เคยคิดกันมั้ยขอรับ? ว่าเพราะอะไรนะการท่องเที่ยวญี่ปุ่นถึงได้มีเสน่ห์ที่ดึงดูดสายตาและหัวใจของผู้คนทั่วโลกได้มากขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเพราะประเทศเค้ามีความตั้งใจที่อยาก ”พัฒนา”
สำหรับคนชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ได้ชอบอะไรมาก พอได้ไปเที่ยวซักครั้งหนึ่งต้องมีความคิดแว่บ…ขึ้นมาบ้างแหละว่าอยากจะกลับมาเที่ยวอีกครั้งแน่นอน เคยคิดกันมั้ยขอรับ? ว่าเพราะอะไรนะการท่องเที่ยวญี่ปุ่นถึงได้มีเสน่ห์ที่ดึงดูดสายตาและหัวใจของผู้คนทั่วโลกได้มากขนาดนี้
ส่วนหนึ่งเพราะประเทศเค้ามีความตั้งใจที่อยาก ”พัฒนา” การท่องเที่ยวอย่างจริงจัง อย่างเช่นการนำนวัตกรรมที่ชื่อว่า QR Translator มาใช้ตามสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง และสนามบินให้ชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวหมดห่วงเรื่องการอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แค่สแกน ข้อมูลก็มา ได้ทั้งความรู้ ซื้อของก็ง่ายขึ้น หมดห่วงเรื่องหลงทางและไม่เสียเวลาในการสอบถามให้ยุ่งยากอีกด้วย

สำหรับ QR Translator พัฒนาโดยบริษัท PIJIN ที่พยายามให้ทุกคนหลุดพ้นจากอุปสรรคทางด้านภาษา โดยคิวอาร์โค้ดจะผูกติดกับลิงค์ข้อมูลต่างๆ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนที่สามารถสแกนอ่านระบบ QR Code ก็สามารถรับข้อมูลที่ต้องการอ่านได้แล้ว หรือถ้าไม่มีอินเตอร์เนตตามแหล่งท่องเที่ยวก็ใช้วิธีถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนแล้วมาสแกนศึกษารายละเอียดตอนหลังก็ได้ขอรับ

เดี๋ยวขอเล่าก่อนว่าทำไมถึงพูดถึงสิ่งนี้ คือตอนหมายเลขสิบเก้าไปเที่ยวโตเกียว แล้วกำลังเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน (Tokyo Metro) แถวย่านนิฮงบาชิ (Nihonbashi) บังเอิญว่าไปเจอศาลเจ้าเล็กๆ ที่สะดุดตามาก เพราะตั้งอยู่ใจกลางตึกสูง นาทีนั้นคือแบบขอเดินไปไหว้ขอพรซักหน่อย โดยที่ไม่รู้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อเสียงเรียงนาม มีความเป็นมาเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าคนญี่ปุ่นเดินเข้าไปไหว้ขอพรกันไม่ขาดสาย
หลังจากล้างมือไหว้ขอพรเสร็จแล้ว ก็เดินไปตรงจุดที่ มิโกะ (หญิงสาวที่ทำงานอยู่ในศาลเจ้าชินโต) ยืนจำหน่าย เครื่องรางนำโชคและแผ่นเอมะ (ป้ายขอพร) อย่างดูสุขุม สวยสง่ามาแต่ไกล ก็กล้าๆ กลัวๆ จะถามชื่อศาลดีมั้ย? ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายเชิญชวนให้อ่านประวัติความเป็นที่มีใจความว่า ‘Read the history of this shrine in 15 langulges’ ด้านล่างของข้อความเป็นรหัสคิวอาร์โค้ด QR Translator พอดี

คือดีงาม ไม่ต้องถามแล้ว อาจจะต้องใช้เวลาในการสื่อสารนานหน่อย เพราะรีบไปที่อื่นต่อ เห็นมีภาษาไทยด้วย เลยจัดการหยิบมือถือขึ้นมาสแกนบาร์โค้ดทันที ถึงได้รู้ว่าที่นี่คือศาลเจ้าฟุคุโตกุ (Fukutoku Shrine) หรือมีชื่ออีกหนึ่งชื่อว่าศาลเจ้าเมะบุคิ (Mebuki Shrine) ชาวบ้านเค้าเชื่อว่ามีเทพเจ้าที่ดูแลเรื่องข้าวประทับอยู่ที่นี่ เป็นศาลที่เก่าแก่มากเป็นที่เคารพบูชามาตั้งแต่ ค.ศ. 860 จนถึงปัจจุบันก็ 1,100 กว่าปีแล้ว ว่ากันว่าสมัยเอโดะตระกูลโทคุงาวะนับถือที่นี่มาก โดยที่นี่เคยได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แถบคันโต และถูกเผาในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง นับว่าเป็นศาลเจ้าในยุคเก่าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ถูกบำรุงรักษาเป็นอย่างดี เพราะยังคงสวยงามเหมือนกับเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อวาน และต่อยอดจากเทคโนโลยีในปัจจุบันนำเข้ามาพัฒนาให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักได้กันมากขึ้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก
ส่วนนี้คือ QRT ที่ยกตัวอย่างมานี่เป็นแผนงาน “พัฒนา” ปลุกสีสันย่าน Nihonbashi ให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมเมืองเพื่อศึกษาสิ่งเก่าและเรียนรู้สิ่งใหม่ควบคู่กันไปได้ด้วยขอรับ
เรื่องแนะนำ :
-เสน่ห์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น (1) รักษา
-เสน่ห์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น (3) ใส่ใจ
-เสน่ห์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น (4) ประชาสัมพันธ์
-เสน่ห์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น (5) กลยุทธ์