เพื่อนเคยไปซื้อเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่นกันไหมคะ สำหรับคนที่เคยไปซื้อแล้ว เคยพบกับปัญหาทำนองนี้กันหรือเปล่าคะ ไม่ว่าจะยืนเลือกเองโดยอ่านฉลากที่ไม่มีภาษาอังกฤษโผล่มาให้เห็นสักตัว (ยกเว้นตรงชื่อแบรนด์) หรือถาม BA (Beauty Adviser) ตามเคาน์เตอร์ ซึ่งถามยังไงเขาก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูด
“เอ๊ะ บลัชออนที่ญี่ปุ่นเขาเรียกกันว่าอะไรกันนะ ฉันก็ว่าฉันเรียกถูกตามสำเนียงญี่ปุ่นทำไมพนักงานขายยังทำหน้างงๆ ล่ะ”
“อันนี้มันสูตรอะไรเนี่ย ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม รูขุมขนกว้างหรือสำหรับผิวขาว ฉันงงไปหมดแล้ววว”
เพื่อนๆ สาวๆ ผู้อ่านเว็บมารุมุระเคยไปซื้อเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่นกันไหมคะ สำหรับคนที่เคยไปซื้อแล้ว เคยพบกับปัญหาทำนองนี้กันหรือเปล่าคะ ไม่ว่าจะยืนเลือกเองโดยอ่านฉลากที่ไม่มีภาษาอังกฤษโผล่มาให้เห็นสักตัว (ยกเว้นตรงชื่อแบรนด์) หรือถาม BA (Beauty Adviser) ตามเคาน์เตอร์ ซึ่งถามยังไงเขาก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูด
เครื่องสำอางมีเยอะไปหมดจนไม่รู้ว่าอันไหนคืออะไร นอกจากนี้แล้ว ความแตกต่างทางภาษาเองก็ทำให้ชื่อเรียกเครื่องสำอางแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยญี่ปุ่นนี่ก็ถือว่าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่แห่งการประดิษฐ์คำใหม่ๆ เสียด้วย วันนี้เราจะมาแถลงไขข้อข้องใจเกี่ยวกับคำที่ใช้เรียกเครื่องสำอางในภาษาญี่ปุ่นกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่มีโอกาสได้ไปซื้อเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่นนะคะ
化粧品 (Keshohin) เป็นคำเรียกรวมๆ ของเครื่องสำอางทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ตามลำดับขั้นตอน เช่นผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เคลนซิ่ง โทนเนอร์ เซรั่ม ครีมบำรุง รวมไปถึงเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการแต่งหน้า เช่น รองพื้น แป้งตลับ บลัชออน มาสคาร่า และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับสาวๆ และหนุ่มๆ ในสมัยนี้ ความสวย/ความหล่อเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ คงไม่มีใครอยากออกจากบ้านทั้งๆ ที่ไม่สวยไม่หล่อเพื่อไปออกเดท ไปทำงาน หรือติดต่อธุรกิจสำคัญอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ เครื่องสำอางจึงกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ในสังคมปัจจุบันค่ะ
ที่ญี่ปุ่นมีการแบ่งเครื่องสำอางออกเป็นหมวดหมู่มากมาย ซึ่งจะขอแนะนำเป็นบางส่วน ดังนี้…
หมวดหมู่แรกที่ควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางก็คือ เครื่องสำอางที่ใช้บำรุงผิว ซึ่งนั่นก็คือ สกินแคร์ ที่ญี่ปุ่นเองก็ใช้คำว่า スキンケア (Skincare) ทับศัพท์ไปเลย หรือจะใช้คำที่หรูขึ้นมาหน่อยคือ 基礎化粧品 (kiso Keshohin) แปลตรงตัวตามภาษาไทยได้ว่า “เครื่องสำอางพื้นฐาน” ตามหลักที่ว่า เป็นเครื่องสำอางชนิดหนึ่งที่บำรุงเตรียมผิวก่อนได้รับการแต่งหน้าด้วยเมคอัพ
และอีกหมวดหนึ่งที่ควรรู้จักก็คือหมวด เมคอัพ ค่ะ ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า メイクアップ (Make Up) ทับศัพท์ไปเลยเหมือนกัน
เอาล่ะ มาถึงตรงนี้ก็ขอยกเฉพาะคำศัพท์ที่แตกต่างจากที่คนไทยเราเรียกกันเลยละกันนะคะ เพราะถ้าจะให้เอาทั้งหมดมาเล่านี่ ก็เยอะจนจำไม่ไหวกันเลยทีเดียว
1. 日焼け止め (hiyakedome/hiyaketome) คือ เครื่องสำอางที่ใช้สำหรับกันแดดค่ะ เนื่องจากมีเนื้อผลิตภัณฑ์หลายแบบเราเลยไม่ขอแปลว่า “ครีมกันแดด” ปัจจุบันนี้มีทั้งเนื้อครีม น้ำนม เจล สเปรย์ ให้เลือกตามชอบ แต่จริงๆ เราก็สามารถเรียกว่า サンスクリーン Sunscreen ได้ แต่ยังไงคำว่า 日焼け止め ก็เป็นคำที่นิยมใช้กันมากกว่าค่ะ
2. 化粧下地 (kesho shitaji) ใช้เรียกเมคอัพเบสหรือไพรเมอร์ หรืออะไรก็ตามที่ใช้ปรับสีผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน หรือเพื่อให้เครื่องสำอางที่ลงต่อๆ มาติดทน จริงๆ คนญี่ปุ่นเขาก็ก็เรียกง่ายๆ ว่า ベース Base ค่ะ เพียงแต่ในร้านขายยาหรือฉลากมักจะเขียนเครื่องสำอางประเภทนี้ว่า 化粧下地
3. チークカラー (Cheek Colour) ชีคคัลเลอร์ หรือบลัชออนที่บ้านเราเรียกกันค่ะ แม้ว่าหลายๆ ประเทศจะนิยมเรียกว่า Blush แต่ที่ญี่ปุ่นมันมีคำที่จะสับสนกับคำนี้คือ ブラッシュ Brush ที่แปลว่าแปรงแต่งหน้าค่ะ ที่ญี่ปุ่นเขาเลยเลี่ยงใช้คำซ้ำให้เกิดความสับสน ดังนั้นถ้าจะชื้อบลัชออนที่ญี่ปุ่น ก็ควรใช้คำว่า Cheek Colour จะเข้าใจง่ายกว่าค่ะ
4. リップクリーム (Lip Cream) เป็นลิปที่ใช้บำรุงริมฝีปากที่แตกแห้งที่คนไทยเรียกกันว่า “ลิปมัน” ค่ะ บางคนอาจจะยังไม่รู้จักเพราะคนไทยไม่ค่อยได้ใช้คำนี้กัน
5. 美容液 (biyoueki) คือเซรั่มนั่นเองค่ะ นี่ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ถ้าเรียกแบบทั่วๆ ไปก็จะเรียกว่า セラム Serum แต่พอติดฉลากมาก็จะใช้คำว่า 美容液 อาจเพื่อให้ฟังดูเป็นทางการมากขึ้น ข้อสังเกตคือถ้าเป็นเครื่องสำอางแบรนด์ตะวันตก เขาจะเรียกเซรั่มไปเลย ส่วนเครื่องสำอางสัญชาติญี่ปุ่นถึงจะมีภาษาอังกฤษว่าเซรั่มติดฉลากไว้ แต่เขาก็จะเรียกว่า 美容液 อยู่ดีค่ะ
ส่วนที่นอกเหนือจากจากคำที่ยกไว้ด้านบน ที่ญี่ปุ่นกับประเทศเราจะเรียกเหมือนๆ กันค่ะ แต่ถ้าใครมีข้อสงสัยหรืออยากรู้เพิ่มเติมสามารถถามมาได้นะคะ จะได้เพิ่มเติมไว้ให้ในตอนหน้าค่ะ
ตอนต่อไป จะเป็นคำเรียกลักษณะของผิวและสูตรต่างๆ ของเครื่องสำอางญี่ปุ่นค่ะ เช่น うるおい (uruoi)さっぱり (sappari) しっとり (shittori) ニキビ (nikibi) ถ้าไม่รู้จักคำเหล่านี้ละก็ รออ่านได้ในคราวหน้าค่ะ
เรื่องแนะนำ : – เครื่องสำอางที่ญี่ปุ่นเค้าเรียกว่าอะไรกันนะ (ภาค 2)