สยองผีญี่ปุ่น : ฟากนู้น
เรื่องราวเกิดขึ้นในงานเทศกาลของศาลเจ้าแห่งหนึ่ง เป็นที่รู้กันว่างานเทศกาลของคนญี่ปุ่นเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาก แต่ไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบ เพราะแม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองก็มักจะไม่พลาดงานเหล่านี้เช่นเดียวกัน
อาซาโกะกับมิกิเองก็ไม่พลาดงานนี้เช่นกัน ความงดงามหนึ่งของชาวญี่ปุ่นเวลาเที่ยวงานเทศกาลคือมักจะแต่งตัวด้วยชุดดั้งเดิมในแบบฉบับชาวญี่ปุ่น ทั้งคู่มาถึงงานในตอนค่ำ แสงไฟจากโคมสีแดงส่องสว่างไปทั่วทั้งงาน อาซาโกะอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปซื้อขนมสายไหมมาชิม
ฝ่ายมิกิเมื่อเห็นเกมช้อนปลาทอง ก็รีบชวนอาซาโกะไปเล่นด้วยกัน ดูเหมือนว่ามิกิจะเชี่ยวชาญเกมนี้เป็นพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเธอถึงรีบพุ่งนี้มาที่ร้านนี้โดยไม่ลังเล ส่วนอาซาโกะนั้นไม่ถนัดเกมนี้เอาเสียเลย คนที่ได้ปลาทองกลับบ้านไปจึงมีแค่มิกิเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ยังคงรู้สึกสนุกสนานไปกับบรรยากาศในงาน เสียงร้องรำทำเพลง เสียงตะโกนเรียกแขกของร้านมันช่างเป็นอะไรที่สนุกสนานเสียจริง สนุกจนทั้งคู่บนว่าอยากจะอยู่ที่งานแห่งนี้ตลอดไป
อาซาโกะเหลือบไปเห็นหน้าขายหน้ากากที่แขวนหน้ากากเอาไว้เรียงรายจนตั้งเป็นเหมือนกำแพงขนาดย่อม เธอหลงใหลในสีสันของหน้ากากเหล่านี้ อาซาโกะเรียกให้มิกิรีบมาที่ร้านนี้เพื่อมาร่วมชมหน้ากากเหล่านี้ด้วยกันกับเธอ…แต่ไร้เสียงตอบรับ…
“มิกิ…มิกิ…”
เธอพยายามเรียกเพื่อนซ้ำๆ แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบ เมื่อเธอหันไปมองทางด้านหลัง ถึงได้พบว่ามิกิไม่ได้อยู่กับเธอเสียแล้ว หรือว่ามิกิจะไปแวะซื้ออะไรระหว่างทาง? มิกิอยู่ไหนนะ?
“ฟากนู้น…”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากหน้ากากชิ้นหนึ่ง ดูเหมือนว่าหน้ากากชิ้นนั้นอยู่ๆ มันก็พลิกกลับด้านเอง
แต่เมื่ออาซาโกะหันกลับมาหาต้นเสียง เธอก็ไม่พบว่ามีใครอยู่ตรงนั้น เบื้องหน้าของเธอยังคงเต็มไปด้วยหน้ากากแขวนเรียงรายอยู่เหมือนเดิม และก็เป็นไปไม่ได้ที่หน้ากากจะพูดได้ เธอบอกกับตัวเองเช่นนั้น
ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏเสียงของขบวนแห่ดังมาจากทางด้านหลังของเธอ ขบวนแห่นี้มีเสลี่ยงถูกหามมาด้วย โดยที่อยู่ด้านบนเป็นตัวประหลาดขนาดยักษ์ที่มีปากกว้างเท่าขนาดตัวและเปล่งเสียงพึมพำว่า “ฟากนู้น” อยู่ตลอดเวลา อีกส่วนที่น่ากลัวไม่แพ้กันก็คือสิ่งที่แบกเสลี่ยงมานั้นไม่ใช่คนแต่เป็นวิญญาณจำนวนมากเป็นผู้แบกมาแทน
อาซาโกะหันไปมองก็ถึงกับช็อกจนล้มลงไปนั่งกองกับพื้น นี่มันอะไรกัน ผี? ปีศาจ? อสุรกาย? ที่แน่ๆ สิ่งเหล่านี้ต้องไม่ใช่มนุษย์แน่นอน ทั้งที่เธอกลัวจนล้มนั่งแต่ก็ต้องพยายามฝืนความกลัว รวบรวมพละกำลังทั้งหมดลุกขึ้นยืนและรีบวิ่งหนีขบวนแห่ให้เร็วที่สุด
เธอกลับไปเจอร้านช้อนปลาทองและถามลุงเจ้าของร้านว่าเห็นเพื่อนที่มากับเธอบ้างหรือไม่ ไม่มีเสียงตอบสนองจากเจ้าของร้าน เขาได้แต่เพียงค่อยๆ หันหน้ากลับมา แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาได้หลายเป็นปลาทองตาถลนไปเสียแล้ว
อาซาโกะตกใจกับใบหน้าเจ้าของร้านช้อนปลาทอง จึงวิ่งต่อไปจนถึงร้านสายไหม เธอรีบถามคุณลุงคนขาย ที่น่าแปลกคือคุณลุงก็หันหลังให้ไม่ตอบเธอเช่นกัน เธอจึงชะโงกหน้าดู และเธอก็เห็นคุณลุงกำลังกินสายไหมด้วยลิ้นยาวเหยียดที่หมุนพันก้อนสายไหมทั้งก้อน อาซาโกะกรีดร้องด้วยความตกใจและรีบหนีไปทันที
“อาซาโกะๆๆๆ”
เสียงเรียกอาซาโกะดังมาจากด้านหลัง เมื่อเธอหันไปมองก็พบว่าเจ้าของเสียงนั้นคือมิกินั่นเอง เธอดีใจมากที่มิกิโผล่มาในที่สุด มิกิก็เช่นกัน มิกิบอกว่าในที่สุดก็หาอาซาโกะพบเสียที
มิกิคว้ามืออาซาโกะแล้วออกวิ่งทันที อาซาโกะเข้าใจว่ามิกิก็คงเจอเรื่องประหลาดเหมือนกับเธอมาเช่นกัน แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามิกิจะพาเธอหนีไปที่ไหน เพราะยิ่งวิ่งก็ยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ และเธอก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้ว
“มิกิ เธอจะพาฉันไปไหนกันแน่”
“ฟากนู้น…”
เสียงของมิกิกลายเป็นเสียงทุ้มต่ำลง และตอนนี้ใบหน้าของเธอก็กลายเป็นหน้ากากไปเสียแล้ว
ตอนนี้แสงไฟสีแดงในงานทั้งงานกลายเป็นสีเขียวจากโคมไฟที่ถูกแขวนกลับด้าน ดูเหมือนว่าตอนนี้ทั้งสองคนจะได้อยู่ในงานตลอดไปสมใจแล้ว แต่ไม่ใช่งานที่ฟากนี้ เป็นงานที่ฟากนู้นแทน…
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– สยองผีญี่ปุ่น : สัตว์สตาฟ
– สยองผีญี่ปุ่น : กฎของที่นี่
– สยองผีญี่ปุ่น : หนู
– สยองผีญี่ปุ่น : ป๋องแป๋ง
– สยองผีญี่ปุ่น : เอาคืนมา
ที่มา: Yami Shibai 3
#สยองผีญี่ปุ่น : ฟากนู้น