“แค่วันละ 1 นาที เปลี่ยนสายตาแย่ให้กลับเป็นเยี่ยม”...คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาสายตามักจะมีปัญหาอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ปวดไหล่ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ผิวแห้ง ซึมเศร้า ปวดเอว ท้องเสีย ประจำเดือนมาไม่ปกติ วิงเวียน ภูมิแพ้ หูตึง ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โรคความดัน หัวใจ ฯลฯ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คนเรามีปัญหาดังกล่าวได้แก่
วันก่อนเดินดูหนังสือที่ซีเอ็ดบุ้กและเห็นหนังสือเล่มหนึ่งติดอันดับหนังสือขายดี หัวข้อดูน่าสนใจเพราะชื่อว่า “แค่วันละ 1 นาที เปลี่ยนสายตาแย่ให้กลับเป็นเยี่ยม”
คนสายตาสั้นและวุ้นตาเสื่อมอย่างดิฉันจึงไม่ลังเลที่จะซื้อทันที พออ่านไปแล้วก็รู้สึกดีใจที่ซื้อมาเพราะนอกจากจากมีวิธีปรับปรุงสายตาแล้ว ยังเป็นการบำบัดออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย ดิฉันจึงอยากนำมาแบ่งปันกับผู้อ่านค่ะ
ผู้แต่งคือ คุณคนโนะ เซชิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสายตาของญี่ปุ่นเล่าว่ามีประสบการณ์ที่ทำให้คนสายตาสั้น 600 เหลือแค่ 175 และยังช่วยบำบัดปัญหาสายตาแบบอื่น เช่น ตาแห้ง วุ้นตาเสื่อม ตาพร่า ฯลฯ คุณคนโนะบอกว่าปัจจุบันมีคนที่มีปัญหาสายตาเพิ่มมากขึ้น และอายุเฉลี่ยของคนสายตาสั้นก็น้อยลงเรื่อยๆ (คุณผู้อ่านคงเคยเห็นเด็กๆสมัยนี้ใส่แว่นตั้งแต่เด็ก) นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาสายตามักจะมีปัญหาอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ปวดไหล่ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ผิวแห้ง ซึมเศร้า ปวดเอว ท้องเสีย ประจำเดือนมาไม่ปกติ วิงเวียน ภูมิแพ้ หูตึง ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โรคความดัน หัวใจ ฯลฯ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คนเรามีปัญหาดังกล่าวได้แก่
• กระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ยืดหยุ่น คุณคนโนะบอกว่าสาเหตุประการแรกที่ทำให้คนมีปัญหาเรื่องสายตาและออฟฟิศซินโดรมก็คือมีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหารและลำไส้ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะท้องแข็งมากทำให้สูดลมเข้าท้องได้ไม่เต็มที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี
• ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ การนั่งทำงานในห้องแอร์ทั้งวันดูเหมือนจะเย็นสบายดี แต่แท้จริงแล้วอากาศภายในออฟฟิศไม่ไหลเวียนออกไปข้างนอกทำให้ออกซิเจนไม่เพียงพอ ยิ่งถ้านั่งหน้าคอมพิวเตอร์ต้องก้มหน้าทั้งวันก็ยิ่งทำให้ทางเดินหายใจแคบลง การนั่งทั้งวันยังทำให้เส้นเลือดบริเวณก้นและหน้าขาถูกกดทับ ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดีอีกด้วย มีคนไข้คุณคนโนะที่ทำงานในโตเกียวแล้วสายตาแย่มาก เธอจึงตัดสินใจย้ายไปทำงานต่างจังหวัดที่อากาศดีกว่า เพียงไม่นานสายตาเธอก็ดีขึ้นมาก
• คอมพิวเตอร์ตัวดี การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์มีประจุบวกที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย และแสงไฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ยังทำให้ตาเสียเพราะมีความสว่างมากกว่าไฟธรรมดาถึงสามเท่า
• ความเครียด ความเครียดเป็นตัวร้ายที่จะทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปรกติ ซึ่งระบบประสาทอัตโนมัติมีผลกับการไหลเวียนของเลือด ความเครียดจะทำให้ม่านตาขยายมากเกินไปทำให้ดวงตาอ่อนล้าและเสื่อมสภาพ
อย่างไรก็ตามคุณคนโนะเชื่อว่าร่างกายเรามีสามารถรักษาและฟื้นฟูตัวเองได้ เขาจึงแนะนำวิธีที่ทำให้ดวงตา และโรคออฟฟิศซินโดรมดีขึ้นซึ่งได้มีการพิสูจน์มาแล้วว่าทำได้จริงได้แก่
• การหายใจอย่างถูกวิธี คุณคนโนะบอกว่าปัญหาที่ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอก็เพราะหายใจไม่ลึก วิธีหายใจที่ถูกต้องคือการหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูกและหายใจออกทางปากให้ยาวอย่างน้อย 6 วินาทีให้ได้ประมาณ 50 ครั้งต่อวัน
• การนวด การลูบ เคาะ และกดจุดรอบดวงตา บริเวณรอบๆ ดวงตา คิ้วและขมับมีเส้นประสาทอยู่มากมาย การนวด ลูบ เคาะและกดจุดบริเวณเหนือคิ้ว คิ้ว เบ้าตา ใต้ดวงตาและขมับจะทำให้เส้นประสาทและสมองตื่นตัวและทำงานได้ดีขึ้น คุณผู้อ่านลองเอาปลายนิ้วเคาะจากหัวคิ้วไปหางคิ้ว จากใต้หัวตาไปหางตาก็จะรู้สึกว่าตาสว่างขึ้นมาเลยค่ะ
• การกระโดดพร้อมหายใจยาวๆ คุณคนโนะบอกว่าการเดินออกกำลังกายหรือวิ่งไม่ทำให้อวัยวะภายในหลั่งเหงื่อมากพอ การกระโดดขึ้นเบาๆ วันละ 500 ครั้งทำให้อวัยวะภายในหลั่งเหงื่อ ซึ่งจะมีผลทำให้ระบบไหลเวียนต่างๆ ดีขึ้น
• การบริหารกล้ามเนื้อดวงตา มีอีกวิธีที่จะทำให้ดวงตาผ่อนคลายสบายขึ้นก็คือ การเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นโปะที่ดวงตาโดยที่หลับตาไว้ และให้กลอกตาขึ้น กลอกตาไปทางขวา ล่าง และซ้ายรอบละ 6 วินาที
• การหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดวงตามีกำลังและได้รับออกซิเจนเพียงพอ
• ใส่คอนแทคเลนส์เท่าที่จำเป็น การใส่คอนแทคเลนส์เป็นระยะเวลานานทำให้ดวงตาขาดออกซิเจน พอขากออกซิเจนนานๆ ดวงตาก็เสื่อมสภาพ เราจึงควรใส่คอนแทคเลนส์เท่าที่จำเป็น หากใครสายตาไม่ดีแล้วอยากทำเลสิคก็ควรปรับระบบไหลเวียนเลือดให้ดีเสียก่อน มิฉะนั้นหากทำเลสิคไปแล้วตาก็อาจจะแย่เหมือนเดิมได้ค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– ความเกรงใจเป็นสมบัติของคนญี่ปุ่น
– เคล็ดลับความสำเร็จ
– ทำไมถึงไม่แต่งงาน
– สังคมก้มหน้า
– Sekuhara ลวนลาม ตามออฟฟิส
#แค่วันละ 1 นาที เปลี่ยนสายตาแย่ให้กลับเป็นเยี่ยม