ถ้าพูดถึงขนมญี่ปุ่นแล้ว เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านต้องเคยรับประทานขนมญี่ปุ่นที่ทำมาจากถั่วแดงแน่นอน เพราะถั่วแดงจัดเป็นส่วนผสมหลักๆ ที่พบได้ในขนมญี่ปุ่นทั่วไป โดยจะนำถั่วแดงไปกวนใส่น้ำตาลให้มีรสชาติหวานและมีความเหนียว แล้วจึงจะนำไปใช้เป็นไส้ หรือราดหน้าขนม
ถ้าพูดถึงขนมญี่ปุ่นแล้ว เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านต้องเคยรับประทานขนมญี่ปุ่นที่ทำมาจากถั่วแดงแน่นอน เพราะถั่วแดงจัดเป็นส่วนผสมหลักๆ ที่พบได้ในขนมญี่ปุ่นทั่วไป โดยจะนำถั่วแดงไปกวนใส่น้ำตาลให้มีรสชาติหวานและมีความเหนียว แล้วจึงจะนำไปใช้เป็นไส้ หรือราดหน้าขนม ขนมที่มีส่วนประกอบของถั่วแดงนั้นพบได้แทบจะทุกฤดูกาลของญี่ปุ่น เช่น โดรายากิ ไดฟุกุไส้ถั่วแดง อังดังโงะ เป็นต้น
โดรายากิ | ไดฟุกุไส้ถั่วแดง |
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Food/Red%20Bean/RedBeen2.jpg)
อังดังโงะ
ชาวญี่ปุ่นค้นพบว่าถั่วแดงเป็นพืชที่ให้พลังงานมาเป็นเวลาช้านานตั้งแต่สมัยโจ มน คาดว่าถั่วแดงจะเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 โดยถั่วแดงได้ปรากฎในตำนานโคจิกิ และ นิฮงโชะคิ1 ความว่า เทพธิดาโอเงสึมีต้นถั่วแดงงอกออกมาตรงจมูก และเทพธิดาโอเงสึจะสามารถเนรมิตให้มีพืชพรรณงอกงามตามร่างกายของตนได้ แต่ต่อมา เทพธิดาโอเงสึ โดน ซุซาโนะโอะโนะมิโคะโตะ ลอบสังหาร หลังจากนั้นศพของเทพธิดาโอเงสึจึงเกิดใหม่เป็นธัญพืชทั้งห้า นับตั้งแต่นั้นมาก็นับถือเทพธิดาโอเงสึเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์
1ตำนานการกำเนิดประเทศญี่ปุ่น
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Food/Red%20Bean/RedBeen3.jpg)
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีเทศกาลเก็บเกี่ยวพืชพรรณ เพื่อเป็นการขอบคุณต่อเทพเจ้าที่บันดาลพืชพรรณให้อุดมสมบูรณ์ตลอดปี ชาวญี่ปุ่นโบราณจึงได้ทำ โอะมุซุบิ หรือ ข้าวปั้น เพื่อเป็นของบูชา ในสมัยนั้นข้าวยังเป็นข้าวสีแดง โอมุซุบิจึงเป็นสีแดงไปด้วย แต่ว่าก็เกิดปัญหาขึ้น เมื่อข้าวที่เคยเป็นสีแดงกลับกลายเป็นสีขาว เนื่องมาจากปัญหาการผสมพันธุ์พืช ข้าวแดงที่กลับกลายเป็นข้าวขาวนั้น ก็ทำให้ข้าวขาวเหล่านั้นหมดประโยชน์ไป ชาวญี่ปุ่นสมัยนั้นจึงนำถั่วแดงมาต้มแล้วจึงปั้นเป็นก้อน ใช้แทนโอมุซุบิที่ทำจากข้าวแดง
โอมุซุบิจากข้าวแดง | โอฮางิ ถั่วแดงกวนใช้แทนโอมุซุบิ |
สำหรับการเข้ามาของถั่วแดงในฐานะขนมญี่ปุ่นนั้น เข้ามาในสมัยจักรพรรดิซุอิโคะ ประมาณศตวรรษที่ 6 โดยได้รับอิทธิพลจากประเทศจีน ซึ่งในเวลานั้นชาวจีนนำถั่วแดงมาทำเป็นไส้ซาลาเปา แต่ก็มีอีกแหล่งข้อมูลบอกว่า ในหมู่พระภิกษุที่ต้องการหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ ก็ได้บริโภคถั่วแดงแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ และเมื่อเข้าสู่สมัยมุโรมาจิ ถั่วแดงเหล่านั้น ที่ไว้บริโภคแทนเนื้อสัตว์ได้ถูกนำมาปรับปรุงรสชาติโดยการใส่น้ำตาล จึงทำให้เกิด ขนมเซนไซ ขึ้นมา ต่อมาในสมัยเอโดะ ถั่วแดงได้แพร่หลายในหมู่ประชาชนมากขึ้น ร้านทำขนมได้คิดค้นสูตรขนมใหม่ๆ จากถั่วแดงอีกมากมาย
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Food/Red%20Bean/RedBeen5.jpg)
ขนมเซนไซ
ถั่วแดงเป็นพืชที่เติบโตมาพร้อมกับชาวญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แสดงถึงสภาพภูมิประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่อดีต ถั่วแดงจึงสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในขนมต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี นอกจากจะปรากฎในตำนานญี่ปุ่นแล้ว ขนมที่ทำจากถั่วแดงก็ยังถูกสอดแทรกเข้าไปใน Pop Culture2 ของญี่ปุ่นเช่นกัน จึงทำให้วัฒนธรรมการรับประทานขนมที่ทำจากถั่วแดงไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมใน ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังแพร่หลายเข้าไปในวัฒนธรรมอื่นๆ ในอีกหลายประเทศเช่นกัน
2 วัฒนธรรมกระแสนิยม เช่น เพลง ละคร แฟชั่น การ์ตูน
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Food/Red%20Bean/RedBeen6.jpg)
โดราเอมอนกับขนมของโปรดโดรายากิที่คนไทยรู้จักกันดี
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://hiya-tokyo.seesaa.net/article/180416779.html
http://myanimelist.net/forum/?topicid=255607&show=40
http://blog.goo.ne.jp/kyo-otoko/e/ef9d16d93b52cb60be2448f3ea604987
http://dbpedia.org/page/Daifuku
http://photozou.jp/photo/show/194005/38827382
Azuki no mame chishiki
An no rekishi