การใช้ชีวิตกับโฮสต์แฟมมิลี่ญี่ปุ่น … ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนนั้นเรารู้อะไร ๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นน้อยมาก แต่ก็อาศัยการตีเนียน คอยฟังและเรียนรู้จากประสบการณ์รอบตัว โดยใช้สุภาษิตที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” มาเป็นตัวช่วย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 ครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้เดินทางไปญี่ปุ่น ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนนั้นเรารู้อะไร ๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นน้อยมาก แต่ก็อาศัยการตีเนียน คอยฟังและเรียนรู้จากประสบการณ์รอบตัว โดยใช้สุภาษิตที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” มาเป็นตัวช่วย ทำให้เราเข้าใจในความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น
สมัยนั้นเราอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ ซึ่งมีคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ และพี่ชาย เป็นครอบครัว ชาวญี่ปุ่นที่ไม่ได้ญี่ปุ่นจ๋า แต่ก็เหมือน ๆ ครอบครัวชาวญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป ที่คุณพ่อออกไปทำงานนอกบ้าน ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน คอยดูแลบ้านและทำอาหารของทุกคนในครอบครัว เหมือนที่เห็นในการ์ตูนชินจังนั่นแหละ ส่วนครอบครัวอุปถัมภ์อีกครอบครัวนึงนั้น มีคุณพ่อและคุณแม่ 2 คน ทำงานกันทั้งคู่ คุณพ่อจะเป็นคนทำข้าวกล่องไปโรงเรียนให้ เพราะว่าคุณแม่ค่อนข้างยุ่ง ซึ่งการใช้ชีวิตกับครอบครัวทั้งสองบ้านนี้ ก็มีเรื่องให้ต้องประหลาดใจอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น…
1. คนญี่ปุ่นไม่อาบน้ำตอนเช้า
คือคนที่นี่เค้าจะอาบน้ำแค่วันละครั้งค่ะ ยิ่งเป็นฮอกไกโดช่วงฤดูหนาวแล้วเนี่ย เหงื่อก็จะออกน้อยมาก ตอนเช้าตื่นมา ล้างหน้า แปรงฟัน แต่งตัว กินข้าว แล้วก็ออกจากบ้านเลยจ้า ส่วนตัวเราเองนั้น ก็ถือโอกาสทำตัวกลมกลืนไปกับเค้าด้วยนั่นแหละ ^^
2. ซักชุดนักเรียนเทอมละ 1 ครั้ง
เรื่องนี้คือแบบต้องเล่ายันรุ่นลูก รุ่นหลานเลยล่ะค่ะ เพราะเราเคยเผลอซักกระโปรงไปครั้งนึง แล้วคุณแม่ก็ตกใจใหญ่เลยว่า ซักทำไม?! คุณแม่เค้าบอกว่า ปกติแล้วที่ญี่ปุ่นจะไม่ซักชุดนักเรียนกัน เพราะจะทำให้กลีบกระโปรงเสียทรง สูทกับกระโปรงเค้าก็เลยจะส่งร้านซัก ซึ่งค่าซักมันแพง เพราะฉะนั้น ก็ใส่มันไปทั้งเทอมนั่นแหละค่ะ แล้วค่อยส่งซัก (ปล. แต่เสื้อเชิ้ตด้านในก็ซักตามปกตินะคะ)
3. น้ำร้อนที่นี่ร้อนมากกกกกกกก (ก.ไก่ ล้านตัว)
วันแรกที่ไปถึงเลยค่ะ จำได้ว่าที่บ้านเค้าจะให้เราอาบน้ำก่อน แล้วความเด๋อด๋าไม่รู้ความ ก็เปิดน้ำร้อนไปถึงขีดแดง ๆ เกือบสุด (ติดนิสัยเครื่องทำน้ำอุ่นที่บ้านไม่ค่อยดี) น้ำร้อนเกือบลวกทั้งตัวเลยค่ะ ใครมาเที่ยวบ้านเพื่อนคนญี่ปุ่น หรือมาเที่ยวญี่ปุ่นตามโรงแรม ก็ระวัง ๆ กันด้วยนะคะ แต่ถ้าใครชินแล้วเหมือนเรา จะรู้ว่าการอาบน้ำร้อน (ในระดับที่พอดี) ทำให้สบายเนื้อสบายตัวสุด ๆ เลยล่ะ
4. ไม่มีประตูห้องอาบน้ำ
คือห้องอาบน้ำที่ญี่ปุ่นเนี่ย เค้าจะแบ่งเป็นโซนเปียกกับโซนแห้งค่ะ โซนเปียก ก็คือส่วนในโอฟุโระ ที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว ส่วนโซนแห้ง เป็นโซนด้านหน้าโอฟุโระ เอาไว้เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า มีอ่างล้างหน้า แต่ด้วยความที่โซนนี้มีเพียงม่านกั้น ทำให้เราหวิว ๆ ทุกครั้งไป บ้านอื่นไม่รู้ว่าเป็นรึเปล่า แต่สองบ้านนี้เหมือนกันเด๊ะเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีใครเค้ามาแอบดูหรอกค่ะ ^^’’
5. ไม่ใช้ช้อนส้อม
ความจริง เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนักหรอกค่ะ เพราะเราก็ชินกับการใช้ตะเกียบทานก๋วยเตี๋ยวกันอยู่แล้ว แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เราไม่สามารถใช้ช้อนในการตักข้าวแกงกระหรี่ได้ 555+ เรานี่ทึ่งกับคนญี่ปุ่นจริง ๆ เลย ที่สามารถใช้ช้อนโดยไม่ต้องใช้ส้อมได้ ว่าแล้วเราก็ฝึกตามเค้าไป จนตอนนี้ชินแล้วจ้า
6. ซดน้ำซุป และเส้นเสียงดังมาก
ก่อนไปถึงญี่ปุ่น ก็แอบอ่านเจอในหนังสือนะ ว่าคนญี่ปุ่น เค้าจะชอบซดน้ำซุปและเส้นเสียงดัง แต่ก็ลืมไง พอมาอยู่ที่นี่จริง ๆ เราก็จะเหวอไปช่วงแรก ๆ ที่แบบโซ้ยราเมง โซบะ อุด้งกันแบบเอร็ดอร่อยมาก ก็เลยลองทำตามเค้าบ้าง เส้นแทบจะหลุดเข้าไปในหลอดลมเลยค่ะ เด็ก ๆ ต้องฝึกฝนนะคะ 555
ทั้งหมดทั้งมวลในบทความนี้ เป็นประสบการณ์ตรงจากเรา บางบ้านอาจจะมีเรื่องให้ประหลาดใจมากกว่านี้ หรืออาจจะมีอะไรที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้ชีวิตกับครอบครัวชาวญี่ปุ่น เราต้องเป็นเด็กน่ารัก ดูแลตัวเอง ช่วยเหลืองานบ้าน ทักทาย พูดคุยกับสมาชิกครอบครัว ให้เยอะ ๆ จะทำให้เราปรับตัวได้ไว แถมได้เรียนรู้ภาษาในระดับรถไฟชินคันเซ็น (ความเร็วสูง) ด้วยค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– มาทำ CONVERSE ในแบบที่เราชอบกันเถอะ
– จะช้อปปิ้งผลไม้ ต้องไปตลาดเก่าที่ครองใจตลอดกาล … Ameyoko
– Gyukaku ร้านเนื้อย่างคุณภาพ ราคาสบายกระเป๋า
– เล่นหิมะฟินๆ หนาวนี้ที่ Ryokan Chitose (Niigata)
– ส่องสินค้าในร้าน Seven ญี่ปุ่นกับเซ็ตหน้าหนาวนี้