ความเชื่อเรื่องด้ายแดงแห่งโชคชะตา ถ้าเทียบกับความเชื่อของไทยหรือความเชื่อของตะวันตกอาจจะเทียบเคียงได้กับเรื่องของเนื้อคู่ คู่แท้ หรือความเชื่อเรื่อง Soul mate หรือ Destined Flame นั่นเองค่ะ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา (運命の赤い糸) พันธนาการแห่งคู่แท้ที่ไม่อาจขาดจากกัน
เดือนที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปช่วยงานเป็นล่ามและพิธีกรของโปรดักชั่นละครเรื่องหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่นที่คณะที่ผู้เขียนเรียนอยู่ค่ะ ในช่วงท้ายของแต่ละรอบของละครจะมีการเสวนาถาม – ตอบกับผู้กำกับเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้ชมที่มาชมละครได้เป็นอย่างดี
ละครเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นแนวคิดและความเชื่อของญี่ปุ่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฤดูกาลสี่ฤดู จิตวิญญาณของธรรมชาติ การกลับชาติมาเกิด และหนึ่งในนั้นซึ่งเป็นแก่นสำคัญของเรื่องก็คือ “ด้ายแดงแห่งโชคชะตา” หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 「運命の赤い糸」 (Unmei no akai ito) ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่อาจจะยังไม่คุ้นเคยหรือไม่ทราบเกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องนี้เท่าใดนัก ดังจะเห็นได้จากการเสวนาในช่วงท้ายของละครทุกรอบ จะมีคำถามเกี่ยวกับด้ายแดงแห่งโชคชะตานี้ทุกครั้ง วันนี้ผู้เขียนจึงขอนำเสนอบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ทราบกันค่ะ
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา เป็นความเชื่อของประเทศในแถบเอเชียตะวันออก มีต้นกำเนิดของความเชื่อมาจากประเทศจีน ภาษาจีนเรียกว่า 紅线 หรือ หงเชี่ยน โดยความเชื่อของจีนคือ หนุ่มสาวที่โชคชะตากำหนดให้มาคู่กัน จะมีเชือกสีแดงที่มองไม่เห็นผูกอยู่ที่ข้อเท้าของแต่ละฝ่าย (ในความเชื่อของญี่ปุ่นเปลี่ยนจากเชือกสีแดงเป็นด้ายสีแดงผูกอยู่ที่นิ้วก้อยของทั้งสองฝ่ายแทน) ตำนานเล่าว่าเทพเจ้าที่ชื่อว่า 月下老 (เยว่เชี่ยเหลา)เป็นผู้ควบคุมกำหนดด้ายแดงแห่งโชคชะตา คืนหนึ่ง ขณะที่เด็กชายคนหนึ่งกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น ระหว่างเขาได้พบกับชายแก่คนหนึ่งยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ (ซึ่งก็คือ 月下老 นั่นเอง) ชายแก่บอกกับเด็กชายว่าเด็กชายได้ถูกกำหนดให้เป็นคู่แท้กับภรรยาของเขา โดยมีด้ายแดงแห่งโชคชะตาผูกพันระหว่างทั้งสองคน ชายแก่ยังได้พาเด็กชายไปดูเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าสาวในอนาคตของเขาอีกด้วย แต่ด้วยความที่ยังเด็กและไม่สนใจความรัก เด็กชายจึงขว้างก้อนหินใส่เด็กผู้หญิงแล้ววิ่งหนีไป
หลายปีต่อมา เด็กชายได้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่ม และกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานซึ่งพ่อแม่เป็นคนจัดการให้ ในคืนวันแต่งงาน เขาได้เข้าไปหาเจ้าสาวของเขาในห้องนอน เมื่อเขาเปิดผ้าคลุมออกก็พบว่าเจ้าสาวของเขาเป็นผู้หญิงที่สวยงามมาก แต่เธอมีเครื่องประดับชิ้นหนึ่งติดอยู่ที่บริเวณคิ้ว ชายหนุ่มถามเธอถึงสาเหตุที่เธอต้องติดเครื่องประดับชิ้นนี้ เธอเล่าว่า เมื่อตอนเธอยังเด็ก มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งขว้างก้อนหินใส่เธอ ทำให้เธอมีแผลเป็นบริเวณคิ้วติดตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชายหนุ่มจึงได้รู้ว่า ที่แท้แล้วเจ้าสาวของเขาก็คือเด็กผู้หญิงที่ 月下老 ได้บอกว่าเป็นคู่แท้ของชายหนุ่มที่ผูกพันกันด้วยด้ายแห่งโชคชะตาเมื่อตอนเขายังเป็นเด็กนั่นเอง

ความเชื่อเรื่องด้ายแดงแห่งโชคชะตา ถ้าเทียบกับความเชื่อของไทยหรือความเชื่อของตะวันตกอาจจะเทียบเคียงได้กับเรื่องของเนื้อคู่ คู่แท้ หรือความเชื่อเรื่อง Soul mate หรือ Destined Flame นั่นเองค่ะ ซึ่งด้ายแดงแห่งโชคชะตานี้จะเชื่อมโยงกับทั้งสองฝ่ายตลอด ไม่ว่าทั้งคู่จะอยู่ที่ใด ณ เวลาใด หรือชาติภพใดก็ตาม ด้ายแดงนี้อาจจะยืดตึง หรืออาจจะพันกันได้ แต่ไม่อาจตัดขาดออกจากกันได้ค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับความเชื่อเรื่องด้ายแดงแห่งโชคชะตาของญี่ปุ่น ผู้อ่านหลายท่านอาจจะได้พบกับคู่ด้ายแดงแห่งโชคชะตาแล้ว แต่สำหรับผู้เขียนก็ยังคงต้องหาต่อไปค่ะ ไม่รู้อีกฝ่ายจะเกิดหรือยังนะนั่น (ฮา)
เรื่องแนะนำ :
– ร้านชา Itoen ชาดีๆ มารวมอยู่ที่ Asakusa
– ชมใบไม้แดงเส้นทางรถไฟสายโรแมนติก Watarase Keikoku Railway ที่ Gunma
– ‘Pension New Karuizawa’ เจ้าของใจดี ที่พักน่ารัก ราคาสุดคุ้ม
– 4 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีใกล้โตเกียวในเดือนตุลาคม
– 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียว พร้อมพิกัด!
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
http://en.wikipedia.org/wiki/Red_string_of_fate
http://ja.wikipedia.org/wiki/ 運命の赤い糸
http://blogimg.goo.ne.jp/user_image/66/2a/9ea2b1c968bcea1f8c2c3308bd701cca.jpg
http://gentiljewel.com/blog100814g.JPG
http://magnoliarouge.com/category/engagement/page/20/