ตอนนั้นดิฉันยังไม่รู้จักท่านเลยว่าท่านโด่งดัง แต่คุณผู้อ่านเชื่อไหมคะ ดิฉันประทับใจจนถึงขนาดจดชื่อและกลับมาเสิร์ชต่อที่บ้านว่า ท่านเป็นใคร ดูภาพในอินเตอร์เน็ทไปก็ยิ้มไป หลังจากนั้น ดิฉันไม่เคยลืมชื่ออาจารย์เลยค่ะ
บทความโดย : เกตุวดี www.marumura.com
ท่านใดอยากไปเที่ยวที่ที่คนญี่ปุ่นไป….
ท่านใดไม่อยากไปสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆ อย่าง Asakusa, Tokyo Sky tree หรือ Ueno …
ท่านใด อยากสัมผัสความเงียบ สงบ และความสุขแบบอ่อนโยน …
ดิฉันมีสถานที่หนึ่งมาแนะนำค่ะ ….Chihiro Art Museum Tokyo
+++++++++++++
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ รวบรวมผลงานของ Chihiro Iwasaki นักวาดภาพสีน้ำชื่อดังของญี่ปุ่น ดิฉันเห็นผลงานของอาจารย์ Chihiro Iwasaki ครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเล็กๆ ในย่าน Kitano เมืองโกเบ ตอนนั้น ดิฉันยังไม่รู้จักท่านเลยว่าท่านโด่งดัง แต่คุณผู้อ่านเชื่อไหมคะ ดิฉันนั่งดูภาพสีน้ำต่างๆ เด็กน้อยนั่งบนดอกไม้ ภาพเทพธิดาสวมชุดสีเหลือง กระโปรงเป็นกลีบดอกไม้สีเขียวอมเหลือง ภาพทุกภาพดูนุ่มนวล อ่อนโยนมาก เพราะอาจารย์ไม่ได้ลงสีทึบ แต่ใช้สีน้ำจางๆ ระบายทั่วแผ่น Canvas ดิฉันประทับใจจนถึงขนาดจดชื่อและกลับมาเสิร์ชต่อที่บ้านว่า ท่านเป็นใคร ดูภาพในอินเตอร์เน็ทไปก็ยิ้มไป หลังจากนั้น ดิฉันไม่เคยลืมชื่ออาจารย์เลยค่ะ
หลังจากนั้น ดิฉันก็สังเกตเห็นภาพอาจารย์ตามปฏิทิน หนังสือภาพ เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นภาพที่อาจารย์วาด …ภาพเด็กแก้มยุ้ยที่วาดด้วยสีน้ำจางๆ มีอาจารย์ Chihiro เท่านั้นที่วาดแบบนี้ได้

ครั้งนี้ เมื่อมาโตเกียว ดิฉันจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ Chihiro Art Museum Tokyo พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากในเมืองประมาณ 40 – 50 นาที รอบสถานีเป็นบ้านคนทั้งหมด บรรยากาศจึงสงบเงียบมาก ขนาดดิฉันไปวันเสาร์ ยังเจอแค่คุณลุงที่เดินสวนมา 1 คน กับคุณแม่ยังสาวที่เข็นเบบี้คาร์ออกจากบ้าน เราก็ผงกศีรษะทักทายกันเล็กน้อย (แบบงงๆ ..) คุณแม่คงนึกว่าดิฉันเป็นคนแถวนี้
นี่คือ “ทาง” ไปพิพิธภัณฑ์ค่ะ สองข้างทางเป็นบ้านคนญี่ปุ่นขนานแท้ ให้อารมณ์เดินไปหาเพื่อนที่บ้านมากๆ มากกว่าการเดินไปเที่ยวหรือชมภาพศิลปะ
ด้วยความที่ดิฉันไม่ได้ปริ้นท์เอาแผนที่อะไรไปเลย เพราะมั่นใจว่า สถานที่มีชื่อแบบนี้ ต้องมีป้ายบอกทางแน่ๆ …และก็เป็นตามนั้นจริงๆ โฮะๆๆ รักประเทศญี่ปุ่นก็ตรงนี้ ทว่า…ป้ายภาษาญี่ปุ่นล้วนค่ะ ท่านใดอ่านไม่ออก พยายามดูป้ายสีน้ำเงินคาดขาวนี้ไว้ จะมีลูกศรสีแดงๆ ด้านล่างบอกทิศทาง
เมื่อเดินเข้าไปในซอย ท่านจะเห็นอาคารสีแดงเล็กๆ มีสวนย่อมๆ อยู่ด้านหน้า ขอโทษที่ไม่มีภาพประกอบ เพราะมัวแต่อินกับความเล็กๆ อบอุ่น เหมือนบ้าน มองเด็กผู้ชายแก้มยุ้ยอายุสัก 3-4 ขวบคนหนึ่งวิ่งเล่นตรงสนามหญ้า มีคุณแม่ยืนมองยิ้มๆ อยู่ห่างๆ บรรยากาศน่ารักมากเลยมองเพลินจนลืมถ่ายรูป (ส่วนขากลับ ก็อิ่มใจกับหลายๆ อย่าง เลยลืมถ่ายรูปเช่นกัน)
ในอาคาร มี 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องจัดนิทรรศการทั้งหมด 4 ห้อง ช่วงที่ดิฉันไป มีจัดเทศกาลหนังสือภาพของนักวาดชาวบราซิลด้วย อีก 2 ห้องที่เหลือ ก็เป็นภาพผลงานยุคแรกๆ ของอาจารย์ ภาพที่อาจารย์ได้รับแรงบันดาลใจจากสงครามเวียดนามและพยายามวาดเพื่อเรียกร้องสันติภาพ และภาพต่างๆ ที่อาจารย์เคยวาดลงหนังสือพิมพ์หรือเป็นภาพประกอบปกนิตยสาร
นอกจากนี้ ในพิพิธภัณฑ์ ยังจำลองสวนหย่อมเล็กๆ และห้องทำงานของอาจารย์ด้วย ตรงสวน มีเก้าอี้นั่งให้คนสามารถนั่งคุยกันและมองสวนเล็กๆ อย่างเพลิดเพลิน
ภาพขวา เป็นภาพที่ถ่ายจากชั้นสองค่ะ
ห้องทำงานของอาจารย์ หากนั่งที่นั่ง มองไปจะเห็นสวนดอกไม้
บรรยากาศใน Gallery เงียบสงบ ประกอบกับภาพของอาจารย์ ทำให้รู้สึกจิตใจสงบและอ่อนโยนมาก หลายภาพที่ดูแล้วยิ้มกับตัวเอง บางภาพ เป็นภาพเด็กทารกนั่งเอียงศีรษะ เราก็เอียงคอมองหน้าเด็กไปด้วย เสน่ห์ของภาพอาจารย์ คือ เรียบง่าย และปล่อยพื้นที่ให้เราจินตนาการ เด็กในภาพ ดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่บางที ก็ดูเหมือนมองอะไรอยู่ หรือกำลังคิดอะไร… ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน
จากนิทรรศการทั้ง 4 ห้อง ห้องที่ทำให้ดิฉันน้ำตาไหล คือ ห้องนี้ค่ะ … “ห้องเล่านิทาน” อาสาสมัครของพิพิธภัณฑ์จะหยิบหนังสือภาพต่างๆ ทั้งเล่มที่อาจารย์ Chihiro วาดภาพประกอบ และเล่มอื่นๆ มาเล่าให้ผู้มาชมฟัง ในห้อง มีทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกมา คุณตาคุณยายก็มานั่งฟังด้วย ผู้เล่าก็เล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นบ้าง เลียนเสียงสัตว์ต่างๆ บ้าง แม้แต่เด็กทารกที่ยังพูดไม่ได้ ก็ยังนั่งฟังตาแป๋วด้วยความสนใจจนถึงกับเอื้อมมือไปชี้ภาพ
“กาลครั้งหนึ่งมาแล้ว มีผัก 3 ชนิดเป็นเพื่อนกัน แครอท หัวไชเท้า และโกโบ (รากไม้ชนิดหนึ่ง) ทั้ง 3 คนจะไปงานเทศกาลท้องถิ่น จึงเรียงคิวกันอาบน้ำ เจ้าแครอทบอกว่า ฉันอาบก่อนนะ เขาลงไปแช่นานนนนนนจนตัวเป็นสีส้ม ส่วนเจ้าหัวไชเท้าบอกว่า ฉันจะขัดสีฉวีวรรณตัวเองให้ขาวสะอาดไปเลย เขานั่งขัดๆๆๆ จนขาวจั๊วะ ส่วนเจ้าโกโบบอกว่า จะไปทั้งๆ ที่ไม่ได้อาบน้ำ โกโบ เลยเป็นคนเดียวที่ผิวเลอะๆ ดำๆ อยู่นั่นเอง”
เสียงนักเล่านิทานเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น นิทานเหล่านี้โยงเข้ากับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน และทำให้เด็กๆ ได้เห็นภาพของสิ่งของ ผัก ผลไม้ หรือสีต่างๆ รอบตัว ผู้ใหญ่ทุกคนก็นั่งฟังอย่างอมยิ้ม จบเล่มหนึ่ง ก็มีเสียงปรบมือครั้งหนึ่ง แล้วนักเล่านิทานก็จะหยิบเล่มถัดไปมาเล่าให้พวกเราฟังต่อ บางเล่ม เนื้อเรื่องมีแค่
“โมโกะ (ปุด-เป็นภาพท้องทะเลมีคลื่นเล็กๆ โผล่ขึ้นมาลูกหนึ่ง)
โมโกะ โมโกะ (ปุดๆ-คลื่นกลมและสูงขึ้น)
โปะ ซุ้นนน…(ปุ๊ด – มีคลื่นลูกเล็กสีแดง โผล่ออกมาจากคลื่นลูกใหญ่อีกครั้ง)”
แทบไม่มีคำอธิบาย แต่ใช้เสียงประกอบภาพมากกว่า ซึ่งเด็กๆ ก็นั่งจ้องหนังสือตาแป๋ว
ดิฉันนั่งฟังไป น้ำตาซึมไป … ไม่ทราบจะอธิบายความรู้สึกเช่นนี้อย่างไรดี คือ บรรยากาศอบอุ่น อ่อนโยนมาก คนไม่รู้จักกันยิ้มให้กัน ปรบมือไปด้วยกัน หัวเราะเบาๆ ไปด้วยกัน นั่งมองเด็กๆ บ้าง นั่งมองคุณแม่อุ้มลูกที่หลับผล็อยบ้าง นั่งฟังนิทานที่ใช้ภาษาเรียบง่ายไปเรื่อยๆ บ้าง จนดิฉันรู้สึกว่า ความสุข ความสงบ มีได้ง่ายๆ แบบนี้เลย
หากท่านไหนฟังภาษาญี่ปุ่นออก ดิฉันแนะนำให้ไปวันเสาร์-อาทิตย์ค่ะ เขาจะมีช่วงเวลาอ่านนิทาน ลองไปสัมผัสความสุขแบบเรียบง่ายดูนะคะ ตอนเดินออกจากพิพิธภัณฑ์ ดิฉันเห็นคุณป้านักเล่านิทานปั่นจักรยานกลับบ้านแกไป เป็นภาพที่น่ารักอีกช็อทหนึ่ง เหมือนแวะมาอ่านนิทานให้ลูกหลานฟังแล้วก็กลับบ้าน
หลังจากอินได้ที่ ขาออก มี Museum shop เล็กๆ จำหน่ายหนังสือ โปสการ์ด ขนม ฯลฯ สารพัดอย่างที่เกี่ยวกับภาพเขียนของอาจารย์ Chihiro
การฝึกสติสำเร็จผล วันนี้ ดิฉันซื้อสินค้าแค่ 3 อย่าง ซองจดหมาย 2 แบบ
กับหนังสือสอนเคล็ดลับการวาดภาพสไตล์ Chihiro
จดหมายนี่ คิดว่า ถ้าส่งให้ใคร เขาต้องมองว่าเราเป็นคนจิตใจดีงามแน่ๆ ภาพอ่อนโยนขนาดนี้ คิดเช่นนี้เลยจัดไป 2 เซ็ท…โฮะๆๆ
ข้างในหนังสือเคล็ดลับ สอนเทคนิคการวาดภาพและการลงสีของอาจารย์ Chihiro
มีทั้งการสอนวิธีหามุมภาพ การลงสีทั่วไป ตลอดจนการวาดภาพฝนตก หรือหน้าเด็กแบบต่างๆ
ท่านใดเคยไปโตเกียวบ่อยแล้ว ลองหลีกหนีความเครียดความวุ่นวาย หลุดเข้าไปในโลกของภาพสีน้ำอันสดใสและอ่อนโยน ไปสัมผัสครอบครัวชาวญี่ปุ่น พ่อแม่ลูก อบอุ่นแบบที่หาไม่ได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆ ทั่วไปค่ะ (^^)
รายละเอียดเกี่ยวกับ Chihiro Art Museum Tokyo
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน
วิธีไป: นั่งรถไฟสาย Seibu Shinjuku Line ลงที่สถานี Kami-Igusa (上井草) แล้วเดินไป 7 นาที
เวลาเปิด: วันอังคาร – อาทิตย์: 10.00 – 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นเป็นวันหยุดประจำชาติ)
Link: http://www.chihiro.jp/global/en/tokyo/
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura
เรื่องแนะนำ :
– แนะนำตัวอย่างไรให้คนญี่ปุ่นสนใจ
– เรื่องน่ารักๆ ที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ Kumamon
– รู้ไว้ก่อนไปโตเกียว…10 ย่านเด่นในเมืองโตเกียว
– น.ส.เกตุวดี…นักเรียน (ดี) ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
– เกตุวดีพาเยือนประตูสู่ยมโลกญี่ปุ่น