สภาพศพตายคาที่ ตัวศพยืนคาอยู่หน้าเครื่องจักร ส่วนบนเละไปหมดเพราะโดนท่อนเหล็กนั่นแหล่ะทับเพื่อนของเขา พอเข้ามาทำงาน พบทั้งเลือดและเครื่องในไหลเปรอะ เครื่องจักรไปทั่ว
“เจ้านาย… ที่ไลน์ D8 เราพบศพพนักงานเราครับ คาดว่าน่าจะตายตั้งแต่เช้ามืด”
ศพของพนักงานชาย ตายคาที่หน้าเครื่องจักรปั๊มทำแม่พิมพ์ โดยปกติเครื่องจักรตัวนี้จะทำงานโดยคนงานจะนำแผ่นเหล็กวางบนแท่น แล้วเครื่องจักรจะปล่อยท่อนเหล็กขนาดยักษ์ซึ่งเป็นแม่พิมพ์กดลงมาที่แผ่นเหล็ก แต่คราวนี้แทนที่จะเป็นแผ่นเหล็กอยู่บนแท่น ดันกลายเป็นหัวของพนักงานแทน..
สภาพศพตายคาที่ ตัวศพยืนคาอยู่หน้าเครื่องจักร ส่วนบนเละไปหมดเพราะโดนท่อนเหล็กนั่นแหล่ะทับเพื่อนของเขา พอเข้ามาทำงาน พบทั้งเลือดและเครื่องในไหลเปรอะ เครื่องจักรไปทั่ว
“หัวแบะเลยอ่ะ… สยองโคตร”
“อุบัติเหตุจริงๆใช่ป่าว… ทำไมเครื่องจักรเรามันมีปัญหาเหรอเนี่ย”
“หรือว่าใครฆ่ามันหรือเปล่าวะ”
ข่าวแพร่สะพัดออกไปในหมู่คนงาน… มันยุ่งและเหยิงจนไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือความเท็จ
บ้างเล่าว่าพนักงานชายคนนี้มาแต่เช้าเปิดเครื่องจักรและคงผิดพลาด อาจจะวูบหน้ามืด หัวเลยไปปักหน้าแท่น และโดนทับดับสยอง
บ้างเล่าว่าพนักงานอาจจะโดนฆ่าตายมาจากที่อื่น คนที่มีอำนาจ มีบัตร เอาศพของเจ้านี่มาวางบนเครื่องจักร และทำเป็นว่าเป็นอุบัติเหตุอำพรางคดี
บ้างเล่าว่าเขาคงฆ่าตัวตาย เพราะก่อนเกิดเหตุวันสองวัน… ก็ไม่สุงสิงกับใคร
แต่ความจริงแน่ๆ ที่ผู้บริหารบริษัทต้องพบก็คือ…พนักงานในไลน์เดียวกันหรือทั้งโรงงาน ต่างบอกหัวหน้าคนงานว่า ไม่อยากใช้เครื่องจักรตัวนี้เลย มันหลอนมาก ภาพเลือดกับหัวที่เละคาเครื่อง ยังสร้างความสยองให้พวกเขา
“คนงานมันยกมือไหว้ผมบอกว่าอย่าใช้ผมไปปั๊มเครื่องจักรผีสิงเลย”
หัวหน้าสายในโรงงานรายงานกับเหล่าผู้บริหาร
ทุกอย่างยังไม่ได้ถูกพิสูจน์สักอย่างเลยว่าเครื่องจักรผิดพลาด คนผิดพลาด หรือนี่คือคดีที่ซับซ้อนกว่านั้น แต่ผู้บริหารทั้งคนไทยและญี่ปุ่น ไม่คิดนาน พวกเขายกเครื่องจักรนี้ออกจากโรงงานและซื้อเครื่องใหม่ทันที
แต่ที่ผู้บริหารไทยกับญี่ปุ่นเห็นไม่ตรงกันอย่างแรงคือ…
ผู้บริหารไทยขอให้บอกกับตำรวจว่านี่คืออุบัติเหตุ
ฝั่งคนญี่ปุ่นรับไม่ได้ที่จะด่วนสรุปเรื่องนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุ… เปลี่ยนเครื่องจักร รายงานปัญหาและวิธีป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมกับโดนบริษัทแม่ทำโทษ หักคะแนน !?
“พวกคุณก็น่าจะรู้เหมือนกันว่าเครื่องจักรรุ่นนี้ หากจะทำให้ตัวท่อนเหล็กแม่พิมพ์มันเลื่อนลงมา แค่กดปุ่มไม่พอ มือทั้งสองข้างต้องวางตรงที่กำหนดไว้ด้วย มีเซนเซอร์จะตรวจจับว่ามือทั้งสองข้างอยู่ตรงนั้นจริงๆ และอีกสองวินาทีท่อนเหล็กถึงเลื่อนลงมากดปั๊ม มันสร้างมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุแบบนี้โดยเฉพาะ”
“ดังนั้นหากนี่คืออุบัติเหตุ มันยากมาก ไม่สิ มันแทบเป็นไม่ได้เลย คุณก็รู้ว่าเครื่องจักรของเราสั่งตรงจากญี่ปุ่น และมีระบบมาตรฐานป้องกันเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว และพนักงานก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องเอาหัวยื่นเข้าไป”
เหล่าชาวญี่ปุ่นสงสัยคงเชื่อว่าเขาคือยอดนักสืบโคนัน เขาต้องการแค่ความจริงเพียงหนึ่งเดียว
เครื่องจักรเซนเซอร์ก็ไม่ได้เสียอะไร คนญี่ปุ่นพบร่องรอยว่าอาจมีเทปกาวหรืออะไรแปะเพื่อหลอกเซนเซอร์ ผู้ตายจะได้เอาตัวเข้าไปวางบนแท่นมรณะได้
และหากเราคือญี่ปุ่นแท้ การทำงานอย่างซื่อตรง ค้นหาความจริง… นี่ต่างหากมิใช่หรือที่จะทำให้บริษัทของเราน่าเชื่อถือ ถ้าจบเรื่องนี้ที่ว่าเป็นอุบัติเหตุ…. บริษัทต้องโดนเล่นงาน หักแต้มเต็มไปหมด (เพราะถือว่ารักษามาตรฐานความปลอดภัยไม่ได้ตามที่บริษัทแม่ต้องการ) แถมยังจะพูดสั่วๆ กับตำรวจว่าก็แค่อุบัติหตุ… ผู้บริหารชาวญี่ปุ่น งงเป็นไก่ตาแตกกับความคิดของคนไทย
ผู้บริหารคนไทยรู้และเข้าใจทุกอณูความเห็นของญี่ปุ่น แต่ในอีกมุมหนึ่ง…
ผู้ตายไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ไม่มีคดีติดยา เรื่องฆาตกรรมน่าจะเป็นไปได้ยาก
แม่ของพนักงานที่ตาย บอกว่าเขาคือลูกคนเดียวของบ้าน บ้านคงขัดสนเข้าไปอีก
หากตายเพราะอุบัติเหตุ จะได้เงินประกันก้อนใหญ่… แต่หากตายเพราะฆ่าตัวตายเผลอๆ จะไม่ได้อะไรเลยด้วยซ้ำ
พวกคนไทยค่อนข้างเชื่อกันว่า…. ผู้ตายอาจจะฆ่าตัวตายแต่หวังให้เป็นอุบัติหตุ เพราะพ่อแม่ของเขาก็จะได้เงิน นั่นทำให้ไม่มีจดหมายลาตาย
ไม่รู้ว่าเพราะเหล่าผู้บริหารคนไทยคิดไปว่าคนก็ตายไปแล้ว เครื่องจักรก็โดนย้ายแล้ว ดังนั้นจะไปบอกว่าพนักงานฆ่าตัวตาย เพื่อให้ครอบครัวของเขาลำบากขึ้นไปอีก สู้ยอมกลืนเลือดแต่ซื้อใจคนงานจะดีกว่าไหม…
บทสรุปของเครื่องจักรผีสิงคือ อุบัติเหตุ
ตำรวจสบายใจ… คดีจบง่าย ไม่ต้องไปสืบสวนให้ยาว
เรื่องจบจริง แต่ความไม่เข้าใจและรับไม่ได้ ยังอยู่ในใจของเหล่าผู้บริหารญี่ปุ่นชุดนั้นตลอดมา
เรื่องนี้ผู้เขียนไม่มีคอมเมนท์ ว่าอะไรถูกผิด ควรมิควร…. แค่อยากจะเสนอมุมมองว่าด้วยการตัดสินใจ เพราะคือสิ่งที่ผู้บริหารต้องเลือก !!
เรื่องสั้นอันนี้ ได้รับแรงบรรดาลใจจากคดีของบริษัทญี่ปุ่นในไทย (แน่นอนเปิดเผยชื่อไม่ได้จริงๆ ครับ) ได้ข่าวมาว่า เพื่อนสนิทผู้ตายที่ทำงานกับเครื่องจักรอันนี้ หลังจากคดีสรุป ถูกล็อตตารี่รางวัลที่สอง !!
เชื่อว่าผู้อ่านของเราหลายๆ ท่านน่าจะต้องเจอเวลาที่เราต้องตัดสินใจ ที่ต้องชั่งน้ำหนักทั้งเรื่องอนาคตของบริษัท เรื่องเงิน ความถูกต้อง และความเป็นมนุษย์ ขออนุญาติแนะนำบทความนี้ครับ ซาลารี่แมนบ้าพลังเขียนเอาไว้นานและ ผมว่ามันดี…
https://www.marumura.com/honda-soichiro/
เรื่องแนะนำ :
– [ดราม่าฤดูฝน] สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ซาลารี่แมน
– [ทดความคิด] “เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น” แล้วคุณจะรักกับสิ่งที่เรียกว่าปัจจุบัน
– [ทดความคิด] ฉันอยู่นี่ ศัตรูที่รัก
– [ทดความคิด] ขอเวลาอีกไม่นาน ญี่ปุ่นจะได้ปฏิวัติ
– [เรื่องสั้น] เพราะคนมันต้องมีฝัน