วันนี้พุงโกะนำเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนประถมในญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ โดยพุงโกะจะหยิบยกเรื่องที่แตกต่างจากโรงเรียนประถมของเมืองไทย (ในสมัยที่พุงโกะเป็นเด็ก ซึ่งผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แหะๆๆ) และเรื่องที่พุงโกะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าสนใจมาเล่าให้ฟังนะคะ
โรงเรียนประถมในแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกันไปในการอบรม สั่งสอนเยาวชนของประเทศนั้นๆให้เติบโตขึ้นมาเป็นพลเมืองที่ดี ช่วยกันพัฒนาประเทศชาติกันต่อไปนะคะ
วันนี้พุงโกะนำเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนประถมในญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ โดยพุงโกะจะหยิบยกเรื่องที่แตกต่างจากโรงเรียนประถมของเมืองไทย (ในสมัยที่พุงโกะเป็นเด็ก ซึ่งผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แหะๆๆ) และเรื่องที่พุงโกะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าสนใจมาเล่าให้ฟังนะคะ
– เดินเรียงกันเป็นแถวไปและกลับจากโรงเรียน
ก่อนอื่นโดยส่วนใหญ่เด็กจะสามารถเข้าโรงเรียนประถมที่อยู่ในเขตที่ตนเองอาศัยอยู่ ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก สามารถเดินไปกลับโรงเรียนได้ เพื่อความปลอดภัยจะมีการเดินไปและกลับจากโรงเรียนกันเป็นกลุ่ม โดยจะมีพี่ประถมซึ่งอยู่ชั้นสูงกว่าคอยควบคุมดูแลอยู่ด้วย
– เปลี่ยนรองเท้าเมื่อถึงโรงเรียน
พอถึงโรงเรียนจะมีตู้รองเท้าให้เปลี่ยนเป็นรองเท้าผ้าแบบบางๆ ไว้สำหรับใส่ในโรงเรียนเท่านั้น เรียกว่า 上履き:uwabaki นักเรียนก็ต้องถอดรองเท้าของตัวเองวางไว้ในชั้นของห้องตนเองและในช่องที่กำหนดไว้ โดยวางรองเท้าที่ใส่มาในชั้นล่าง ส่วนชั้นบนในช่องของตัวเองจะเป็นที่วางรองเท้าที่ใส่ในโรงเรียน โดยส่วนใหญ่จะเขียนชื่อของตัวเองติดไว้ที่รองเท้ากันสลับกับเพื่อนคนอื่นๆ ค่ะ
– มีชั้นไว้สำหรับวางกระเป๋านักเรียนในห้องเรียน
ในห้องเรียนจะมีชั้นสำหรับใส่กระเป๋านักเรียนและสัมภาระอื่นๆ ที่บริเวณหลังห้อง ส่วนใหญ่จะระบุว่าช่องของใครอยู่ตรงไหนไว้อย่างชัดเจน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย นักเรียนก็จะหยิบหนังสือและอุปกรณ์การเรียนไปไว้ที่โต๊ะ ส่วนของที่ยังไม่จำเป็นก็ไว้ในชั้นด้านหลัง ที่สำคัญไม่ค่อยมีของหาย เรื่องนี้คนต่างชาติแอบตกใจกันเล็กๆ ค่ะ
– นักเรียนเป็นคนทำความสะอาดเอง ไม่มีภารโรง
โรงเรียนประถมในญี่ปุ่นนักเรียนจะมีเวรทำความสะอาดผลัดเปลี่ยนกันไป หลังจบชั่วโมงเรียน จะแยกย้ายกันทำความตามความรับผิดชอบของตัวเอง ทั้งห้องเรียน ทางเดิน โรงยิม สนาม และที่อื่นๆ โรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่มีภารโรงคอยทำความสะอาดให้ สิ่งนี้เป็นการปลูกฝังให้เด็กๆรู้จักวิธีทำความสะอาด รักษาความสะอาดกันเป็นนิสัยติดตัวกันตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ
– มีการเรียกผู้ปกครองมาชมการเรียนการสอนในห้องเรียน
แต่ละปีจะมีการเชิญผู้ปกครองมาชมการเรียนการสอนในชั้นเรียนของลูกๆ อาจจะเป็นปีละ 1-2 ครั้งแล้วแต่โรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองรับรู้ว่าโดยปกติแล้ว ในห้องเรียนลูกของตนเองเป็นอย่างไรบ้าง เป็นต้นค่ะ
– ครูประจำชั้นจะไปพบผู้ปกครองและเด็กที่บ้าน
ส่วนใหญ่ครูประจำชั้นจะไปบ้านของนักเรียนทุกคนในชั้น ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อสอบถามปัญหาต่างๆ ของเด็กจากผู้ปกครองโดยตรงและการที่ครูประจำชั้นสามารถเห็นที่อยู่อาศัย สังคม สิ่งแวดล้อมที่นักเรียนดำเนินชีวิตอยู่จะช่วยให้ครูประจำชั้นสามารถเข้าใจนักเรียนในปกครองได้มากขึ้นอีกด้วย หรือบางครั้งครูประจำชั้นก็อาจจะสังเกตเห็นความผิดปกติในครอบครัวอื่นๆ ได้อีกด้วย
– ครูไม่สามารถรับสอนพิเศษหรือไปรับสอนที่อื่นได้
โดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นครูในโรงเรียนรัฐบาลจะถือเป็นข้าราชการ หรือถ้าเป็นโรงเรียนเอกชนก็เป็นพนักงานประจำของโรงเรียนนั้นๆ ซึ่งที่ญี่ปุ่นมีกฎ ข้อบังคับเกี่ยวกับการไม่ให้ทำงานเสริม งานพิเศษต่างๆ เพราะอาจจะกระทบกับงานหลักที่ทำอยู่ ดังนั้นครูในโรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่รับสอนพิเศษเด็กนอกรอบ หรือรับจ้างสอนพิเศษในสถานที่กวดวิชาต่างๆ ได้ค่ะ
– ที่หลบภัยสำหรับเด็กๆ หรือโคะโดะโมะ 110 บัง
110 คือเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน สำหรับเรียกตำรวจ เหมือน 191 ที่เมืองไทยนะคะ สถานที่ต่างๆ ที่มีป้ายที่เขียนว่า 「こども110番の家」 จะหมายถึงที่ที่พร้อมจะช่วยเหลือเด็กๆ เวลาเดินไปโรงเรียนหรือกลับบ้านแล้วเจอคนหรือรถที่น่าสงสัย รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยก็สามารถขอความช่วยเหลือจากบ้านหรือร้านค้าที่ติดป้ายพวกนี้ได้ตลอดเวลา หรือแม้แต่จะเป็นการอยากเข้าห้องน้ำแบบฉุกเฉินก็สามารถขอความช่วยเหลือจากที่เหล่านี้ได้ด้วยค่ะ
เรื่องที่นำมาเล่ากันในวันนี้ พุงโกะขออนุญาตแยกเรื่องเกี่ยวกับอาหารกลางวันของเด็กๆ ในโรงเรียนประถมออกไปนะคะ เนื่องจากเกรงว่าจะยาวจนเกินไป เดี๋ยวอ่านกันตาลายเสียเปล่าๆ เรื่องเกี่ยวกับอาหารกลางวันมีเนื้อหาที่อยากเล่าเยอะหน่อยค่ะ ไว้ติดตามกันในสัปดาห์หน้านะคะ
(^_____พุงโกะ_____^)
ทักทายพูดคุยกับพุงโกะ ได้ที่ >>> Tokyo’s LifeStyle by พุงโกะ-สะใภ้ปลาดิบ
เรื่องแนะนำ :
– สัตว์เลี้ยงแสนรักของคนญี่ปุ่น จะเป็นอะไรกันบ้างนะ?
– เมนูง่ายๆ ทำเองได้โชว์เสน่ห์ปลายจวักมัดใจแฟนหนุ่ม
– 13 สาขาของร้าน STARBUCKS COFFEE ที่อยากไปเยือนสักครั้งเมื่อมาญี่ปุ่น
– เสริมเสน่ห์ให้แก่ตัวเองบนโต๊ะอาหารด้วยการพับปลอกตะเกียบ
– 5 อันดับการกินโมจิที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
https://www.tsunagujapan.com/ja/30-unexpected-things-you-can-only-see-in-japan-2/
http://hidamarisaron.blogspot.jp/2014/07/blog-post_11.html
http://nagopark.exblog.jp/m2008-10-01/
http://www.city.omitama.ibaraki.jp/takehara-e/?p=2038
http://school.shinkamigoto.net/imazatosho.php?itemid=6249
http://bungakusya.seesaa.net/article/380807567.html
http://toitakoumi.exblog.jp/7987450/