงงานมีอาหารเป็นเซ็ทให้เลือก ที่สำคัญมีอาหารญี่ปุ่นทั้งราเมง ข้าวแกงกระหรี่ และข้าวหน้าเนื้อให้เลือกรับประทานได้ด้วยค่ะ เรียกได้ว่างานนี้ไม่มีอด