จากครั้งที่แล้วเราได้กล่าวถึงคำเรียกเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่น ที่ต่างจากไทยเป็นพิเศษไปแล้ว ขอมาต่อที่คำศัพท์ที่ควรรู้สำหรับการเลือกซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่นกัน คำเหล่านี้จะบ่งบอกว่าเครื่องสำอางชนิดนั้นเหมาะสำหรับผิวแบบไหน มีผลอะไรต่อผิว เพื่อที่เราจะซื้อผลิตภัณฑ์ได้เหมาะกับสภาพผิวของเราค่ะ
จากครั้งที่แล้วเราได้กล่าวถึงคำเรียกเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่น ที่ต่างจากไทยเป็นพิเศษไปแล้ว ขอมาต่อที่คำศัพท์ที่ควรรู้สำหรับการเลือกซื้อเครื่องสำอางญี่ปุ่นกัน คำเหล่านี้จะบ่งบอกว่าเครื่องสำอางชนิดนั้นเหมาะสำหรับผิวแบบไหน มีผลอะไรต่อผิว เพื่อที่เราจะซื้อผลิตภัณฑ์ได้เหมาะกับสภาพผิวของเราค่ะ
มาเริ่มจากคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพผิวกันก่อนเลย ผิวของคนเราทั่วๆ ไป แบ่งออกได้เป็นทั้งหมด 4 ประเภทใหญ่ๆ และประเภทพิเศษอีกหนึ่งประเภท โดยผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะระบุไว้เลยว่าเหมาะกับผิวแบบไหน
1. | ผิวธรรมดา/ผิวปกติ 普通肌 (Futsuu-hada) |
2. | ผิวแห้ง 乾燥肌 (Kansou-hada) |
3. | ผิวมัน 脂性肌 (Aburashou-hada) แต่โดยปกติคำนี้เรียกยาก คนญี่ปุ่นมักจะใช้ทับศัพท์ว่า オイリー = Oily ไปเลยค่ะ |
4. | ผิวผสม 混合肌 (Kongou-hada) |
5. | ผิวแพ้ง่าย 敏感肌 (Binkan-hada) ผิวประเภทสุดท้ายนี้เราอาจจะมีสภาพผิวอย่างใดอย่างหนึ่งใน 4 ประเภทที่กล่าวมาแล้ว แต่มีความบอบบางต่อสภาพแวดล้อมหรือสิ่งกระตุ้นจากภายนอกมาก เช่น แพ้แสงแดด แพ้แอลกฮอลล์ แพ้น้ำหอม ซึ่งทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้ ก็จะมีผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายมาเป็นอีกทางเลือกค่ะ |
เรามาต่อด้วยคำศัพท์เกี่ยวกับผลของผลิตภัณฑ์กันค่ะ
1. | ผลิตภัณฑ์สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว คำที่เราจะพบได้บ่อยสุดในกลุ่มนี้คือคำว่า うるおい (uruoi)ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น ส่วนใหญ่มักมีคำว่า 高温 (ko-on) และ しっとり (shittori) ทั้ง 2 คำนี้เป็นคำที่ใช้กันมากในผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวแห้งต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ แต่ถ้าในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีคำว่า さらさら (sarasara) หรือ さっぱり (sappari) แล้วละก็ จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เหลือความมันติดผิวค่ะ จะเหมาะกับคนผิวมัน เวลาซื้อต้องระวัง อ่านฉลากให้ดีก่อนไม่งั้นอาจซื้อผิดได้ค่ะ |
2. | ผลิตภัณฑ์สำหรับสิว ニキビ (nikibi) ส่วนสิวเสี้ยนที่ดำๆ อยู่ตามจมูกเรียกว่า 黒ずみ (kurozumi) |
3. | ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวขาว สาวๆ ญี่ปุ่นเองก็ชอบความขาวบริสุทธิ์ไม่แพ้ใคร ผลิตภัณฑ์มากมายสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะมีคำว่า 美白 (bihaku) แปลแบบตรงตัวว่า “ขาวสวย” ในกลุ่มนี้ก็รวมผลิตภัณฑ์ที่ดูแลฝ้าและกระ シミ (shimi) ด้วย |
4. | ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องรูขุมขนกว้าง 毛穴 (ke-ana อ่านว่า เคะอะนะ)แปลว่า “รูขุมขน” ค่ะ |
5. | ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องริ้วรอย ก็จะใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษเลยว่า アンチエイジング (Anti-Aging) คำศัพท์ที่มักจะพบก็จะมีคำว่า “ริ้วรอย” しわ (shiwa) ซึ่งคำนี้รวมริ้วรอยบนหน้าผาก รอบปาก ใต้ตา หางตาหมดทุกอย่างเลยค่ะ และคำว่า 肌のハリ (hada no hari) แปลว่า “ความยืดหยุ่นของผิว” ซึ่งมักเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งของผิวที่กำลังร่วงโรยค่ะ |
6. | ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง จะมีคำว่า 薬用 (yakuyou) แปะไว้ที่ตัวฉลากเลย มีเครื่องสำอางหลายประเภทที่จะใช้คำว่าเวชสำอางเพื่อให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในการใช้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เวชสำอางสำหรับสิว 薬用ニキビ (yakuyou-nikibi) เวชสำอางสำหรับผิวขาว 薬用美白 (yakuyou-bihaku) |
และสุดท้ายนี้ขอทิ้งท้ายด้วยคำคุณศัพท์ที่มักปรากฎในโฆษณาของเครื่องสำอางกันค่ะ มีมากมายมากจนผู้เขียนเองก็ไม่สามารถยกตัวอย่างได้หมด เลยขอเอามาไว้ให้รู้สนุกๆ กันนะคะ โดยผู้เขียนขอแปลแบบให้เห็นความรู้สึกนะคะ (แปลตรงๆ เดี๋ยวจะดูเข้าใจยากเกินไป)
すべすべ (subesube) ผิวที่เรียบลื่น
ぷるぷる (purupuru) ผิวที่แน่นและเด้งๆเหมือนผิวเด็ก
つるつる (tsurutsuru) / なめらか (nameraka) ผิวที่เรียบเนียนไม่มีร่องหลุม มีสัมผัสที่ไม่สะดุด
つやつや (tsuyatsuya) ผิวที่โกลว์ (ผิวที่เปล่งประกายวิ้งๆ)
อันนี้เป็นผลิตภัณฑ์อันนึงที่ลองเอามาให้ลองฝึกกัน พอจะเดากันได้ไหมคะว่าเป็นผลิตภัณฑ์แบบไหน? (^o^)/
เรื่องแนะนำ : – เครื่องสำอางที่ญี่ปุ่นเค้าเรียกว่าอะไรกันนะ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.cosme.net/” target=
http://bidanz.jp/skincare-for-men/skin-types.html
http://bangbangsheshoots.blogspot.com/2010/07/shiseido-aqualabel-lotions-and-tips.html
http://blog.bidanz.jp/2011/08/how-to-use-face-lotion.html