ถ้าสังเกตจะเห็นว่า คนญี่ปุ่นเขาใช้คำนี้กันอยู่บ่อยๆ เวลาที่มีเรื่องน่ายินดีแบบสุดๆ ก็เหมือนกับตอนที่พวกเรา ร้อง “ชัยโย” แสดงความดีใจนั่นแหล่ะ ดังนั้น บันไซ (Banzai) ก็คือคำที่จะใช้พูดตอนที่จะฉลองอะไรสักอย่าง แต่แค่พูดอย่างเดียวมันคงจะไม่สาแก่ใจเท่านั้น
คุ้นๆ กับคำว่า “บันไซ” กันบ้างมั้ย?
อ๊ะ! ไม่ใช่ “บอนไซ” นะ..นั่นมันต้นไม้
ถ้าสังเกตจะเห็นว่า คนญี่ปุ่นเขาใช้คำนี้กันอยู่บ่อยๆ เวลาที่มีเรื่องน่ายินดีแบบสุดๆ ก็เหมือนกับตอนที่พวกเรา ร้อง “ชัยโย” แสดงความดีใจนั่นแหล่ะ ดังนั้น บันไซ (Banzai) ก็คือคำที่จะใช้พูดตอนที่จะฉลองอะไรสักอย่าง แต่แค่พูดอย่างเดียวมันคงจะไม่สาแก่ใจเท่านั้น

ดังนั้นมาดูกันว่าวัฒนธรรมการทำ บันไซ ของชาวญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนง่ายๆ อย่างไร
อย่างแรก ก็ต้องมีเรื่องให้ดีใจ มีเรื่องให้ฉลองกันก่อน เช่น นักฟุตบอลทีมโปรดที่เรากำลังเชียร์อยู่ยิงจุดโทษเข้า..เย้! นักเบสบอลมือเก๋าทีมรักของเราตีโฮมรัน..กรี๊ด เงินเดือนขึ้นสองเท่า สอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่งงานก็ได้ หรือถ้าอยากจะบันไซให้ดังๆ คงจะต้องถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ^^
อย่างที่สอง มีอารมณ์ หมายถึงอารมณ์ดีใจนะ ยิ่งมาจากก้นบึ้งจากใจจริงๆ ไม่ได้ถูกใครบังคับ จะดีมาก เพราะบางทีก็อาจจะจำใจต้องบันไซก็ได้ เช่น ที่ออฟฟิศเชียร์บอลกันอยู่ คุณเป็นแฟนแมนยูฯ แต่บังเอิญ..ลิเวอร์พูลชนะ คุณก็ไม่รู้จะบันไซให้เสียอารมณ์ทำไมเนอะ อ๊ะ! แต่เจ้านายคุณเป็นแฟนลิเวอร์พูล เอ่อ! อาจจะต้องเนียนๆ บันไซกับเขาไปนะ เพื่อความก้าวหน้า ^^’

อย่างต่อมา มีพวก ใช่แล้ว “มีพวก” เพราะการทำบันไซคนเดียวนั้นไม่สนุกหรอก ต้องมีคนร่วมยินดีสิถึงจะเจ๋ง ยิ่งเยอะยิ่งดี บันไซกันเป็นหมู่คณะเลย เรื่องของเรื่อง..ทำคนเดียวก็เขินแย่น่ะสิ (บิ้วอารมณ์ร่วมได้เยอะด้วย)
พร้อมแล้วก็บันไซกันได้เลย!
วิธีการก็ง่ายมาก ดีใจปุ๊บ ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกับร้องว่า “บันไซ” จบ… เห็นมั้ย ง่ายมาก (อันที่จริง ถ้าองค์ประกอบ 3 อย่างข้างบนครบ มันก็จะมาเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีใครบังคับหรอก ฮะ ฮะ) แต่ถ้าจะให้เข้าพวก ชาวญี่ปุ่นมักจะทำกันสามครั้ง “บันไซ บันไซ บันไซ” เย้ๆๆๆๆๆๆ

มาเพิ่มเติมความรู้กันนิดหนึ่ง
โดยศัพท์แล้วคำว่า บันไซ (Banzai 万歳) แปลว่า หมื่นปี อ้าว..แล้วคนญี่ปุ่นจะตะโกน “10,000 ปี” ไปทำไม?!?
ที่จริงสมัยก่อน เขาใช้คำว่าบันไซ ในการถวายพระพรสมเด็จพระจักรพรรดิ ประมาณว่า “ขอให้ทรงมีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน หมื่นปี หมื่นๆ ปีๆ” (Long Live the Emperor) เหมือนชาวจีนสมัยก่อน (แต่ก่อนญี่ปุ่นได้รับอิทธิทางด้านภาษา และวัฒนธรรมมาจากจีนเยอะ) เชื่อว่าคำนี้เข้ามาในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังของจีนแน่ะ
*มาญี่ปุ่นตอนแรกๆ ใช้ว่า บันเซอิ (banzei ばんぜい)

นอกจากนี้สมัยที่ยังมีสงคราม (โดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่ 2) เวลาจะรบพุ่งตะลุมบอน รบเสี่ยงตาย หรือรบแบบพลีชีพ อย่างตอนที่ฝูงกามิกาเซ่บุกเพิร์ลฮาร์เบอร์ ทหารญี่ปุ่นก็มักจะร่วมกันตะโกนว่า Tenno heika banzai ! (天皇陛下万歳!) เป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนสมเด็จพระจักรพรรดิ ประมาณว่า “Long Live the Emperor” นั่นเอง ถือเป็นการปลุกขวัญ ให้กำลังใจตัวเองนั่นแหล่ะ
*ชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนเป็นพวกยอมตาย ดีกว่ายอมแพ้ ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ขอพลีชีพให้ตายตกตามกัน (หรือไม่ก็ปลิดชีพตัวเองซะเลย..อย่าลอกเลียนแบบกันล่ะ) เขาถือเป็นเกียรติสูงสุด เพราะยอมแพ้น่าอดสูกว่าตาย เขาไม่มานั่งรอความตายด้วย วิ่งเข้าหาความตายเองเลย
ถึงสมัยก่อนจะบันไซเพื่อสมเด็จพระจักรพรรดิเท่านั้น แต่ปัจจุบันนิยมใช้ตอนฉลองกันในทุกโอกาสเลยนะ
บันไซ! บันไซ! บันไซ!
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.dvdgameonline.com/forums/index.php?showtopic=132890
http://japanese.about.com/blqow41.htm
http://www.urbandictionary.com/define.php?term=banzai
http://www.page.sannet.ne.jp/m-manabe/FH000025.jpg
http://www.horae.dti.ne.jp/~fuwe1a/newpage427.html
http://blog-imgs-29.fc2.com/k/a/e/kaedenomi/img_20081010214952164_45896.jpg
http://shinsyujin.abn-tv.co.jp/tetsugaku/assets_c/2010/04/tetugaku-003-thumb-538xauto-120.jpg