ขอมาเขียนถึงแมวญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่า แมวเหมียวนั้นอยู่คู่กับประเทศญี่ปุ่นมานานมากพอสมควร สังเกตได้จาก ภาพวาดโบราณ เรื่องเล่าต่างๆ ล้วนมีเจ้าเหมียวเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ด้วยเสมอ มีทั้งด้านดีและไม่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็จะดีและให้โชคให้ลาภมากกว่านะขอรับ
บทความโดย : The 19th Ronin www.marumura.com
เคยเขียนถึงสุนัขญี่ปุ่นไปแล้ว ครั้งนี้หมายเลขสิบเก้าขอมาเขียนถึงแมวญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่า แมวเหมียวนั้นอยู่คู่กับประเทศญี่ปุ่นมานานมากพอสมควร สังเกตได้จาก ภาพวาดโบราณ เรื่องเล่าต่างๆ ล้วนมีเจ้าเหมียวเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ด้วยเสมอ มีทั้งด้านดีและไม่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็จะดีและให้โชคให้ลาภมากกว่านะขอรับ

เชื่อกันว่าแมวบ้านญี่ปุ่นนั้นมาเริ่มเข้ามาในญี่ปุ่นเมื่อราว ปี ค.ศ. 600 ในยุคอะซึกะ สันนิษฐานว่ามาพร้อมๆ กับการเข้ามาของพุทธศาสนาในประเทศญี่ปุ่น ผ่านเข้ามาทางจีนและเกาหลี
สมัยนั้นในแต่ละวัดต้องหาแมวมาเลี้ยงอย่างน้อยซักตัวสองตัว เพื่อให้ไล่จับหนูที่เป็นวายร้ายต่อการกัดแทะคัมภีร์และตำราต่างๆ ให้เกิดความเสียหาย เป็นสัตว์ที่ได้รับการยอมรับในสังคมญี่ปุ่นในยุคนั้นเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะไล่หนูในวัดแล้วยังสามารถไล่หนูที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
นับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่เค้าถือว่ามีเกียรติและให้โชคลาภแก่ผู้เลี้ยง แถมยังเป็นผู้ที่ช่วยรักษาประวัติศาสตร์ไม่ให้ถูกกัดแทะหายไปอีกด้วย

สมัยก่อน ที่เกาะ Tashiro-jima เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ใกล้กับเมือง Ishinomaki ในจังหวัด Miyagi ทางการญี่ปุ่นมีคำสั่งออกมาว่าแมวควรอยู่อย่างอิสระ เพื่อช่วยขับไล่หนูปกป้องหนอนไหมที่ชาวประมงในแถบนั้นเลี้ยงไว้เพื่อนำมาผลิตผ้าไหม
ซึ่งเจ้าเหมียวในยุคนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ห้ามค้าขาย ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายเลยทีเดียว จะมีให้เห็นก็ต้องไปฟาร์มและตามท้องถนน น่าสงสารจากแมวบ้านกลายเป็นแมวข้างถนนซะงั้น !! ในปัจจุบันประชาการบนเกาะลดลง จึงกลายเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยแมว และก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่รักแมวไปซะแล้ว

ราวๆ ปี 1968 ชาวต่างชาติที่ชื่อว่า Elizabeth Freret ได้นำแมวพันธุ์ Japanese Bobtail จำนวนหนึ่งกลับไปยังอเมริกา จากนั้นไม่นานในปี 1971 ก็มีการรับรอง มาตรฐานของสายพันธุ์นี้โดย The Cat Fanciers’ Association (CFA) อีกห้าปีต่อมาเหมียวญี่ปุ่นพันธุ์หางกุดก็ได้ชนะการประกวด
ราวๆ ปี 1701 ในจดหมายเหตุแกมป์เฟอร์ เขียนโดยนายแพทย์ชาวตะวันตกชาวเยอรมันนามว่า Engelbert Kaempfer เกี่ยวกับพืชสัตว์และภูมิทัศน์ของญี่ปุ่น ได้เขียนถึงแมวญี่ปุ่นหางสั้นไว้ว่า
“มีแมวสายพันธุ์หนึ่งที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ มันมีจ้ำขนที่มีสีเหลือง สีขาว และสีดำ หางสั้นเหมือนโดนหักจนโค้งงองุ้มม้วนอยู่ พวกมันไม่ค่อยชอบล่าหนูซักเท่าไหร่ แต่ชอบรอเวลาที่จะเคลิบเคลิ้มไปด้วยการลูบไล้จากผู้หญิง”

แมวที่ แกมป์เฟอร์ ได้กล่าวเอาไว้ ก็คือ พันธุ์แมวญี่ปุ่นหางสั้น หรือ Japanese Bobtail นั่นเอง เป็นแมวสายพันธุ์โบราณของญี่ปุ่น มีลักษณะ เป็นแมวขนาดกลาง หน้าเป็นโครงสามเหลี่ยม หูตั้ง ขาหลังยาวกว่าขาหน้า ตารูปไข่ ขนสั้น หางสั้นเหมือนกระต่าย เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
ลวดลายคลาสิคบนขนของ เจแปนนิส บ็อบเทล คือ ลายกระดองเต่าสามสี ประกอบไปด้วย สีแดง สีดำ และสีขาว เรียกว่า (Mike-neko) ซึ่งสีลายบนรูปปั้นแมวกวักมาเนะคิเนะโกะสุดคลาสสิคก็คือมิเกะเนะโกะเนี่ยแหล่ะ ส่วนนิสัยของแมวญี่ปุ่นหางสั้น เป็นแมวที่ร่าเริง เป็นมิตรกับผู้คน ฝึกฝนได้ง่าย เป็นแมวบ้านอย่างดีสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียวขอรับ

ตำนานแมวญี่ปุ่นหางสั้น ว่ากันว่า สมัยก่อนมีแมวตัวหนึ่งเกิดงีบหลับไป และในขณะที่หลับหางเกิดโดนไฟไหม้ เมื่อรู้สึกตัวมันก็วิ่งไปทั่วเมือง เปลวไฟที่หางของมันทำให้เกิดเพลิงไหม้ เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง องค์จักรพรรดิจึงออกมาตรการให้ตัดหางแมวทุกตัวเพื่อป้องกันไหม้ไฟที่เกิดจากหางแมว
และคนญี่ปุ่นในสมัยก่อนเค้ามักจะเชื่อกันว่ากับแมวหางสั้นว่าเป็นแมวมงคล นำโชค ส่วนแมวหางยาวนั้นมักจะโดนสงสัยว่าเป็นแมวปีศาจ Nekomata นั่นเอง

นอกจากนี้ เครื่องราง คาแร็คเตอร์ มาสคอต แคทเนตไอดอล หลายๆ ตัว ที่เราเห็นตามสื่อบันเทิงก็มีมากมายเช่นกัน อย่างเช่น ตำนานแมวกวักมาเนะคิ เนะโกะ ที่เรียกโชคเรียกลาภมาให้แก่ผู้เลี้ยง อย่างแมวทามะประจำสถานีรถไฟคิชิ เมืองคิโนะกะวะ จังหวัดวะกะยะมะ ที่ทำให้สถานีรถไฟเล็กๆ เลื่องชื่อไปทั่วโลก แค่เพียงเพราะโดนจับแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นนายสถานีคอยรับแขกอยู่ด้านหน้า เป็นแมวที่สร้างรายได้เข้าเมืองได้มากมายทีเดียว ยังมีเฮลโลคิตตี้ คาแร็คเตอร์ที่รู้จักกันไปทั่วโลก จากค่ายซานริโอ้ ยังมีแมวอ้วนที่ชื่อว่า Muta อาศัยอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์จิบลิ มิกาตะ ก็เป็นแมวต้นแบบของคาแร็กเตอร์หลายๆ เรื่องในอนิเมะของจิบลิ ส่วนแคทเนตไอดอลที่โด่งดังนั้นก็มี แมวชิโระและเพื่อนพ้อง แมวกล่องมารุ เป็นต้น
หมายเลขสิบเก้าขอจบเรื่องแมวๆ ในตอนนี้ไปก่อน ไว้เจอกันโอกาสหน้านะขอรับ !!! <(^ω^)>
บทความโดย : The 19th Ronin www.marumura.com
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.sbpoet.com/2004/07/cats_in_japan.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Tashirojima
http://www.vetstreet.com/cats/meet-9-chatty-cat-breeds?page=7
http://tyz.blog85.fc2.com/blog-entry-128.html
http://www.tumblr.com/tagged/japanese%20print
http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_Bobtail