ในวันนี้ “HERO” ได้กลับมาอีกครั้งในภาค 2 เปิดตัวตอนแรกด้วยเรตติ้ง 26.5% ซึ่งถือว่าเป็นเรตติ้งที่สูงสุดในบรรดาละครใน Season นี้เลยทีเดียว
ช่วงนี้ละครญี่ปุ่นก็เข้าสู่ Summer Season ไปเรียบร้อยแล้วนะคะ ซึ่งเรื่องที่กำลังมาแรงแซงโค้งสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “HERO” ละครที่เคยครองใจคนดูมาแล้วมากมาย
ในวันนี้ “HERO” ได้กลับมาอีกครั้งในภาค 2 เปิดตัวตอนแรกด้วยเรตติ้ง 26.5% ซึ่งถือว่าเป็นเรตติ้งที่สูงสุดในบรรดาละครใน Season นี้เลยทีเดียว เห็นทีจะพลาดไม่ได้แล้ว วันนี้เลยจะมาเล่าเกี่ยวกับ HERO ในภาคนี้กันค่ะว่าจะเป็นอย่างไร ตามมาอ่านกันเลยค่ะ

สำหรับเรื่อง HERO เคยฉายออกอากาศมาแล้วเมื่อปี 2001 ซึ่งได้เข้าฉายผ่านทางโทรทัศน์ของไทยด้วย ทำให้มีคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่รู้จักละครเรื่องนี้ อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ได้หนุ่มทาคุยะ คิมูระ นักแสดงและศิลปินสุดฮอตของญี่ปุ่นมารับบทนำในละครเรื่องนี้
เนื้อเรื่องคร่าวๆ ของละครเรื่องนี้ก็คือ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพอัยการค่ะ “ทาคุยะ คิมูระ” รับบทเป็น “คุริว โคเฮ” อัยการหนุ่มผู้มากความสามารถ แต่มีบุคลิก ลักษณะต่างๆ ที่ต่างไปจากอัยการทั่วไป เช่น ไม่ใส่สูทมาทำงาน แต่กลับใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์แบบสบายๆ มาแทน คลั่งไคล้การโทรสั่งซื้อเครื่องออกกำลังกาย แถมไม่ได้เรียนจบปริญญาเหมือนอัยการทั่วไป แต่เขาลองไปสอบอัยการมาแล้วผ่าน จึงทำให้เขาสามารถมาเป็นอัยการได้
นอกจากนี้เวลาสอบสวน ตัดสินคดีส่งฟ้อง เขาก็มักจะมีวิธีการที่ไม่ธรรมดา ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ บางทีก็เหมือนทำเล่นๆ แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นคนที่ได้เรื่องได้ราวมากที่สุด คติประจำใจในการทำงานของเขาคือ “ต้องเห็นทุกอย่างด้วยตาของตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจ” และ “ไม่สำคัญว่าคดีนั้นต้องใหญ่หรือว่าเล็ก” เขาก็ยังได้ผู้ช่วยอัยการสาวไฟแรง อย่าง “อะมามิยะ มาอิโกะ” (รับบทโดยมัทสึ ทาคาโกะ) คู่หู คู่จิ้นที่คนดูแอบฟินอยู่ไม่เบา

จากความนิยมทำให้ HERO ได้เดินทางมาถึง Season 2 ได้ทาคุยะ คิมูระมารับบทนำเช่นเดิม แต่น่าเสียดายที่คู่หูจากภาคที่แล้วไม่ได้ตามมาด้วย แต่ได้นางเอกสาวสุดฮอตมาแทน ซึ่งก็คือ “คิตากาว่า เคย์โกะ” มาประกบคู่แทน ซึ่งก็เรียกคะแนนจากหนุ่มๆ ได้ไม่น้อยเช่นกัน

สำหรับฉากแรกใน HERO Season2 นี้ สิ่งที่สัมผัสได้เลยก็คือบรรยากาศเก่าๆ ของละครเรื่องนี้ค่ะ เปิดฉากมาด้วยบรรยากาศของสำนักงานอัยการที่เดิม ถึงแม้ว่าคนในทีมจะเปลี่ยนหน้าไปบ้าง แต่ก็ยังคงหลงเหลือคนเก่าๆ ไว้อย่าง “อันโด เคนจิ” (รับบทโดย ยาชิม่า โนริโตะ) “เซตสึกุ ทาคายูกิ” (รับบทโดย โคฮินาตะ ฟุมิโย) และ “อิโดะ ชูจิ” (รับบทโดย มาซานะ โบคุโซะ)

เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วย “อะซากิ จิกะ” (คิตากาว่า เคย์) ผู้ช่วยอัยการหญิงที่เชื่อว่า ตนเองเป็นผู้ที่มีความสามารถมากที่สุด ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยอัยการคนใหม่ที่กำลังจะมาประจำที่นี่ เธอเตรียมตัวอย่างดี แต่พอมาเจออัยการคนที่ว่ากลับต้องตกตะลึง เพราะเขามีลักษณะที่เกินสิ่งที่เธอคาดหวังเอาไว้
[ad id=”61″] ภาพแรกที่เธอเห็นก็คือ เขากำลังเล่นเครื่องกายบริหารอยู่ในท่าที่ไม่ค่อยน่ามองสักเท่าไรนัก แถมการแต่งตัวก็ไม่เหมือนอัยการทั่วไป ชุดสูทอะไรก็ไม่มี ใส่แค่เสื้อยืด กับกางเกงยีนส์ธรรมดา อีกทั้งไม่ได้จบปริญญาตรีด้านนี้มาโดยเฉพาะด้วย เล่ามาขนาดนี้แล้ว คงเดากันได้ใช่ไหมคะว่า อัยการคนใหม่ที่ว่านั้นคือใคร ใช่แล้วค่ะ เขาคือ “คุริว โคเฮ” เขาก็ยังคงลักษณะเดิมไม่เปลี่ยน และยังคงมีสไตล์การทำงานที่แปลกและขัดต่อส่วนรวมเช่นเคย
พล็อตเรื่องก็ยังคงตามสเต็ปเดิมค่ะ เรื่องจะผูกคดีขึ้นมาให้อัยการสอบสวน และตัดสินใจเอาว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ส่งฟ้อง อัยการก็ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ทันก่อนกำหนดการส่งฟ้อง เป็นพล็อตที่ยังคงสร้างให้คนดูได้ลุ้น และคอยติดตาม ส่วนคุริวก็ยังคงสไตล์การทำงานแบบเดิมก็คือ ต้องเห็นทุกอย่างด้วยตาของตัวเองก่อน ที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป ถึงแม้จะเป็นคดีที่ไม่ใหญ่มาก แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ

ฉะนั้นถ้าเราไม่แน่ใจ 100% ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นคนผิด เราจะส่งฟ้องแค่เผื่อไว้ก่อนไม่ได้หรอกครับ”
มาที่ตัวละครเอกฝ่ายหญิงคนใหม่ของเราบ้าง ลักษณะบุคลิกก็จะเป็นสาวเก่ง มีฝีมือ หน้าตาดี มีความมั่นใจ แต่เห็นหน้าสวยใสแบบนี้ ขอบอกว่าโหดเอาการเลยล่ะ ! หลายคนมองว่าถ้ามีเธออยู่เคียงข้างจะทำให้การสอบสวนราบรื่น แต่เมื่อคุริวได้ลองมาทำงานกับเธอ ก็ค้นพบคำตอบที่แท้จริงค่ะว่า จริงๆ อาจจะไม่ใช่ “ฝีมือ” แต่คงเป็นความโหด และเฉียบขาดของเธอคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้ผู้ต้องสงสัยหวาดกลัว จนต้องทำตามคำสั่งแต่โดยดี ตอนที่เธอพบคุริวในครั้งแรก เธอรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในคนอย่างเขา แต่เมื่อได้ทำงานร่วมกันในงานแรก กลับพบว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

เล่าเนื้อเรื่องของ HERO 2 มาอย่างคร่าวๆ แล้ว เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ก็ขอบอกถึงจุดเด่นและจุดด้อยของเรื่องนี้กันสักหน่อยนะคะ
จุดเด่น
1. | นักแสดงมากฝีมือที่แห่กันมาเป็นกองทัพ นำทีมโดย ทาคุยะ คิมูระ ที่แน่นอนว่าจะมาเรียกเรตติ้งได้ไม่น้อยเลย รวมถึงนางเอกสาว คิตากาว่า เคย์ ก็เรียกความสนใจจากคนดูได้ไม่แพ้กัน |
2. | ยังคงรักษาบรรยากาศของ HERO ในแบบเก่าๆ ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะมีตัวละครหน้าใหม่โผล่เข้ามา และที่สำคัญเรื่องที่น่าทึ่งก็คือ แม้ HERO จะห่างหายไปจากจอทีวีไปหลายปี แต่ “ทาคุยะ คิมูระ” กลับยังสามารถกลับไปเล่นบทคุริวในแบบฉบับเดิมได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน มันให้ความรู้สึกว่า คุริวของเรากลับมาแล้วจริงๆ ค่ะ |
3. | เรื่องของคดีความในแต่ละตอนยังคงน่าสนใจ ทิ้งปริศนาให้คนดูอย่างเราได้ค้นหาตามไปเรื่อยๆ |
4. | ถึงแม้จะไม่มีรายชื่อนักแสดงที่รับบทเป็น “อะมามิยะ” แต่เธอกลับถูกพูดถึงบ่อยๆ ในละครเรื่องนี้ ต้องมาลุ้นกันค่ะว่าจะมีเธอโผล่มาเป็นแขกรับเชิญภาคนี้หรือเปล่า |
5. | อย่างที่รู้ว่าคุริวกับอะมามิยะเขาคู่กัน แต่พอมาภาคนี้กลับมีตัวละครนำหญิงคนใหม่ ทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ค่ะว่า ชีวิตรักของคุริวจะเป็นอย่างไร |

จุดด้อย
1. | ความที่คงบรรยากาศเดิมนี่แหละค่ะ บางทีก็เป็นจุดด้อย สำหรับคนที่อยากดูอะไรที่แปลกใหม่ ก็อาจจะรู้สึกเบื่อๆ นิดนึงนะคะ แต่สำหรับคนที่อยากย้อนรำลึกถึงความหลัง ก็จะรู้สึกสนุกไปกับละครเรื่องนี้ค่ะ ถึงอย่างนั้นเรื่องใหม่ๆ ก็ยังมีอยู่บ้างนะคะ อย่างเช่น การเข้ามาของ “อะซากิ” ผู้ช่วยคนใหม่ของคุริวก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจ รวมถึงสมาชิกใหม่ของทีม ที่มีส่วนทำให้การทำงานบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป |
2. | เนื่องจากเป็นละครแนวอัยการ เวลาสืบคดีจะเน้นที่การสอบสวนเป็นส่วนใหญ่ และตรงนี้แหละค่ะอาจจะสร้างความน่าเบื่อได้ แต่…ก็ไม่สามารถกดข้ามได้ค่ะ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เข้าใจรูปคดี |
3. | เรื่องความสนุก ซับซ้อน แปลกใหม่ ยังไม่ถึงขั้นเรตติ้ง 26.5% ค่ะ ส่วนตัวคิดว่ามาจากนักแสดงนำ รวมถึงฐานแฟนละครเก่าที่ตั้งตารอคอยการกลับมาของละครเรื่องนี้ (ข้อนี้เป็นเรื่องความชอบของแต่ละคนนะคะ บางคนก็อาจจะรู้สึกว่ามันสนุกมาก หรือบางคนก็อาจเฉยๆ ค่ะ) |
สรุปก็คือ HERO Season2 นี้เน้นคงสไตล์การเดินเรื่องเหมือนภาคก่อนๆ ค่ะ ถ้าคนที่ต้องการดูอะไรที่แปลกใหม่มากๆ เลย ก็อาจจะรู้สึกว่าภาคนี้ก็ดูธรรมดาๆ ไป แต่ถ้าใครอยากหวนกลับไปสู่ความรู้สึกเก่าของเรื่องนี้ ในรูปแบบพล็อตเรื่องใหม่ๆ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจดีค่ะ คดีในแต่ละตอนที่ยังมีความน่าสนใจเช่นเดิม ถึงแม้ภาคนี้จะเน้นคงบรรยากาศตามเดิม แต่ก็ยังคงมีพล็อตใหม่ๆ และสิ่งที่รอให้เราติดตามชมต่อไปอยู่ก็ และขอแอบกระซิบเบาๆ นิดนึงค่ะว่า… ตอนนี้อะมามิยะได้เป็นอัยการแล้ว !
ละครแนวอาชีพ “อัยการ” อาจจะดูเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ละครเรื่องนี้ได้นำเสนอในแบบที่ให้คนดูสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีความสนุกจากคดีที่เกิดขึ้น รวมไปถึงแรงบันดาลใจของอาชีพนี้ตามสไตล์ละครญี่ปุ่นที่มักจะแฝงอะไรแบบนี้ ไว้ในเนื้อเรื่องอยู่เสมอ ชีวิตคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือแย่นั้น อัยการก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีหน้าที่ในการชี้ชะตาชีวิตของใครสักคนค่ะ

ก็คืออัยการอย่างพวกเราครับ ต่อให้เราต้องปล่อยให้คนร้ายหลุดมือ
มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะส่งผู้บริสุทธิ์ขึ้นศาลได้ครับ
และนี่คงเป็นกฎที่สำคัญที่สุดสำหรับอัยการอย่างผม”