Hotaru no Hikari เมื่อย้อนเวลากลับไปดูอีกครั้ง
Hotaru no Hikari เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ญี่ปุ่นที่อยู่ในใจของใครหลายคน รวมถึงตัวเราเองด้วยค่ะ พอเห็นว่า ซีรีส์เรื่องนี้ได้มาฉายอีกครั้งที่ Netflix ก็ไม่ลังเลที่จะเปิดดูอีกครั้ง และเมื่อนั่งๆ นอนๆ ดูไป ก็พบว่า ซีรีส์เรื่องเดิม พอดูในวัยที่ต่างกันไป กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม และนี้คือความรู้สึก และสิ่งที่นึกขึ้นได้ในระหว่างที่กลับมาดูเรื่องนี้อีกครั้ง
Hotaru no Hikari เรื่องราวความรักของสาวปลาแห้ง
เรื่องราวของ “อาเมะมิยะ โฮตารุ” (รับบทโดย อายาเสะ ฮารุกะ) สาวโสดคนหนึ่ง ที่ไม่สนใจความรักมาเป็นเวลานาน เวลาว่างมีความสุขกับการขลุกตัวอยู่กับบ้าน แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เมื่อพบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งมาขอบ้านที่เธออาศัยอยู่คืน
และผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือผู้จัดการ หรือ “บุโจว” (รับบทโดย นาโอะฮิโตะ ฟูจิกิ) ที่ทำงานของเธอนั่นเอง แต่บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ที่เธอหลงรักมากๆ ช่วยชาร์จพลังในวันที่เหนื่อยล้า ถ้าต้องออกไปอยู่ที่อื่นก็นึกภาพไม่ออกว่าชีวิตต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่โฮตารุก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะสถานะเธอเป็นแค่คนเช่า (เช่าต่อจากพ่อของบุโจวอีกที) แต่แล้วเมื่อบุโจวได้ลองใช้ชีวิตอยู่กับโฮตารุ ก็ได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงรักบ้านหลังนี้ เลยตัดสินใจอนุญาตให้เธออยู่ต่อ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข และต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมนัก แม้ทั้งคู่จะไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นก็ตาม และทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นเพื่อนบ้าน ที่คอยให้ความช่วยเหลือ พูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันทุกวัน จนกลายเป็นคนสำคัญในชีวิตไปแบบไม่รู้ตัว และวันหนึ่งสาวปลาแห้งที่โสดสนิท ก็กลับมีความรักมาทักทาย เป็นชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม และเขาเองก็หลงรักเธอด้วย แต่พอถึงวันที่จะเริ่มต้นกับชีวิตรักครั้งใหม่ เธอกลับมีความรู้สึกแปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้ กับบ้านที่อยู่ และบุโจวที่อยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด
ความน่าสนใจของเรื่องนี้เมื่อกลับมาดูอีกครั้ง
1. ความอบอุ่นใจที่ยังอยู่ที่เดิม
Location เด่นของเรื่องนี้ก็คือ ชานบ้านที่โฮตารุและบุโจมานั่งเล่น ดื่มเบียร์ด้วยกันหลังเลิกงานทุกวัน แค่ได้เห็นชานบ้านก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนซีรีส์ได้พาเรากลับมายังบ้านหลังเดิมที่ไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียนเป็นเวลานาน ตัวละคร “โฮตารุ” ก็ยังคงเป็นสีสันที่นำพาความสดใสและความครื้นเครงมาให้เสมอ ส่วนบุโจว ก็เป็นผู้ชายสไตล์เนี๊ยบ ที่มองแววตาก็มองเห็นประกายแห่งความสุขทุกครั้งเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่กับเธอ แม้ปากจะบ่นแค่ไหน แต่เหมือนเป็นเสียงบ่นแห่งความสุขที่อยู่ในลึกๆ ที่ทำให้ชีวิตของเขาไม่เหงาและโดดเดี่ยวอีกต่อไป
2. กลับไปตกหลุมรักอีกครั้งในที่เดิมๆ แบบไม่รู้ตัว
เสน่ห์ของเรื่องนี้เลยก็คือ ละครเริ่มต้นมาให้คนดูรู้สึกว่าพระ-นางดูเหมือนไม่มีทางจะมาลงเอยกันได้ พระเอกสไตล์เนี๊ยบ ที่มีอดีตภรรยาเป็นแม่ศรีเรือน ในขณะที่โฮตารุตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง และก็เริ่มจะเข้าใจบุโจวขึ้นมาหน่อยนึงว่า ถ้าเป็นเราก็คงตกใจไม่หน่อย พอเดินเข้าไปในบ้านแล้วเห็นบ้านรกมาก มีเสื้อผ้าแขวนตากอยู่เต็มบ้านจนหาทางเข้า-ออกไปเจอ และก็มาจากฝีมือของสาวสวยทำงานเก่งในออฟฟิศ ที่เรานึกภาพเขาไม่ค่อยออกว่าจะทำบ้านได้รกขนาดนี้ และเนื้อเรื่องก็พาตัวละครรวมถึงตัวเราเองให้สัมผัสกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในบ้านหลังนั้น ทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้ด้วยกัน ทำให้ต่างคนต่างรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นถึงตัวตนที่แท้จริง และจนกระทั่งมารู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักตัวละครไปพร้อมๆ กับพระ-นางอีกครั้ง
อย่างเช่นฉากนี้ แม้จะเคยดูมาแล้ว แต่ฉากนี้ก็ยังคงเป็น The Best ที่ทำให้หัวใจเต้นตึกตักผสมความรู้สึกอบอุ่น และเป็นฉากที่บอกทุกอย่างถึงความรู้สึกที่บุโจวมีให้ต่อโฮตารุ
3. แค่มีใครสักคนที่เรารักก็พอแล้ว
ซีรีส์เรื่องนี้ นับว่าเป็นซีรีส์แนวความรักของญี่ปุ่นที่น่าสนใจค่ะ นำเสนอความรักที่ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ความรักที่ไม่ได้เริ่มมาจากภายนอก แต่เป็นการค่อยๆ ตกหลุมรักจากภายในของคนคนหนึ่ง เมื่อก่อนที่ดูเรื่องนี้ ก็ได้แต่ลุ้นให้พระ-นางลงเอยกันสักที แต่พอดูอีกครั้งกลับสัมผัสได้ว่า ชีวิตคนเรา อาจไม่จำเป็นต้องรักใครและเขาต้องรักตอบ แต่การที่มีแค่ใครสักคนอยู่ในใจเราให้เราได้คิดถึง และห่วงใย ก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้ชุ่มฉ่ำหัวใจมากกว่าตอนที่ไม่มีใครเลย การที่ใครสักคนเข้ามา ไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร นับว่าเป็นเรื่องที่ดี และเป็นพลังให้เราก้าวต่อไปในชีวิตได้ รู้สึกเข้าใจลึกซึ้งในฉากที่บุโจวเอาใจช่วยโฮตารุในเรื่องความรักกับมาโกโตะมาโดยตลอด และเข้าใจโฮตารุมากขึ้น ในวันที่เธอฝากชีวิตคนที่รักให้กับผู้หญิงที่เพียบพร้อมกว่า มันอาจเป็นเพราะว่า เราอยากให้คนที่รักมีความสุขอย่างแท้จริง หรืออีกคู่อย่าง “คานาเมะ” และ “ยูกะ” ก็เช่นกัน แม้เริ่มแรกจะเป็นความรักที่ไม่ค่อยราบรื่นนัก แต่คานามะก็ดูมีความสุข ที่ในแต่ละวันมียูกะให้ได้คิดถึง และคอยดูแลอย่างห่างๆ
4. สิ่งที่ตามหามาทั้งชีวิต อาจเป็นแค่ความธรรมดา ที่อบอุ่นใจ
พอกลับมาดูเรื่องนี้ ทำให้มองเห็นว่า ฉากธรรมดา อย่างนั่งคุยด้วยกันที่ชานบ้าน ถือว่าเป็นซีนที่มีบ่อยสุดในเรื่องก็ว่าได้ โดยเริ่มจากช่วงตอนต้นของแต่ละตอน พอโฮตารุกับบุโจกลับมาจากที่ทำงานก็จะเป็นฉากนี้อีกครั้ง และตอนท้ายของแต่ละตอนก็จะเป็นฉากคุยกันบนชานบ้านของทั้งสองคนนี้อีกครั้ง ดูเป็นฉากที่ธรรมดา แต่เชื่อว่าเป็นฉากที่คนดูหลายคนเฝ้ารอ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดู เป็นฉากที่สะท้อนถึงความเรียบง่าย ที่เป็นพลังใจให้กับชีวิตของคนเราได้ ในแต่ละวันที่เหนื่อยล้า เราแค่อยากอยู่ในที่สงบๆ สบายใจ และกับคนที่เรารัก บางครั้งนี่อาจเป็นความเรียบง่ายและธรรมดาที่ใครหลายคนกำลังออกตามหาอยู่ก็ได้… ใครสักคนมที่จะมานั่งชานบ้านกับเราในทุกๆ วัน
Hotaru no Hikari เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นอีกเรื่องที่น่าติดตามค่ะ เป็นแนวความรักที่เรียบง่าย ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ค่อยๆ เรียนรู้ความรัก กับผู้ชายคนหนึ่งที่ผ่านชีวิตและความรักมามากมาย แต่ก็ต้องเรียนรู้ใหม่เสมอ เสน่ห์ของเรื่องนี้คือ บรรยากาศของความครื่นเครงและความอบอุ่นที่มีให้เราได้ดูได้สัมผัสตลอดทั้งเรื่อง แม้วันเวเลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่ก็เป็นละครที่ดูแล้วยังอิน เหมือนได้กลับไปหาสถานที่และผู้คนที่เรารักอีกครั้ง
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่นแนว Start-up: Unicorn ni Notte
– No Passion ซีรีส์ญี่ปุ่น แม้ไม่ได้ทำงานที่ฝัน แต่ก็หลงรักงานที่ทำระหว่างทาง
– 4 ซีรีส์ญี่ปุ่น ปลุกไฟ “ธุรกิจ” ในตัวคุณ ให้อยากลุกมาทำอะไรใหม่ๆ
– แนะนำ 5 ซีรีส์ญี่ปุ่น สำหรับคนไม่มีเวลา ตอนละไม่เกิน 30 นาที
– รีวิว Shoujiki Fudousan นายอสังหาฯ ที่โกหกลูกค้าไม่ได้
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก:
– https://littlearie.pixnet.net/
– http://eiga-suki.cocolog-nifty.com/
– https://trilltrill.jp/
– https://shop11.msdataagency.com/
– https://cinemarche.net/comedy/himono/
#รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่นแนว #Hotaru no Hikari เมื่อย้อนเวลากลับไปดูอีกครั้ง