[ทดความคิด] เสียงครวญของคนรายได้ สิบล้านเยน…เช้าวันเสาร์ ผมก็ยังตามข่าวเรื่อง ประเทศไทยติดอันดับหนึ่ง ความเหลื่อมล้ำระดับโลก โดย Credit Suisse (CS) Global Wealth Report 2018
เช้าวันเสาร์ ผมก็ยังตามข่าวเรื่อง ประเทศไทยติดอันดับหนึ่ง ความเหลื่อมล้ำระดับโลก โดย Credit Suisse (CS) Global Wealth Report 2018
หลังจากข่าวถูกปล่อยออกมาไม่ถึงวัน โฆษกรัฐบาลก็ออกมาสวนทันควัณว่า เป็นข้อมูลเก่า และที่จริงประเทศไทยดีขึ้นกว่าสิบปีที่แล้วมาเยอะ เดี๋ยวนี้ประเทศไทย รวยกระจาย จนเหลือแค่กระจุกเดียวแล้ว !!
ผู้เขียนอยากรู้เรื่องว่า ความจริงเป็นยังไง และอยากรู้ต่อว่าประเทศญี่ปุ่นแสนรักของเราเป็นยังไง ก็เลยโหลด report จากเว็บไซต์ ของ Credit Suisse (CS) Global Wealth ที่ว่ามาดูเองซะเลย ยอมรับว่าเหนื่อยครับ เพราะต้องอ่านรีพอร์ต data sheet กว่า 167 หน้า… และสิ่งที่ผมค้นพบด้วยตัวเองก็คือ
1) ข้อมูลของประเทศไทยหลายๆ อันเก่าจริง หลายส่วนเป็นข้อมูลสิบปีที่แล้ว
2) แต่ถ้าเป็นพวกประเทศเจริญๆ แล้วอย่างญี่ปุ่น ข้อมูลจะดูเต็มมาก เหมือนเขาเก็บสถิติมาอย่างต่อเนื่อง
และเราก็พบว่าในรายงานที่ว่า คนไทยของเราโฟกัสที่ว่าเราเหลื่อมล้ำมาก โดยคนที่รวยที่สุด 1% ของไทย ครอบครองทรัพย์สิน ของประเทศไทยถึง 66.9% และพอเราแอบหันไปมองประเทศญี่ปุ่น เราพบว่าประเทศเจแปน คนที่รวย 1% แรกจะครอบครองทรัพย์สินในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 18.6% ซึ่งในตารางนั้น เราจะเห็นว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถือว่าเหลื่อมล้ำน้อยจริง เพราะในตารางเกือบสี่สิบประเทศ ญี่ปุ่นติดอันดับสองจากท้าย (ส่วนไทยอันดับหนึ่ง) แพ้แค่ประเทศ สโลวาเกีย
ตั้งแต่ผมเด็กๆ จนถึงวันนี้ มีทั้งคนญี่ปุ่น และรุ่นพี่คนไทยพูดคล้ายๆ กันว่าประเทศญี่ปุ่น เขาอาจจะชอบ “กระจายความทุกข์ ให้แบ่งๆ กันไป”
และมันก็ดูจริง
บังเอิญผู้เขียนเองก็ได้อ่านนิตยสาร Nikkei Business ของญี่ปุ่นเช่นกัน (ผมชอบนิตยสารอันนี้นะครับ เวลาอธิบายอะไรจะเต็มไปด้วยข้อมูลที่จริงจัง ขึงขัง ดูน่าเชื่อถือ เรื่องที่หยิบยกมาก็น่าสนใจ เสียอย่างเดียว อาจจะเพราะว่าผู้เขียนสมองน้อยไป บางเรื่องเขียนยากมาก อ่านแล้วเหนื่อย)
มีเล่มนึงเขาขึ้นหน้าปกแปลเป็นไทยประมาณว่า “ความโศกเศร้าของครอบครัวรายได้ สิบล้านเยน” ในบทความนั้น เริ่มแรกเหล่าซาลารี่แมนญี่ปุ่นคงเชื่อว่าหากได้รายได้ปีนึงเกินสิบล้านเยน หรือประเมาณสามล้านบาทไทย น่าจะถือว่าติดชั้นบนๆ ของประเทศ
(จริงอยู่ประเทศญี่ปุ่นยังมีค่าครองชีพแพงกว่าไทย ตอนนี้เราน่าจะประเมินได้ว่าหากใครได้เงินเกินสิบล้านเยนที่ญี่ปุ่น ก็น่าจะประมาณว่ามีรายได้สัก 1.5-2 ล้านบาทไทย ซึ่งถ้าหันมามองคนไทยที่มีรายได้ประมาณนี้ ก็น่าจะถือว่าดีพอที่จะใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีในดินแดนแห่งนี้ได้อยู่)
บทความตีแผ่ความทุกข์ของคนหรือครอบครัวที่ถึงแม้รายได้ทะลุสิบล้านเยน แต่ด้วยทั้งภาษี (ประเทศญี่ปุ่นมีการเก็บภาษีที่โหดร้ายมากครับ ทั้งภาษีเงินได้ ภาษีท้องถิ่น) ค่าประกัน หรือค่าเลี้ยงดูลูก ทำให้พวกเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ราวกับรัฐบาลออกนโยบายมารังแกชนชั้นของพวกเขาเต็มๆ เพราะถ้ามีรายได้สัก ห้าหกล้านเยนต่อปี จะมีเรทการเก็บภาษีหรือการลดหย่อนที่ช่วยพวกเขาเยอะกว่า
มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ
ในสมัยก่อนเกือบห้าสิบปีที่แล้ว บริษัทญี่ปุ่นจะตั้งเกณฑ์ว่าพนักงานที่เงินเดือนน้อยที่สุดจะห่างกับพนักงานที่เงินเดือนมากที่สุดในบริษัทไม่เกินสี่เท่า (แน่นอน ตอนนี้คงไม่มีบริษัทไหน รักษากฎนี้ไว้แล้ว ไม่งั้นประธานบริษัทคงเงินเดือนไม่ถึงแสนบาทไทย ^^)
หรือถ้าเราไปศึกษาระบบภาษีญี่ปุ่นลึกๆ จะพบว่า ประเทศนี้เก็บภาษีมรดกหนักมาก ! เพราะถ้ามรดกคุณเยอะจริงระดับร้อยล้าน คุณจะโดนภาษีถึงครึ่งนึง ไอเดียของคนญี่ปุ่นคือคิดว่า
หากคุณรวยขึ้นมาเพราะความพยายาม ความคิดอันแสนวิเศษก็รวยไป แต่พอถึงรุ่นหลานเหลนของคุณ เขาก็ต้องคืนสังคม คนเราจะรวยใช่ว่าเพราะพ่อแม่ปู่ย่ารวย มันต้องมาจากตัวคุณเอง
(ถ้าจำไม่ผิด ประเทศไทยไม่มีนโยบายนี้ ดังนั้นหากใครรวยเป็นร้อยล้าน ลูกหลานก็สบายตลอดชาติไปเลย แหมสวรรค์ของคนรวยจริงๆ)
เขียนมาถึงนี่…. ผู้เขียนอยากจะบอกว่า หากจะอยากให้ประเทศกะลาแลนด์จะลดความเหลื่อมล้ำล่ะก็ คงต้องเริ่มจาก
“แบ่งๆ ความทุกข์กันไป” ให้มากกว่านี้ เหล่าซาลารี่แมนที่เงินเดือนเกินแสนคงต้องเสียภาษีที่โหดกว่านี้ หัวหน้าระดับ VP คงไม่ปลื้ม หรือถ้าได้มรดก อาจต้องแบ่งเข้ารัฐแบบลูกหลานช็อคอ้าปากค้าง…
ซึ่งดูท่าแล้ว ไม่น่าจะเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินนี้ในร้อยปีข้างหน้านี้เลย…
เรื่องแนะนำ :
– (ทดความคิด) ปลุกความเป็นโคนันในตัวคุณ คดีช็อคโลกจากตำนานสู่ดราม่า “เดอะ กอส์น”
– กูมี… บอกไปสิ เราก็มีของดีแบบญี่ปุ่น (Based on True Story)
– Yanai Tadashi เรียกข้าว่าความถูกต้อง
– บทความที่ 73 เรื่องตั้งชื่อ เรื่องง่ายๆ ของพายุญี่ปุ่น
– ทดสอบความคิด…. ญี่ปุ่นกับทักษะการ [กะ]