คนไทยบางท่าน จะมีการดูดวงลูกแล้วผ่าตามวันและเวลาที่ไปดูดวงมาแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นไม่มี คุณโทโมโกะเล่าไปยิ้มไป
(บทความนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก Japanese Hospital โรงพยาบาลสมิติเวช)
วันนี้ดิฉันได้พบกับคุณโทโมโกะ ทากาตะ ผู้ประสานงานด้านการรักษา ของ Japanese Hospital ที่โรงพยาบาลสมิติเวช
คุณโทโมโกะเคยติดตามครอบครัวมาอยู่ที่เมืองไทย จากนั้นไปทำงานที่อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส จนตัดสินใจขอกลับมาทำงานที่ไทยอีกครั้ง
คุณโทโมโกะมีหน้าที่ช่วยประสานงานกับทีมแพทย์พยาบาลกับคนไข้ญี่ปุ่นที่มาที่สมิติเวช
ถ้าคนญี่ปุ่นไม่สบาย และต้องส่งกลับญี่ปุ่น คุณโทโมโกะจะช่วยเรื่องวีซ่า ประกัน และการออกใบรับรองแพทย์ให้โรงพยาบาลที่ญี่ปุ่นเพื่อให้คนไข้ถูกส่งตัวไปที่ญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่น
![โรงพยาบาลญี่ปุ่นในไทย](https://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/Samitivej/4.jpg)
ที่ญี่ปุ่นคนไข้ไม่สามารถเดินดุ่ม ๆ เพื่อจะไปพบหมอตามโรงพยาบาลมหาลัยหรือโรงพยาบาลประจำท้องถิ่นบางแห่งได้ ต้องมีใบส่งตัวจากคลินิกหรือโรงพยาบาลทั่วไปก่อน
คุณโทโมโกะจึงเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างทีมแพทย์ไทยและฝั่งคนไข้ญี่ปุ่น
หนึ่งในเรื่องที่คุณโทโมโกะเล่า แล้วดิฉันไม่เคยทราบมาก่อน คือ ความแตกต่างเรื่องการคลอดระหว่างไทย-ญี่ปุ่น
คุณแม่ญี่ปุ่นแปลกใจมากที่คุณแม่ไทยสามารถเลือกว่าจะคลอดลูกแบบธรรมชาติ หรือแบบผ่าได้
หมอญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะให้คุณแม่คลอดแบบธรรมชาติ ส่วนหนึ่งเพราะตัวคุณแม่เองเชื่อว่าหากคลอดเองจะรักและผูกพันกับลูก บวกกับความเสี่ยงน้อยกว่า
มีตัวเลขว่าผู้หญิงญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 70 คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ หมอญี่ปุ่นจะผ่าคลอดให้เฉพาะคุณแม่ที่มีความเสี่ยงในการคลอดเองเท่านั้น
ส่วนของไทย ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน อย่างโรงพยาบาลสมิติเวช ประมาณร้อยละ 60 ของคนไข้จะคลอดด้วยวิธีการผ่าตัด
ทั้งคุณโทโมโกะและคุณแม่ญี่ปุ่นหลายรายจึงแปลกใจมากเมื่อมาฝากท้องที่สมิติเวช แล้วทางคุณหมอถามว่า “จะคลอดแบบธรรมชาติ หรือจะผ่าคลอดดีคะ” ทุกคนงงว่าตนเองสามารถเลือกได้ด้วย …
แต่ที่คนญี่ปุ่นแปลกใจยิ่งกว่า คือ เหตุผลในการเลือกผ่าคลอดของพวกเราชาวไทยค่ะ
นอกจากเหตุผลว่าคุณแม่เจ็บน้อยกว่าแล้ว คนไทยยังมีเหตุผลน่ารัก ๆ แบบนี้
“คนไทยบางท่าน จะมีการดูดวงลูก
แล้วผ่าตามวันและเวลาที่ไปดูดวงมาแล้ว
นั่นเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นไม่มี”…คุณโทโมโกะเล่าไปยิ้มไป
คนไทยเราเลือกได้ตั้งแต่วิธีคลอดลูกจนถึงวันและเวลาที่จะให้เด็กเกิดเลยทีเดียว
กรณีของสมิติเวชนั้น นอกจากบริการอาหารเบนโตะญี่ปุ่น ของใช้จำเป็นสไตล์ญี่ปุ่น เช่น แผ่นซับนมแล้ว ทางคุณโทโมโกะและโรงพยาบาลได้ช่วยแนะนำคุณแม่ญี่ปุ่นทั้งหลายให้รู้จักกับชมรมคุณแม่ญี่ปุ่นด้วย
![โรงพยาบาลญี่ปุ่นในไทย](https://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/Samitivej/5.png)
ชมรมนี้ตั้งขึ้นโดยสมาคมคนญี่ปุ่นในไทย มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างแอคทีฟ และมาใช้สถานที่ที่สมิติเวชบ้าง เช่น
– งาน Talk โดยคุณแม่รุ่นพี่มาเล่าประสบการณ์ให้คุณแม่มือใหม่ฟัง
– คลาสสอนวิธีทำอาหารสำหรับเด็กหย่านม โดยใช้วัตถุดิบไทย
– คลาสโยคะสำหรับคุณแม่
– กิจกรรมอ่านหนังสือภาพนิทานเด็ก
คุณแม่ญี่ปุ่นในไทยทั้งหลายจึงสามารถพบปะเพื่อนคุณแม่บ้างไม่โดดเดี่ยวในต่างแดน โรงพยาบาลก็กลายเป็นสถานที่เชื่อมให้แม่ ๆ ได้รวมตัวกัน เป็นคอมมูนิตี้เล็ก ๆ น่ารักของคนญี่ปุ่นในไทยที่เราไม่ค่อยรู้ค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– เยือนโรงพยาบาลญี่ปุ่นในไทย … ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ตอนที่ 3 : เมื่อหมอและพยาบาลญี่ปุ่นมาอยู่เมืองไทย … มีอะไรน่าตกใจบ้าง
– เยือนโรงพยาบาลญี่ปุ่นในไทย … ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ตอนที่ 1: แค่โต๊ะ ก็แตกต่าง