ปีใหม่นี้เพื่อนๆ มี N ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่น ดิฉันอึ้ง ทึ่ง เสียวกับคำพูดและปฏิกิริยาโต้ตอบของแม่ค้า พนักงานห้าง รวมถึงแม่บ้านมาหลายครั้งหลายครา ดิฉันปาดน้ำตา (จากการขำจนน้ำตาเล็ด) และบอกตัวเองหลายครั้งว่า ถ้าอยู่ญี่ปุ่นดิฉันคงไม่เจออะไรแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น…
New Year’s Resolution หรือสิ่งที่เราจะตั้งใจทำในปีใหม่นี้กันหรือยังคะ เกตุวดีเองยังไม่มีและไม่ได้คิดมา 4-5 ปีแล้วค่ะ ชีวิตส่วนตัวไร้แบบแผนมาก ลอยตุ๊บป่องๆ ไปเรื่อยๆ แต่ดิฉันจะไม่ยอมปล่อยให้คอลัมน์ Japan Gossip สุดรักของดิฉันเลื่อนลอยเหมือนอย่างชีวิตส่วนตัวหรอกนะคะ ปีใหม่นี้ ดิฉันตั้งใจว่าจะค้นหาความจริงและเขียนบทความเล่าเรื่องต่อไปนี้ให้เพื่อนๆ กัน ได้แก่ ….
1. อาหารญี่ปุ่นในไทย
ดิฉันชื่นชอบการถ่ายรูปอาหารญี่ปุ่นที่ Thailand Only มากๆ ค่ะ ตั้งแต่เรื่องเบาๆ จนถึงเรื่องใหญ่ๆ เช่น …

ที่ญี่ปุ่นใช้ตะเกียบทานข้าวอย่างเดียวค่ะ เวลาทานซุปมิโสะ เราก็ใช้ยกซดเอา ไม่มีช้อนให้ค่ะ ถ้าอยากกินเต้าหู้กับสาหร่ายวากาเมะที่ลอยอยู่ ก็ใช้ตะเกียบคีบเข้าปาก ไม่มีปัญหาค่ะ
สำหรับตำแหน่งรางวัล “สุดยอดอาหารญี่ปุ่น Thailand Only” ปีนี้ คงต้องยกให้กับหมี่เย็น (ซารุโซบะ) ของร้านนี้ค่ะ

จริงๆ แล้ว คำว่า “ซารุโซบะ” นั้น ไม่ได้แปลว่า บะหมี่เย็นค่ะ “ซารุ” คือ ตะแกรงไม้ไผ่ เพราะฉะนั้น ซารุโซบะ แปลตรงตัวได้ว่า “บะหมี่บนตะแกรงไม้ไผ่” เพราะเวลาลวกเส้นโซบะเสร็จ เขาจะเอามาแกว่งๆ ในน้ำเย็นจัด แล้วถึงค่อยวางเส้นโซบะบนตะแกรงไม้ไผ่ เส้นจะได้สะเด็ดน้ำ คนไทยเราไปแปลว่า“บะหมี่เย็น” ก็ดูน่าทานดี แต่ก็สร้างความสับสนในหมู่เจ้าของร้านอาหารชาวไทยบางท่านเล็กๆ นะคะ

ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่น ดิฉันอึ้ง ทึ่ง เสียวกับคำพูดและปฏิกิริยาโต้ตอบของแม่ค้า พนักงานห้าง รวมถึงแม่บ้านมาหลายครั้งหลายครา ดิฉันปาดน้ำตา…. (จากการขำจนน้ำตาเล็ด) และบอกตัวเองหลายครั้งว่า ถ้าอยู่ญี่ปุ่นดิฉันคงไม่เจออะไรแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น
ดิฉันเดินไปเข้าห้องน้ำที่ห้างแห่งหนึ่งที่ชื่อเรื่องความงดงามและความหลากหลายของห้องน้ำ ตรงหน้าห้องน้ำหญิง มีป้ายสีเหลืองเขียนว่า “ระวังลื่น” วางอยู่ ดิฉันไม่แน่ใจว่าเขาล้างพื้นหรือทำความสะอาดอะไรกันหรือเปล่า ก็เลยถามแม่บ้านที่ยืนเหม่อๆ แถวนั้นว่า “เข้าได้หรือเปล่าคะ”
แม่บ้านสวนกลับมาว่า “ก็เข้าไปดูสิคะ”
ดิฉัน … ช็อคขุ (ภาษาญี่ปุ่น: ショック…พูดง่ายๆคือ “ช็อค”)
ดิฉันพยายามประคับประคองตัวเดินออกมาห่างจากที่เกิดเหตุและปลอบใจตัวเองว่า พี่แกคงเป็นคนซื่อ แกคงไม่รู้จริงๆ ว่าห้องน้ำเข้าได้หรือเปล่า ถ้าตอบผิดแล้วดิฉันหัวฟาดพื้น อาจเสียน้ำใจลูกค้า เลยให้ลูกค้าเข้าไปดูด้วยตาตัวเองดีกว่า
ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่น สิ่งที่พนักงานจะทำคือ บอกลูกค้าว่า กรุณารอสักครู่นะคะ แล้ววิ่งไปคอนเฟิร์มสถานการณ์ แล้ววิ่งกลับมารายงานลูกค้า ถ้าเข้าห้องน้ำได้ เธอจะยิ้มและบอกคุณให้ “ระวังเวลาก้าวเดินนะคะ พื้นเพิ่งถูเสร็จ” ถ้าเข้าไม่ได้ หล่อนจะโค้งงามๆ แล้วบอกว่า “ขอประทานโทษจริงๆค่ะ รบกวนคุณลูกค้าไปใช้บริการห้องน้ำอีกแห่งนะคะ ตรงไปอีก 200 เมตร เลี้ยวขวาก็จะถึงค่ะ ต้องขอประทานโทษในความไม่สะดวกค่ะ” ญี่ปุ่นกับไทยต่างกันดีนะคะ
อีกวันหนึ่ง ดิฉันเดินไปซื้อกับข้าวที่ตลาดแถวบ้าน เห็นไส้กรอกอีสานน่าทานดีเลยแวะซื้อ ดิฉันถามแม่ค้าลอยๆ แบบไม่ได้คิดอะไรว่า “นี่ยังร้อนๆอยู่หรือเปล่าคะ” สิ่งที่เกิดขึ้นอีก 2 วินาทีถัดมา คือ แม่ค้าเอามือไปแตะๆ ไส้กรอกอีสานกว่า 20 ลูกที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างทั่วถึง แล้วตอบว่า “ก็ยังอุ่นๆ ดีอยู่ค่ะ” จากนั้น เธอก็จิ้มๆ ไส้กรอกอีสานเหล่านั้นใส่ถุงแล้วยื่นให้ดิฉัน … ช็อคขุ อีกครั้ง ไม่ต้องทำให้กันขนาดนั้นก็ได้
กะว่าถ้าเจอเรื่องช็อคขุอีกสัก 5-6 เรื่อง จะเก็บมาเขียนเล่าสู่กันฟังนะคะ
3. สาธารณะ/ความเป็นส่วนตัว
หลายๆ ครั้ง ดิฉันคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราเขินคนอื่น แต่ทำไมคนไทยกลับทำได้อย่างหน้าตาเฉยในที่สาธารณะ หรือดิฉันคิดมากไปเองก็ไม่ทราบสิคะ ยกตัวอย่างเช่น
เวลาพักสิบนาที ดิฉันสังเกตเห็นนักเรียนหญิงบางคนเดินไปเข้าห้องน้ำ และถือทิชชู่ห่อใหญ่ๆ แบบภาพด้านล่างไปด้วย ดิฉันมองว่า ไอ้การถือทิชชู่ห่อโตมันเสมือนเป็นการประกาศให้คนทั่วไปรู้ว่า “ตูจะไปห้องน้ำ! … วันนี้ศึกหนัก!” เลยนะคะ สาวๆ เค้าไม่อายกันเหรอ หรือเป็นเพราะอยู่ในโรงเรียน/มหาวิทยาลัย … สาวออฟฟิศจะเป็นไหมนะ


เครื่องชั่งอยู่หน้าห้องน้ำเลย เพื่ออะไร? ปฏิบัติภารกิจเสร็จปุ๊บลองชั่งว่าน้ำหนักฉันจะลดไหม..งั้นเหรอคะ
4. ญี่ปุ่นขั้นเทพ Return
ดิฉันได้จัดอันดับความเมพของคนญี่ปุ่นที่มาเมืองไทยไปแล้วในบทความแรกเรื่อง “คนญี่ปุ่นมาเมืองไทยซื้ออะไร” (Click) มีญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งที่ดิฉันจัดให้เป็น “ขั้นเทพ” คือพวกที่รู้เรื่องเมืองไทยดีมากและดีกว่าคนไทย ร้องเพลงลูกทุ่ง ใส่รองเท้าแตะคีบ กินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง พวกเขาเหล่านี้ได้กลมกลืนและเป็นส่วนหนึ่งในสังคมไทยไปแล้ว
ที่ผ่านมามีน้องๆ และเพื่อนๆ หลายคนเป็นสายรายงานเบาะแสญี่ปุ่นขั้นเทพเข้ามากันเยอะเลยค่ะ ต้องขอบคุณมากๆ เช่น คุณ H. ส่งบทความของดิฉันให้คนญี่ปุ่นอ่าน เขาอ่านและขำ การที่จะขำได้แปลว่าคนญี่ปุ่นคนนี้ต้องเข้าใจภาษาไทยอย่างลึกซึ้งแตกฉาน ทั้งศัพท์แสลงและสำนวนจิกกัดประชดประชันของดิฉัน ขอคารวะหนึ่งจอกฮ่ะ

ส่วนน้อง L. เขียนมาเล่าถึงเพื่อนตัวเองเช่นกัน เพื่อนคนญี่ปุ่นของน้องมาเมืองไทย ชื่นชอบสบู่สมุนไพรและสบู่ “พลอยใส” ที่คุณตั๊ก มยุราเป็นพรีเซนเตอร์ … เพื่อนๆรู้จักกันไหมคะ ดิฉันโนไอเดียมากๆ
เท่านั้นไม่พอ คุณเพื่อนได้มาตามหา CD “จ้ามาจ้ะทิงจา” แต่หาไม่เจอ เลยฝากน้อง L. ซื้อส่งไปให้ โอ้มายก๊อด… จ้ะทิงจาคืออะไร คุณเพื่อนไปรู้จักได้อย่างไร ญี่ปุ่นขั้นเทพเกินไปแล้ว

จากเรื่องราวต่างๆ ที่เพื่อนๆ แชร์กันเข้ามา ดิฉันเลยคิดได้ว่า ยังมีญี่ปุ่นขั้นเทพมากๆ กว่าที่ดิฉันรู้จักคุ้นเคย ถ้าเพื่อนๆรู้จักใครที่เข้าข่ายญี่ปุ่นขั้นเทพ! ขั้นเซียน! ขั้นบร๊ะเจ้า! ก็เล่าสู่กันฟังนะคะ ตั้งใจว่าจะเขียนตอน “The Return of ญี่ปุ่นขั้นเทพ” อะไรทำนองนี้อยู่ค่ะ ☺
สุดท้ายนี้ เกตุวดีเขียนคอลัมน์นี้มา 1 ปี 2 เดือนแล้วค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่คอยติดตามนะคะ ปีใหม่นี้ ใครแอบรักแอบชอบใครก็ขอให้สมหวัง ใครอยากได้ตังค์ เลื่อนตำแหน่ง ก็ขอให้ได้ดั่งใจหมาย ขอให้ทุกท่านสุขสบายไร้ทุกข์ภัย…ด้วยบทความและบทกลอนจากใจเกตุวดี ^v^ สวัสดีปีใหม่เค่อะ
สุขสันต์วันคริสต์มาสล่วงหน้าค่ะทุกคน ^^
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura
เรื่องแนะนำ :
– ฉลองคริสต์มาสญี่ปุ่นในแบบคุณ
– แรงเงา…แรงพยาบาท by แม่บ้านญี่ปุ่น
– คุณป้ามหาภัย : คันไซ-โอบะจัง
– มาแอ๊บท่า “สาวญี่ปุ่น” กันเถอะ
– อย่าคิดว่ารู้จัก “ชิเซโด้” ดีพอ
– ทำไมดูรายการ TV ญี่ปุ่นแล้วหิว ?
– เม้าท์มอยกูลิโกะ Pocky
– เมื่อชอบ/คบ/รักคนญี่ปุ่น
– เปิดโปงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (ตอนหลัง)
– เปิดโปงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (ตอนแรก)
– 4 สุนทรียที่คุณไม่ควรพลาดที่ญี่ปุ่น
– ปริศนาในออนเซ็น