สำหรับละครญี่ปุ่นนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และค่อนข้างมีความแตกต่างไปจากบ้านเราค่ะ ว่าแต่เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับละครญี่ปุ่นจะมีอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันเลยยยยย
วันนี้จะพาเพื่อนๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับละครญี่ปุ่นให้มากขึ้นค่ะ สำหรับละครญี่ปุ่นนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และค่อนข้างมีความแตกต่างไปจากบ้านเราค่ะ ว่าแต่เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับละครญี่ปุ่นจะมีอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันเลยยยยย
1. จริงๆ แล้วซีรีส์ญี่ปุ่นไม่ได้เรียกว่า “ซีรีส์”
![ละครญี่ปุ่น](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Entertainment/Japan%20Drama%20Trick/JPNdrama1.jpg)
“ซีรีส์ญี่ปุ่น” ที่เรารู้จักกัน แท้จริงแล้วไม่ได้เรียกว่า “ซีรีส์” ค่ะ แต่เขาเรียกว่า ドラマ (do-ra-ma) ทับศัพท์มาจากคำว่า “Drama” ที่แปลว่า “ละคร” นั่นเอง ถ้าเราอยากจะคุยเรื่องละครกับคนญี่ปุ่นต้องใช้คำว่า ドラマ ค่ะ ถ้าใช้คำว่าซีรีส์คนญี่ปุ่นอาจจะไม่ค่อยเก็ทเท่าไร
2. ละครญี่ปุ่นฉายเป็น Season หรือฤดู
ละครญี่ปุ่นจะถูกแบ่งออกเป็น 4 Season ค่ะ ตามฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งต่างจากบ้านเราที่จะถูกปล่อยออกมาเป็นรายปี และจะค่อยๆ ประกาศเรื่องใหม่ หลังจากเรื่องเก่าจบลงไปทีละเรื่อง แต่ของญี่ปุ่นจะประกาศของมาเป็นเซ็ทฤดูค่ะ พอถึงฤดูกาลนี้ละครเริ่มจะลาจอไปแล้ว ก็จะประกาศละครในฤดูกาลต่อไปออกมา
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Entertainment/Japan%20Drama%20Trick/JPNdrama2.jpg)
นอกจากนี้ละครในแต่ละ Season นั้นก็จะมีฉากและบรรยากาศที่สื่อถึงฤดูกาลนั้นๆ ค่ะ เช่น ละครฤดูหนาว ตัวละครก็จะใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาๆ มีหมวก มีถุงมือ ชอบกินพวกอาหารร้อน พวกเมนูต้มหม้อไฟ อะไรพวกนั้นค่ะ แสดงให้เห็นว่านี่หน้าหนาวจริงๆ นะจ๊ะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Entertainment/Japan%20Drama%20Trick/JPNdrama3.jpg)
หรือจะเป็นละครฤดูใบไม้ผลิ เราก็จะเห็นบรรยากาศของดอกซากุระผลิบาน ความสดใสของบรรยากาศแห่งฤดูใบไม้ผลิค่ะ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนดูจะได้เห็นถึงความสมจริงค่ะ ประมาณว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ละครดูเป็นปัจจุบัน ถ้าสมมติตอนนี้เป็นฤดูร้อน แต่ละครในทีวีตัวละครกลับใส่เสื้อกันหนาว มันก็ดูแปลกๆ ใช่ไหมล่ะคะ
3. ความยาว และจำนวนตอนของละครค่อนข้างสั้น
ละครญี่ปุ่นในแต่ละตอนจะมีความยาวประมาณ 46 นาทีค่ะ ยกเว้นตอนแรกกับตอนสุดท้ายของละครจะมีความยาวมากหน่อย มีความยาวถึง 1 ชั่วโมง ชั่วโมงครึ่ง หรือ 2 ชั่วโมงก็ยังมีค่ะ ส่วนจำนวนตอนในแต่ละเรื่อง ละครญี่ปุ่นจะมีประมาณ 8-12 ตอนค่ะ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมี 10 ตอนค่ะ ถือว่าสั้นมากๆ เลย แต่เชื่อไหมคะว่า ถึงแม้จะสั้นขนาดนี้ แต่ละครญี่ปุ่นแต่ละเรื่องสามารถฉายอยู่บนจอโทรทัศน์ได้นานเป็น 3 เดือนเลยค่ะ!
4. ละครแต่ละเรื่องฉายแค่เพียง 1 ตอนต่อสัปดาห์เท่านั้น
ข้อนี้จะเป็นข้อเฉลยค่ะว่า ทำไมละครแค่จำนวนตอน 8-12 ตอน ถึงฉายได้นานเป็นหลายๆ เดือน นั่นก็เพราะเวลาการฉายของละครญี่ปุ่นที่ค่อนข้างแตกต่างจากบ้านเราค่ะ สำหรับเวลาการฉายละครญี่ปุ่น แต่ละเรื่องจะฉายเพียงแค่ตอนละวันต่อสัปดาห์ค่ะ แต่ถ้าเป็นละครหลังข่าวของไทย ก็จะมีฉายวันจันทร์-อังคาร, พุธ-พฤหัสบดี, และศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งต่างจากของญี่ปุ่นเลยค่ะ ของญี่ปุ่นจะฉายสัปดาห์ละตอนแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนจบ กว่าจะถึงตอนสุดท้าย กว่าจะฉายจบก็กินเวลาไปหลายเดือน ครบ Season หนึ่งพอดีค่ะ
5. ละคร Prime Time อยู่ในช่วง 2 ทุ่ม – 4 ทุ่ม
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Entertainment/Japan%20Drama%20Trick/JPNdrama4.jpg)
ช่วงเวลาของละคร Prime Time หรือเวลานาทีทองของละครญี่ปุ่นก็คือช่วง 2 ทุ่ม – 4 ทุ่มค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเพิ่งกลับจากการทำงาน เดินทางถึงบ้าน อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาที่มีผู้คนดูโทรทัศน์มากที่สุดค่ะ (ถ้าเป็นบ้านเราก็ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง-4 ทุ่มครึ่ง) นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาที่สุดของที่สุดของละครนาทีทองอีกทีด้วยนะคะ ก็คือในช่วงละคร Prime Time นี้ จะมีช่วงเวลาหนึ่งที่เป็นจุดพีคสุดๆ มีคนชมละครมากที่สุด ซึ่งก็คือวันจันทร์ เวลา 3 ทุ่มนั่นเอง ละครเรื่องไหนได้ลงช่วงเวลานี้ นอนรอรับเรตติ้งได้เลย ซึ่งช่วงเวลานี้ก็มีชื่อเรียกด้วยนะคะ เรียกว่า “Getsu9” ละครที่เคยฉายในเวลานี้ เช่น Nodame Cantabile, Love Generation, Rich Man Poor Woman, Shitsuren Chocolatier เรตติ้งของละครช่วงนี้ก็มักจะสูงค่ะ อย่างเช่นเรื่อง HERO ที่เคยกวาดเรตติ้งมาถึง 34.03% และในละครญี่ปุ่น Summer Season ในปี 2014 ละครเรื่องนี้ก็ได้กลับมาพร้อมกับภาคที่ 2 ค่ะ และยังได้ลงในช่วงเวลา Getsu9 อีก จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง เป็นที่น่าจับตามองเลยค่ะ
6. Renzoku และ Tenpatsu
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Entertainment/Japan%20Drama%20Trick/JPNdrama5.jpg)
ใครที่ดูละครญี่ปุ่นต้องได้เจอศัพท์ 2 คำนี้อยู่บ่อยๆ ค่ะ เป็นศัพท์ที่คอละครญี่ปุ่นต้องเรียนรู้ไว้เลยค่ะ ซึ่ง 2 ชื่อนี้เป็นชื่อเรียกของลักษณะละครค่ะ Renzoku คือละครฉายต่อเนื่อง หลายๆ ตอนค่ะ ต้องดูต่อเนื่องไปหลายๆ ตอนจนจบถึงจะเข้าใจ ว่าง่ายๆ ก็คือ พวกละครที่ฉายตามตารางปกติในตอนเช้า บ่าย เย็น หรือช่วง Prime Time นั่นเอง ส่วน Tenpatsu หมายถึงละครภาคพิเศษค่ะ หรือภาค Special นั่นเอง ซึ่งตามปกติละครญี่ปุ่นจะไม่มีการยืดค่ะ พอครบจำนวนตอนก็จะจบเลย เรตติ้งดียังไงก็จะไม่ยืดค่ะ แต่จะทำเพิ่มในรูปแบบละครภาคพิเศษ หรือไม่ก็ภาคต่อไปเลย ละครญี่ปุ่นในแต่ละ Season ก็จะมีทั้งละครแนว Renzoku และ Tenpatsu ฉายควบคู่กันไปค่ะ
7. ฤดูหนาวคือช่วงเวลากอบโกยเรตติ้งของละครญี่ปุ่น
เรื่องเรตติ้งมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ ทั้งพล็อตเรื่องของละคร ดารา-นักแสดงที่มาเล่นละครเรื่องนั้นๆ และขึ้นอยู่กับช่วงเวลาค่ะ ซึ่งใน 4 ฤดู ฤดูที่คนจะดูละครมากที่สุดก็คือ “ฤดูหนาว” ค่ะ เพราะว่าเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็น ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกนอนอยู่ในบ้าน ทำให้เป็นช่วงเวลาที่มีคนชมละครญี่ปุ่นเยอะเลยทีเดียวค่ะ
8. ไม่ค่อยมีละครรัก
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Entertainment/Japan%20Drama%20Trick/JPNdrama6.jpg)
ละครญี่ปุ่นมีหลากหลายแนวค่ะ ถ้าแนวชีวิตจะเรียกว่า Human Drama แนวสืบสวนสอบสวนจะเรียกว่า Detective Drama แนววัยรุ่นจะเรียกว่า Seishun Drama ส่วนละครรักจะเรียกว่า “Ren-ai” ซึ่งเป็นแนวละครที่พบได้น้อยแล้วในละครญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน เพราะญี่ปุ่นมีแนวการทำละครแบบ Trendy Drama ที่มุ่งนำเสนอเรื่องราวที่สมจริงของสังคม พาคนดูหันสู่ความจริง และช่วยเสนอแนะแนวทางแก้ไขไปในละคร ทำให้ปัจจุบันเราจะพบเห็นละครญี่ปุ่นแนวให้กำลังใจ แนวอาชีพ แนวชีวิตเยอะ แต่แนวรักๆ ใคร่ๆ กุ๊กกิ๊กๆ จะหาได้น้อยค่ะ และถ้าจะทำละครรัก ก็มักจะแทรกข้อคิด เรื่องราวของแรงบันดาลใจเข้าไป ให้ดูสมจริง และเป็นละครรักที่ให้ข้อคิดด้านอื่นๆ ของชีวิตไปด้วยค่ะ
9. ละครญี่ปุ่นในแต่ละ Season มีหลายเรื่องมาก!
รู้ไหมคะว่าในแต่ละ Season มีละครญี่ปุ่นทั้งหมดกี่เรื่อง??? เฉลยค่ะ… ในแต่ละ Season มีละครทั้งหมดประมาณ 30-40 เรื่องเลยค่ะ เนื่องจากละครญี่ปุ่นฉายตอนละประมาณชั่วโมง (รวมโฆษณา) ทำให้ละครญี่ปุ่นมีความสั้น สามารถสร้างละครหลายๆ เรื่องมาฉายต่อกันได้ และมีหลายช่วงเวลาที่ออกอากาศ มีช่องโทรทัศน์หลายช่องทั้งฟรีทีวี และเคเบิลทีวี ทำให้ละครญี่ปุ่นมีหลายเรื่องค่ะ ใครเป็นแฟนละครญี่ปุ่นนี่ ขอบอกเลยว่า ในแต่ละ Season ดูกันตาแฉะเลยล่ะค่ะ !
และนี่ก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับละครญี่ปุ่นที่น่าสนใจค่ะ แต่จริงๆ แล้วยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกมากมายเลยนะคะ มีอะไรอีกนั้น เดี๋ยว ChaMaNoW จะเอามาเล่าให้ฟังเรื่อยๆ ค่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็นของญี่ปุ่นแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ดูมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ไปซะหมด ไม่เว้นแม้แต่ “ละคร” เลยค่ะ ^^