คั่นรายการ โดย Lordofwar Nick
บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (13) การล้างแค้นเพื่อคุณธรรม (คาตากิ-อุจิ 敵討ち)
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วว่ากันด้วยเรื่องของการคว้านท้องไปแล้ว อย่างที่กล่าวไว้ตอนที่แล้วนั่นแหละครับ ว่าเมื่อเกิดเป็นชายชาติซามูไร ถึงเวลาที่ต้องโทษประหาร ก็ต้องถูกตีกรอบว่า จะต้อง “แสดงสปิริต” ด้วยวิธีการที่ “ไม่ธรรมดา” แบบที่ว่าใจไม่แข็งจริงห้ามดู! แต่ เรื่องของกรอบแห่งคุณธรรมของซามูไรนั้น ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่บางครั้งก็เกี่ยวพันกับเรื่องคว้านท้อง ดังที่ปรากฎในเรื่องราวของ 47 โรนิน ที่จากเป็นซามูไรมีนายต้องกลายเป็นไร้นายเพราะนายทำผิดจนนายต้องคว้านท้องตัวเอง โรนินทั้ง 47 ก็เลยไปฆ่าล้างแค้นคู่กรณีของนายตัวเองซะ เอาหัวมันไปเซ่นไหว้หลุมศพของนาย ถูกทางการจับได้ แต่เห็นแก่ว่าเป็น “การล้างแค้นเพื่อคุณธรรม” จึงได้รับอนุญาตให้คว้านท้องสำเร็จโทษตัวเองเยี่ยงซามูไร (แทนที่จะถูกเอาไปตัดหัวเยี่ยงโจร) เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องดังข้ามศตวรรษ ขนาดที่ Keanu Reeves ต้องเอาไปทำเป็นหนังเลยนะ 55 (ที่มา blockdit)
ว่าแล้วก็ ลุยไปเลยครับ
…ในบรรดาชนเผ่าป่าเถื่อนที่ไม่มีการแต่งงาน การล่วงประเวณีไม่ใช่บาป และมีเพียงความหึงหวงของคนรักเท่านั้นที่ปกป้องผู้หญิงจากการถูกข่มเหง ดังนั้นในยุคที่ไม่มีศาลอาญา การฆาตกรรมจึงไม่ใช่อาชญากรรม และมีเพียงการแก้แค้นแบบศาลเตี้ยของผู้คนของเหยื่อเท่านั้นที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม “อะไรคือสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลก” โอซิริสกล่าวกับฮอรัส คำตอบคือ “การล้างแค้นให้กับการถูกประทุษร้ายของพ่อแม่” ซึ่งคนญี่ปุ่นจะเติมคำว่า “และของอาจารย์” ลงไปด้วย
ในการล้างแค้น มีบางสิ่งที่สนองความรู้สึกยุติธรรมของคน เหตุผลของการล้างแค้น“พ่อที่ดีของข้าไม่สมควรตาย ผู้ที่ฆ่าเขานั้นได้กระทำความชั่วอย่างมหันต์ พ่อของข้า ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ย่อมไม่ทนต่อการกระทำเช่นนี้ สวรรค์เองก็เกลียดชังการทำชั่ว มันเป็นเจตจำนงของพ่อข้า เป็นเจตจำนงแห่งสวรรค์ให้ผู้กระทำความชั่วหยุดจากกรรมของตน มันจะต้องพินาศด้วยมือของข้า เพราะเขาทำให้เลือดของพ่อข้าหลั่ง ข้าซึ่งเป็นเนื้อและเลือดของพ่อจะต้องหลั่งเลือดของฆาตกร สวรรค์เดียวกันจะไม่ปกป้องพ่อและข้า” การยกเหตุผมมาโต้นี้ดุง่ายๆ และเด็กๆ (แม้ว่าเราจะรู้ว่าแฮมเล็ตไม่ได้ให้เหตุผลลึกซึ้งกว่านี้มากนัก) แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความหมายโดยธรรมชาติของสมดุลที่แน่นอนและความยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ความรู้สึกของการล้างแค้นของเรานั้นเหมือนกับปฎิภาณด้านคณิตศาสตร์ของเรา และจนกว่าทั้งสองพจน์ของสมการจะได้คำตอบแล้ว เราไม่อาจก้าวข้ามความรู้สึกที่ว่ายังบางสิ่งที่ยังไม่ได้ทำไปได้
ในศาสนายิวซึ่งเชื่อในพระเจ้าผู้ริษยา หรือในตำนานเทพเจ้ากรีกซึ่งก่อให้เกิดกรรมตามสนอง (Nemesis) การล้างแค้นอาจถูกปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตัวแทนที่เหนือมนุษย์ แต่สามัญสำนึกทำให้บูชิโดมีขนบประเพณีของการปลดเปลื้อง ในฐานะศาลจริยธรรมประเภทหนึ่งแห่งความเท่าเทียม ซึ่งประชาชนอาจชำระคดีที่ไม่ได้รับการตัดสินตามกฎหมายธรรมดาได้ นายของโรนินทั้งสี่สิบเจ็ดคนถูกตัดสินว่ามีความผิดถึงตาย เขาไม่มีศาลที่มีชั้นสูงกว่าที่จะอุทธรณ์ได้ ผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ของเขากล่าวต่อการล้างแค้น ซึ่งเป็นศาลฎีกาเพียงแห่งเดียวที่มีอยู่ พวกเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมายจารีตประเพณี แต่สัญชาตญาณของประชาชนกลับลงคำตัดสินที่แตกต่างออกไป และด้วยเหตุนี้ความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขาจึงยังคงสดใหม่และหอมฟุ้งเช่นเดียวกับสุสานของพวกเขาที่วัดเซ็นกาคุจิจนถึงทุกวันนี้
แม้ว่าเล่าจื๊อจะสอนให้ตอบแทนความอยุติธรรมที่ได้รับด้วยความเมตตากรุณา แต่เสียงของขงจื๊อก็ดังกว่ามาก ซึ่งแนะว่าความอยุติธรรมที่ได้รับต้องได้รับการตอบแทนความยุติธรรม แต่กระนั้น การล้างแค้นจะยุติธรรมก็ต่อเมื่อกระทำในนามของนายเหนือหัวและผู้มีพระคุณของเราเท่านั้น การถูกประทุษร้ายของตนเอง รวมถึงความอยุติธรรมที่ลูกเมียได้รับ นั้นจะต้องทนรับและให้อภัย ซามูไรจึงเห็นใจอย่างเต็มที่กับคำสาบานของฮันนิบาลที่จะล้างแค้นให้กับประเทศของเขาที่ถูกทำร้าย แต่เขาจะดูหมิ่น เจมส์ แฮมิลตัน (ผู้สนับสนุนแมรี่แห่งสกอตแลนด์) ที่เอาดินกำมือหนึ่งจากหลุมศพของเมียตัวเองใส่ผ้าคาดเอว เพื่อเป็นแรงกระตุ้นชั่วนิรันดร์ในการล้างแค้นผู้สำเร็จราชการมอเรย์ ให้กับการที่นางถูกทำร้าย (ว่ากันว่าลูกเมียของเจมส์ถูกไล่ออกจาก Woodhouselee ให้ไปหนาวตายข้างนอก เลยเอาปืนยิงแม่งเลย 555 ว่ากันว่าเป็นการลอบฆ่าโดยใช้ “ปืน” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์)
เรื่องที่ว่า อะไรคือความยุติธรรม และเรื่องราวระหว่าง ความยุติธรรมที่ต้องทำด้วยน้ำมือตนเอง (ศาลเตี้ย) กับ ความยุติธรรมภายใต้ “อำนาจรัฐ” (กฎหมาย การพิพากษาคดีตามกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย) เอาจริงๆ ไปนั่งถกกันในชั่วโมงเลคเชอร์ในมหาลัยในชื่อวิชา “จริยศาสตร์” ได้เลยนะครับ ซึ่งผมคงต้องขอเว้น ไม่งั้นหนึงภาคการศึกษาก็ไม่จบครับ (ฮา) แต่จะขอพูดนิดหน่อยเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องจริยธรรมของขงจื๊อ ซึ่งมีอิทธิพลมากทั้งกับคนจีนในสมัยก่อน รวมมาถึงซามูไรญี่ปุ่น
บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ
ฟังดูเหมือนอะไรที่แบบ คนฟังอาจจะคิดว่า นิยายกำลังภายในเนี่ย มันโลดโผนเหมือนกับหนังคาวบอย เลยพูดคำนี้เท่ๆ แต่เอาจริงๆ คนจีนสมัยก่อนถือเรื่องนี้จริงๆ พระคุณพ่อแม่เหนือสิ่งอื่นใด ความกตัญญูต่อบิดามารดาคือคุณธรรมอันสูงสุด (ถึงมีเรื่อง “24 ยอดกตัญญู” เช่นเรื่องลกเจ๊กลักส้มเอาไปให้แม่กิน ขโมยของเป็นสิ่งไม่ดีแต่ความนึกถึงแม่กลับเป็นเรื่องยิ่งใหญ่กว่า) ถ้าพูดแบบสุดโต่งมากๆ ถ้าไม่ล้างแค้นให้พ่อแม่ ถือว่าไม่กตัญญูซะด้วยซ้ำนะเอ้อ แต่คนจีนนั้นยังความเป็นปัจเจกในระดับที่ยังโฟกัส “พ่อแม่” ว่าสำคัญสุด แต่ขงจื๊อใหม่อย่างซามูไรญี่ปุ่นนั้น จะด้วยบริบททางการเมืองหรือไงไม่ทราบ กลับโฟกัสไปที่ “นายเหนือหัว” เสียมากกว่า เพราะคนญี่ปุ่นยังมีความคิดเรื่อง “ส่วนตัว-ส่วนรวม” ด้วย โดยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่อง “ส่วนตัว” (ในบ้าน ครอบครัว คนในครอบครัว) แต่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่อง “ส่วนรวม” (เจ้านาย นายเหนือหัว ถ้าเป็นสมัยก็ บริษัท อะไรที่มัน อยู่นอกบ้านตัวเองน่ะ) ใครทำอะไรเพราะเพื่อ “ส่วนตัว” คนจะไม่ยกย่อง แต่ยกย่องคนที่ทำเพื่อ “ส่วนรวม” (เพื่อโรงเรียน เพื่อกลุ่ม เพื่อบริษัท เพื่อชาติ บลาๆ) มากกว่า
อ่ะเรามาชมภาพเกร็ดประวัติศาสตร์ครับ (ที่มา วิกิพีเดีย)
นี่คือ ภาพของสุสานของ 47 โรนิน ครับ
นี่คือ ภาพของเจมส์ แฮมิลตัน งัดปืนมาจะยิงล้างแค้น ครับ
จากขนบประเพณีนองเลือดเหล่านี้ เช่นเดียวกับจากวิถีชีวิตทั่วไปของบูชิโด มันง่ายที่จะอนุมานได้ว่าดาบมีบทบาทสำคัญในวินัยทางสังคมและชีวิต คำพูดที่ส่งผ่านกันมาเป็นสัจพจน์ที่ว่า ดาบคือวิญญาณของซามูไร และทำให้มันเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความองอาจ
THE SOUL OF THE SAMURAI
อืม…พูดถึงเกมนี้เหรอครับ (หยอกๆ 555) เกมนี้ก็ชอบนะครับ (อารมณ์ไบโอฮาซาร์ดเวอร์ชั่นยุคเอโดะ) เล่นเก็บดาบนี่ ดาบ “โมโนโฮชิซาโอ” (“ราวตากผ้า” ดาบชื่อดังของซาซากิ โคจิโร่) ก็มี ดาบสองมือก็มี (ต้องล้มบอสลับ “มูซาชิ” ให้ได้ก่อน) ดาบอิไอก็มี (ต้องล้มยูกิโนะสุเกะอดีตเพื่อนร่วมสำนักให้ได้ก่อน) เอ้าๆ จะย้อยไปหาเกมเก่าแล้วตู 555
ที่มา gamefabrique.com
ก่อนจากกันวันนี้ ผมอยากจะบอกว่า บางสิ่งที่เราเคยคิดจะวางมันไป บางที สิ่งที่เราเป็นอยู่ทำอยู่นี่แหละ ที่ในที่สุด มันก็ชักนำเรามา ให้ต้องหวนกลับมาจับมันอีกครั้ง ตอนนี้ยังเป็นเพียงก้าวแรกที่ค่อยๆ เตาะแตะกลับมาอีกครั้ง แต่ถ้าหากปัจจัยต่างๆ ถึงพร้อมแล้ว สิ่งต่างๆ มันคงจะค่อยๆ มาจนกลับไปเป็นดังเดิม หรืออาจไปได้กว้างไกลกว่าเดิม ก็ได้นะครับ
เปิดมาซะขนาดนี้แล้ว อย่าลืมอ่านต่อตอนหน้ากันนะครับ สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (12) ประเพณีการคว้านท้อง (เซปปุกุ 切腹)
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (11) การควบคุมตนเอง
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (10) การศึกษาของซามูไร
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (9) ว่าด้วย ความภักดี (ชูงิ 忠義)
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (8) ว่าด้วย เกียรติ (เมย์โยะ 名誉)
#บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (13) การล้างแค้นเพื่อคุณธรรม (คาตากิ-อุจิ 敵討ち)