อวสาน SUN BOOKS – Book off version Thai น่าเสียดาย ที่ร้านหนังสือมือสองร้านนี้ ที่ยืนหยัดใจกลางเมืองมาระดับสิบปี ท้ายสุดก็ทานกระแส disruption ไม่ได้… ก็ต้องปิดตัวลง…
เสียงดีดกีตาร์ เป็นเพลงช้าๆ ปลดปล่อยตัวโน้ต ให้ค่อยๆ ล่องลอยออกมาราวกับ pm2.5 ในร้านหนังสือหนึ่งคูหา ที่พร้อมพงษ์
“เปิดถึงวันไหนนะครับ” ผมถาม
‘”อืม ก็น่าจะถึงสิ้นเดือนมกรา แต่ถ้าโละขายหนังสือได้หมดก่อน หมดวันไหนก็ปิดวันนั้นแหล่ะครับ” เจ้าของร้านตอบ
เขาแขวนกีตาร์ ผมสังเกตเห็นว่าแม้แต่กีตาร์ตัวนี้ยังติดป้าย “ขาย 950”
พอกีตาร์หยุดเล่น เหลือแต่เสียงคนพลิกหน้าหนังสือ เสียงนาฬิกาที่ค่อยๆ เดิน แต่เหมือนเป็นเสียงนับถอยหลังของร้านหนังสือ SUN BOOKS
ในชีวิตที่ผมรู้จัก… มันจำเป็นมากเลยที่เราต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบ เพื่อพัฒนาตัวเอง ต่อให้เข้าทำงานก็ต้องอ่านอยู่ดี เพราะบริษัทญี่ปุ่นของผมชอบบังคับสอบทั้งสอบ TOEIC สอบเป็นผู้เชี่ยวชาญ IT ทางบัญชี ทางหลักทรัพย์ หรือการคุม project management ฯลฯ นี่ยังไม่รวมหนังสือที่จะทำให้ชีวิตของเราแซ่บขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน เรื่องสั้น นิยายสืบสวน หนังสือจีบสาว (และนั่นเป็นที่มาให้ผมมีเรื่องเขียนอันนี้ https://www.marumura.com/brain-for-love/ )
ปัญหาคือ ความรู้มันมีราคา ต่อให้เป็นประเทศญี่ปุ่นที่ส่วนใหญ่ประเทศพัฒนาแล้ว จะทำให้หนังสือไม่แพงเพื่อให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้โดยไม่จ่ายแพง สำหรับผมแค่เอาเงินกินข้าวกับจ่ายค่าเช่าบ้าน ก็เหลือเงินน้อยมากแล้ว
หนังสือมือสองจึงเป็นทางออก ในญี่ปุ่นเราจึงเห็นร้านหนังสือมือสอง โดยเฉพาะ Book Off อยู่เยอะ นั่นช่วยให้ชีวิตของผมดีขึ้นมาก… เพราะมันทำให้เข้าถึงความรู้ในราคาที่ถูกกว่า
และพอกลับมาไทย ผมยังอยากหาความรู้เหล่านี้… และค้นพบว่าร้าน SUN BOOKS ที่ตั้งอยู่ตรงพร้อมพงษ์ ระหว่างซอยสุขุมวิท 33-33/1 ช่วยตอบโจทย์นี้
จริงอยู่ว่าที่กรุงเพทมีคิโนะคุนิยะ แต่พอเป็นหนังสือต่างแดน ราคาก็แพงเป็นธรรมดา แต่พอกลายเป็นหนังสือมือสองปุ๊ป ราคาก็หายไปเกินครึ่ง ผมก็เลยเป็นลูกค้าร้านนี้
ผมได้อ่านนิยายดีๆ ของ ฮิกาชิโนะ เคโงะ จากเล่มละหลายร้อย เหลือ 70-100 บาท
ผมได้ความรู้จากพวกนิตยสาร Nikkei Business ว่าตอนนี้โบนัส เงินเดือนเหล่าเพื่อนผอง พี่น้องผมที่อยู่นั่นประมาณเท่าไหร่แล้ว แนวคิดในการทำงาน ประหลาดๆ หรือบางทีก็น่าสนใจ ยังไม่รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คนญี่ปุ่นจะเขียนให้เข้าใจง่ายๆ หรือบางทีก็แสดงเป็นภาพ ให้ลิงยังเข้าใจ Blockchain ได้
ผมยังได้ฝึกภาษาญี่ปุ่น จากการ์ตูนที่ผมชื่นชอบเช่น โคนัน Q.E.D กัปตันซึบาสะและอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งสนุกและยังได้ทบทวนภาษาญี่ปุ่นไปในตัว… ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองหัว เอ้ย นกสองตัว
น่าเสียดาย ที่ร้านหนังสือมือสองร้านนี้ ที่ยืนหยัดใจกลางเมืองมาระดับสิบปี ท้ายสุดก็ทานกระแส disruption ไม่ได้… ก็ต้องปิดตัวลง… เอาจริงๆ ผู้เขียนไม่รู้ว่าเขาปิดตัวเพราะคนที่นี่อ่านหนังสือแค่แปดบรรทัดต่อปีจริงๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าคนไทยชอบเสพสื่อรูปแบบอื่นมากกว่ากระดาษ… (ผมหวังให้เป็นอย่างหลัง)
มันคงคล้ายๆ กับเราห้ามสายน้ำให้หยุดไหลไม่ได้ เราห้ามตะวันไม่ให้ตกดินก็ไม่ได้…
เมื่อโลกหมุน เทคโนโลยกีใหม่ๆก็จะเข้ามา ไปหนังสือกระดาษคงต้องแพ้เหล่า E-Book เมื่อโลกเปลี่ยนผ่าน สื่อใหม่ๆ ก็ทำได้ดีกว่าหนังสือ มันก็เหมือนนิตยสาร หรือร้านหนังสืออีกเป็นสิบเป็นร้อยที่ไทย ที่ต้องปิดตัวไป…
แต่อย่างน้อย ที่ผู้เขียนจงใจเอาเรื่องนี้มาลง เพราะว่า ร้านหนังสือร้านี้ จะปิดตัวภายในสิ้นเดือนมกรานี้แล้ว… มีหนังสือดีๆ ลดราคาอยู่เป็นพันเล่ม เผื่อผู้คนที่พอรู้ภาษาญี่ปุ่นน่าจะได้ประโยชน์ หรือจริงๆ แล้วที่ร้านก็มีหนังสือภาษาอังกฤษด้วย ผมเห็นนิยายดีๆ หลายเล่ม หรือพวกหนังสือให้ความรู้ก็มีเยอะอยู่
เพราะการอ่าน… จะทำให้ชีวิตของเรา สมบูรณ์ขึ้น…
ปล เจ้าของร้านบอกว่าร้านนี้จะปิดตัวแน่ๆ เดือนมกรานี้ หลังจากนั้นจะเปิดมาทำร้านอาหารไทยแทน… อันนี้อาจจะดีกว่าหนังสือ.. เพราะน่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยกว่าก็เป็นได้….
เรื่องแนะนำ :
– วินัยจะซื้อชัยชนะได้ไหม?
– [ทดความคิด] ธนาคารนอกคอก – เพราะเราเป็นได้มากกว่าที่เป็น
– [ทดความคิด] ซูริ กะคุ 数理学 กับโป้ง ก้อย อิ่ม
– [ทดความคิด] เมื่อคุณต้องเลือก… ตามกฎหรือแหกมันซะ?
– [เรื่องสั้น ทดความคิด] เครื่องจักรผีสิง
ขอบคุณรูปปกบทความจาก
https://www.facebook.com/sunbookssoi33/