วันก่อนดิฉันได้มีโอกาสดูรายการทีวีที่มีเนื้อหาน่าสนใจมากรายการหนึ่ง เค้าพูดเกี่ยวกับเรื่อง “อันดับของประเทศที่มีอัตราค่าบริการแท็กซี่ถูกที่สุด” (มีแท็กซี่ญี่ปุ่นด้วย) เป็นรายการที่มีชื่อว่า “เซะไก บันสุเกะ” มีเนื้อหาสนุกๆ เกี่ยวกับการนำเรื่องต่างๆ ที่น่าสนใจจากทั่วโลกมาจัดอันดับ …
เรียบเรียงโดย : ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jat
วันก่อนดิฉันได้มีโอกาสดูรายการทีวีที่มีเนื้อหาน่าสนใจมากรายการหนึ่ง เค้าพูดเกี่ยวกับเรื่อง “อันดับของประเทศที่มีอัตราค่าบริการแท็กซี่ถูกที่สุด” เป็นรายการที่มีชื่อว่า “เซะไก บันสุเกะ” มีเนื้อหาสนุกๆ เกี่ยวกับการนำเรื่องต่างๆ ที่น่าสนใจจากทั่วโลกมาจัดอันดับ (ซึ่งก็มีประเทศญี่ปุ่นด้วย) สำหรับเนื้อหาของรายการที่ได้ดูในวันดังกล่าวคือเรื่อง “อันดับของประเทศที่มีอัตราค่าบริการแท็กซี่ถูกที่สุด” มีการนำหลายๆ เมืองจากทั่วโลกมาเทียบกันว่า ด้วยเงิน 1,000 เยน (400 บาท) จะไปได้ไกลแค่ไหน โดยมีกรุงเทพและโตเกียวติดใน 10 อันดับด้วย
ถ้าให้ดิฉันลองเดาดู ก็คิดว่าประเทศไทยคงเป็นอันดับ 1 เพราะค่าแท็กซี่ถูกกว่าที่ญี่ปุ่นมาก ญี่ปุ่นเองคงได้อันดับท้ายๆแน่ๆ แต่ปรากฏว่าผิดคาดค่ะ ประเทศอินเดียได้อันดับ 1 ไปครอง เพราะว่าด้วยค่าโดยสาร 1,000 เยน จะสามารถเดินทางได้ไกลถึง 87 กิโลเมตร ที่ 2 ก็คือประเทศไทยค่ะ 55.4 กิโลเมตร สำหรับญี่ปุ่นได้อันดับ 9 คือเดินทางได้ 2.9 กิโลเมตร และอันดับสุดท้ายได้แก่ ฮอลแลนด์ 2.7 กิโลเมตร ถ้านำระยะในการเดินทางต่อจำนวนเงิน 1,000 เยนมาเทียบกันก็จะพบว่า ค่าโดยสารรถแท็กซี่ในประเทศไทย ถูกกว่าที่ประเทศญี่ปุ่นถึง 19 เท่าเลยค่ะ

ทุกคนทราบไหมคะ ว่าค่าโดยสารแรกเริ่มกิโลเมตรแรกของที่ญี่ปุ่นเริ่มที่เท่าไหร่? ที่ญี่ปุ่นเราคิดค่าบริการ 2 กิโลเมตรแรก 710 เยน (284 บาท)ค่ะ หลังจากนั้น ทุกๆ 288 เมตรคิดเพิ่มทีละ 90 เยน (37 บาท) นั่นก็เลยทำให้เงิน 1,000 เยน พาเราไปได้ไกลแค่ 2.9 เมตรไงล่ะคะ
เวลาที่ดิฉันอยู่ที่เมืองไทย ด้วยความที่เดินไปไหนมาไหนก็ร้อน แถมค่าแท็กซี่ไทยก็ถูกกว่าแท็กซี่ญี่ปุ่นมาก ดิฉันก็มักจะใช้บริการอยู่เป็นประจำโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ที่ญี่ปุ่นทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดเลยล่ะค่ะ (T T) ไม่รู้ว่าจะมีแต่ดิฉันรึเปล่าที่ต่อให้คิดว่ารถต้องติดมากแน่ๆ เลย ก็ยังคงเดินทางด้วยแท็กซี่อยู่ดี เพราะสะดวกสบายกว่าเป็นไหนๆ ^^

รูปลักษณ์ของรถแท็กซี่ที่ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นก็แตกต่างกันมากค่ะ รถแท็กซี่ของประเทศไทยสีสันสดใสสะดุดตา วิ่งไปมาในเมืองก็สวยเก๋ดีนะคะ ^^


แต่ว่าแท็กซี่ของไทยก็คงไม่ได้มีแต่ข้อดีใช่ไหมล่ะคะ.. ที่เจอบ่อยๆ ก็คือ
1. | ปฏิเสธผู้โดยสาร พอผู้โดยสารบอกว่าจะไปไหน ก็อ้างว่า น้ำมันหมดบ้าง ตรงโน้นรถติดไม่อยากไปบ้าง ถึงเวลาส่งรถบ้าง |
2. | ท่าทีในการให้บริการ ก็ดูไม่ค่อยมีมารยาทและดูไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก |
3. | พวกหน้าเลือด คือไม่ยอมคิดราคาตามมิเตอร์ที่ติดตั้งในรถ แต่จะให้เหมาราคาแพงๆ อย่างเดียว |
ที่ญี่ปุ่นถึงค่าแท็กซี่จะแพงหูฉี่ แต่เมื่อเทียบกับสมัยก่อน ปัจจุบันคนขับมีมารยาทดี และเคารพกฏจราจร ขับขี่ปลอดภัย ผู้โดยสารก็นั่งได้อย่างวางใจ
ถ้าคนขับรถแท็กซี่ในเมืองไทย (ที่ไม่ดี) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็คงจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ส่วนที่ญี่ปุ่น ถ้าค่าแท็กซี่ถูกลงกว่านี้ก็น่าจะดีเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าแหล่ะค่ะ จะให้สิ่งต่างๆ สมบูรณ์แบบไปซะหมดก็คงจะยากใช่ไหมล่ะคะ
เรียบเรียงโดย : ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jat
เอื้อเฟื้อโดย :
โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท Jat (JAT Japanese language school)
http://www.jatschool.com
ขอบคุณรูปภาพประกอบ
http://www.ntv.co.jp/banduke/outline.html
http://www.tripadvisor.jp/pages/TaxiFare_zoom.html
http://www.taxisite.com/far/info/13.aspx
http://www.bangkoknavi.com/special/5038219
http://www.bangkoknavi.com/special/5004583