มีแหล่งเที่ยวธรรมชาติเป็นโตรกธารเกมบิเค (Gembikei Gorge) ของสายน้ำอิวะอิกะวะ (Iwaigawa) ไหลเซาะแก่งหินเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตรสองฝั่งเป็นที่ชมใบไม้แดงที่ลือชื่อในฤดูใบไม้ร่วง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางธรรมชาติของญี่ปุ่น
จังหวัดอิวะเตะ (Iwate Prefecture) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาคโทโฮขุ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าไม้และที่ราบสูงที่อุดมด้วยแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติและลานสกี จึงมีที่พักตากอากาศหลายเมืองให้บริการนักท่องเที่ยว

ทิศตะวันออก หันสู่มหาสมุทรแปซิฟิคเป็นชายฝั่งทะเลในเขตอุทยานชายทะเลริคุชูไคกัน
ทิศเหนือ ติดกับทะเลสาบโทวะดะในจังหวัดอะโอโมริ
ทิศตะวันตก เป็นที่ราบสูงฮะจิมันไตติดกับภูเขาอิวะเตะแบ่งเขตแดนกับจังหวัดอะคิตะ
ทิศใต้ ติดกับเมืองท่าเคเซนนุมะของจังหวัดมิยางิ

เมืองโมริโอกะ(Morioka) ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ราบลุ่มน้ำคิตะคะมิ (Kitakami Basin) ที่อยู่ทางตอนกลางของจังหวัดเป็น “เมืองหลวงแห่งป่าไม้และสายน้ำ” มีแม่น้ำคิตะคะมิกะวะ (Kitakamigawa) และแม่น้ำนะกะทจึกะวะ (Nagatsugawa) ทางตะวันออกของแม่น้ำคะตะคะมิกะวะยังมีแหล่งประวัติศาสตร์บ้านร้านค้าในระหว่างศตวรรษที่19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 และ ปราสาทอิวะเทะ(Iwate Castle) ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่16 – 17 นับเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็น1ใน 3 ของภูมิภาคโทโฮขุ ใกล้กับเป็นสวนสาธารณะอิวะเตะ (Iwate Park) ที่อยู่ทางตะวันออกของเมืองและถูกจัดเป็นสวนสวย 1 ใน 100 ของญี่ปุ่นที่เป็นสามารถชมทั้งดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และชมใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างงดงามอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองรอบทิศ ทิวเขาโออุ (Mt.Uo) ภูเขาอิวะเตะ(Mt.Iwate) อีกทั้งภูเขาฮิเมคะมิ (Mt.Himekami) ไม่ไกลจากสถานี JR Moiroka ยังมีต้นซากุระอายุแก่ถึง 360 ปี ซึ่งถูกปลูกมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นพันธุ์เอโดะฮิกันซาคุระที่งอกออกจากหินแกรนิตใหญ่เรียกกันว่า ซากุระหินแตก (Ishiwari Zakura) แสดงถึงการมีชีวิตที่แข็งแกร่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางธรรมชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น ดังกล่าวมาล้วนเป็นเสน่ห์แห่งความงามตามธรรมชาติที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดถึงปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมที่น่าสนใจยิ่ง
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสายรถไฟด่วนพิเศษ Tohohoku Shinkansen ลงที่สถานี JR Morioka ใช้เวลา 2.30 ช.ม. และจากสถานีมีรถToshin Bus ไปชมปราสาทโมริโอกะใกล้ สวน Iwate park ลงที่ป้ายMorioka Joshi-mae หากจะไปชมต้นซากุระหินแตก ก็ใช้เส้นทางเดียวกัน แต่ลงที่ป้าย Chuo- Dori Ichome ทั้งสองแห่งให้เวลาเดินทางไม่เกิน 10 นาที

ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นชายฝั่งทะเลที่มีโขดหินสวยแปลกตาหลายหลาก จัดเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานชายทะเลริคุชูไคกัน (Rikuchu-Kaigan National Park) ใกล้เมืองอิวะอิซึมิ (Iwaizumi City) ยังมีถ้ำริวเซนโด (Ryuusen Dou) เป็นถ้ำหินปูนที่มีความงามแปลกน่าพิศวงของธรรมชาติเหนือทะเลสาบในถ้ำที่เกิดจากน้ำแร่ที่ใสที่สุดในโลกผุดจากใต้ดินหลายบ่อที่เปิดให้ชม คือ บ่อ 3 ที่มีความลึก 98 เมตร ยังมีบ่อ 4 ที่ลึก 120 เมตร นับว่าลึกที่สุดในญี่ปุ่นที่ยังทำการสำรวจอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมจากทางเดินยาว 5,000 เมตร บนความสูงระดับ 700 เมตร แล้วมองลงไปในธรรมชาติใต้น้ำแร่สีน้ำเงินเสมือนโลกแห่งเวทมนตร์ที่น่าหวาดเสียว

ทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นที่ราบสูงฮะจิมันไตเสมือนระเบียงแห่งภูเขาไฟที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,400 – 1,600 เชื่อมต่อเขตอุทยานแห่งชาติโทวะดะฮะจิมันไต (Towada Hachimantai National Park) เป็นเส้นทางชมธรรมชาติดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิ ชมใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง และลานเล่นสกี มีรีสอร์ทให้พักพร้อมแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ Hachimantai Onsen และ Yuse Onsen ให้แช่ผ่อนคลายในฤดูหนาวด้วยนอกจากนี้ยังมีบึงน้ำจืดห้าสี (Goshikinuma) ที่น้ำจะเปลี่ยนตามแสงอาทิตย์ และบึง Hachimannuma

ทางใต้ของจังหวัด มี เมืองฮิไรซุมิ (Hiraizumi) บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำคิตะคะมิ เคยเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาแห่งภูมิภาคโทโฮขุ ช่วงศตวรรษที่11 – 12 เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่มีสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมของ เจ้าเมืองโอชูแห่งตระกูลฟุจิวะระ (Oshuu Fujiwara) ต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รวมโบราณสถานที่สำคัญโดดเด่นมาก ได้แก่ วัดชูซอนหยิ (Chusonji) รวมถึงวิหารทอง Konjikido ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปทองที่ถูกสร้างด้วยศิลปะชั้นสูงอย่างประณีตบรรจง เป็นสัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมทองคำ (Golden Culture) และวัดโมจึหยิ (Motsuji) เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 9 ที่ได้รวมพื้นที่สวนญี่ปุ่นลื่อชื่อยุคเฮอันที่น่าชมตลอด 4 ฤดู อีกทั้งพิพิธภัณฑ์ยะนะงิ โนะ โกะโช (Yanagi no Gosho Museum) ที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครอง ต่อมาเป็นที่อนุรักษ์สมบัติล้ำค่าของชาติที่น่าศึกษาหาความรู้ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของ การวางผังเมือง การสร้างสาธารณูปโภค และการโครงการพัฒนาเมืองนี้สู่ศตวรรษที่ 21
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยรถไฟด่วนพิเศษสาย Tohoku Shinkansen ลงที่สถานี Ichinoseki ใช้
เวลา 2.10 ช.ม. จากนั้นเปลี่ยนรถไฟสาย JR Tohoku Honsen ลงที่สถานี JR Hiraizumi ใช้เวลาอีก 10 นาที
แล้วเดินไปวัดโมจึหยิ หรือจะต่อรถประจำทางลงที่ป้ายชูซอนหยิ ใช้เวลา 10 นาที แล้วเดินไปวัดอีก 15 นาทีก็ได้

ทางตะวันตกของเมืองอิจิโนะเซคิ ยังมีแหล่งเที่ยวธรรมชาติเป็นโตรกธารเกมบิเค (Gembikei Gorge) ของสายน้ำอิวะอิกะวะ (Iwaigawa) ไหลเซาะแก่งหินเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตรสองฝั่งเป็นที่ชมใบไม้แดงที่ลือชื่อในฤดูใบไม้ร่วง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางธรรมชาติของญี่ปุ่น
การเดินทาง จากสถานี JR Ichinoseki โดยสารรถประจำทาง Iwateken Kotsu Bus ลงที่ป้าย Gembikei ใช้เวลา 20 นาที

ทางตะวันออกของเมืองอิจิโนเซคิ ก็มีแหล่งชมธรรมชาติเป็นโตรกธารเกบิเค (Geibikei Gorge) ที่เกิดจากการกัดเซาะหินปูนของแม่น้ำซะเทะจึกะวะ (Satetsugawa) สายน้ำใสสะอาดไหลผ่านหน้า ผาสูงกว่า 100 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเป็นระยะทาง 2 ก.ม. ชมทิวทัศน์และสีสันธรรมชาติได้ทุกฤดู อาทิ สีชมพูม่วงของดอกซากุระและดอกฟูจิในฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวขจีของป่าไม้ในฤดูร้อน สีแดงสดของใบเมเปิ้ลในฤดูใบไม้ร่วง และสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะในฤดูหนาว
การท่องเที่ยวในจังหวัดอิวะเตะะจะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติและศึกษาประวัติศาสตร์ของภูมิภาคโทโฮขุ รวมถึงการชิมอาหารท้องถิ่นที่ลือชื่อ คือเส้นหมี่เย็นโมริโอกะที่ผสมรสเผ็ดของกิมจิอย่างกลมกล่อม
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมตรวจดูได้จากเวปไซต์ http://www.tohokukanko.jp/
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.tohokukanko.jp/
http://researchpanelasia.blogspot.com/2011_04_01_archive.html
http://iwate-japan.blogspot.com/2010/04/special-cherry-blossom-ishiwari-zakura.html
http://saori-oboegaki.tumblr.com/post/24502342702/lake-hachiman-numa-iwate
http://www.jreast.co.jp/e/season/autumn/kitatohoku.html
http://www.japan-iwate.info/app/location_detail.php?lid=119
http://en.tohokukanko.jp/iwate/morioka-reimen/
http://www.env.go.jp/en/np/index_2.html