Essay : มุราคามิ ฮารุกิ : เพื่อที่จะมองเห็นความฝัน ผมจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทุกเช้า
ชื่อหัวข้อบทความวันนี้ เป็นชื่อของหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ มุราคามิ ฮารุกิ นักเขียนนวนิยายชื่อดังของญี่ปุ่น ผู้มีผลงานนวนิยายแปลเป็นภาษาไทยอยู่หลายเล่มพอสมควร
วันนี้จึงจะขอเขียนเกี่ยวกับมุราคามิสักหน่อย เริ่มต้นจากหัวข้อบทความวันนี้
1.
夢を見るために毎朝僕は目覚めるのです
ゆめをみるためにまいあさぼくはめさめるのです
[ยุเมะ โอะ มิรุทะเมะ ไมอะซะ โบะคุวะ เมะซะเมะรุโนะเดะสุ]เพื่อที่จะมองเห็นความฝัน ผมจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทุกเช้า
ประโยคนี้เป็นชื่อหนังสือที่รวบรวมบทสัมภาษณ์มุราคามิในช่วงปี 1997 – 2011
ในนวนิยายของมุราคามิมีการพูดถึงฉากที่ตัวละครฝันถึงอยู่เสมอ ถ้าหากผมจำไม่ผิด มุราคามิเคยให้สัมภาษณ์ว่า“ความฝัน” สำหรับเขานั้นเป็นบางสิ่งบางอย่างที่จิตใต้สำนึกพยายามจะบอกเล่าให้ตัวเราฟัง เขาไม่ได้มีความพยายามที่จะคิดวิเคราะห์ว่าทำไมคนเราถึงฝัน แต่ก็รับเอาความฝันนั้นไว้ทั้งหมด (as a whole)
โดยทั่วไปแล้ว มุราคามิ จะใช้สรรพนามแทนตนเองว่า “โบะคุ” (僕) ที่พอจะแปลเป็นไทยได้ว่า “ผม” ตัวละครในนวนิยายของมุราคามิ ก็มีการเรียนแทนตนเองว่า “ผม” อยู่หลายเรื่อง อาทิเช่นใน ไตรภาคมุสิก (สดับลมขับขาน etc..) , แดนฝันปลายขอบฟ้า, 1Q84
คำว่า “โบะคุ” หรือ “ผม” นั้นแสดงความรู้สึกของผู้ชายที่มีความรู้สึกถ่อมตน แต่ก็แฝงด้วยความรู้สึกแข็งแกร่งข้างในจิตใจ แต่นั้นก็อาจจะเพราะด้วยบริบทของนวนิยายในหลายๆเล่มของมุราคามิที่ให้ความรู้สึกแบบนั้น
“เพื่อที่จะมองเห็นความฝัน ผมจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทุกเช้า” ชื่อหนังสือและประโยคนี้ก็อาจแทนความรู้สึกของใครหลายๆคนที่ตื่นมาทุกเช้า เหมือนจะเป็นเรื่องที่ปรกติเหลือเกินในการรู้สึกตัวตื่นตอนเช้า แต่ทุกคนก็มองเห็นความฝันในยามที่เราหลับ และแม้นเราจะตื่นนอนขึ้นมาใช้ชีวิตประจำวันของเรา เราก็กำลังฝัน, มีความฝัน, มีเป้าหมายบางอย่างอยู่ด้วยก็ได้
ทีนี้ประโยคที่สองนั้น ผมอ่านคำคมของมุราคามิ แล้วตอนนี้รู้สึกสะกิดใจอยู่คำหนึ่ง คำๆ นั้นก็คือ
2.
過ちを進んで認める勇気さえあれば、だいたいの場合取りかえしはつく
あやまちをすすんでみとめるゆうきさえあれば、だいたいのばあいとりかえしはつく
[อะยะมิจิ โอะ สุสุนเดะ มิโตะเมะรุ ยูคิซะเอะอะเรบะ, ไดไต โนะ บะไอ โทะริคะเอะชิ วะ ซึคุ]หากว่า (เรา) มีความกล้าที่จะยอมรับผิด, โดยส่วนใหญ่แล้วก็พอที่จะแก้ไขได้
ประโยคนี้มาจากนวนิยายเรื่อง “คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ” (Kafka on the shore)
สาเหตุที่ผมเลือกประโยคนี้ขึ้นมา ก็อาจจะเพราะว่าตัวเราเองก็ทำผิดอยู่ทุกวัน
ถ้าหากว่าเรากล้าที่จะยอมรับผิด และ พยายามที่จะแก้ไขมัน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็อาจจะพอ Recover ได้
คำว่า 過ち [อะยะมะจิ] ที่แปลว่า ความผิดพลาด นี้ หากคนที่ไม่เคยผิดพลาด นั่นก็เพราะว่าเขาไม่เคยลงมือทำอะไรอันใดเลย
ส่วนประโยคท้ายสุดนี้ขอย้อนกลับมาพูดถึงความฝันกันอีกสักหน่อย
3.
ในบทสนทนาระหว่าง มุราคามิ กับ ฮะยะโอะ คะวะอิ นักจิตบำบัดคนสำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งมีหนังสือออกมาในเล่มที่มีชื่อเรื่องว่า “ฮารูกิ มูราคามิ ไปพบ ฮายาโอะ คาวาอิ” ได้มีคำพูดหนึ่งที่ มุราคามิ บอกว่า
「ぼくは夢というのもぜんぜん見ないのですが…」
“ผมไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่าความฝันเลย”
ซึ่ง คุณ ฮะยะโอะ ได้ตอบกลับมาว่า
“นั่นก็เพราะว่าคุณเขียนนวนิยายนะ. ทะนิคะวะ ชุนทาโร่ซัง (กวีและนักแปล) ก็เคยบอกกับผมว่า, แทบจะไม่เคยเห็นฝัน. ผมตอบกลับไปว่า, ก็แหงอยู่แล้ว, เพราะคุณเขียนบทกวีอยู่นะ. …โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คุณเขียนเรื่องเล่าอย่าง “บันทึกนกไขลาน” ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นมันอยู่คู่ขนานไปกับการเขียนเรื่องเล่า. ดังนั้นแล้วผมคิดว่ามันก็ไม่จำเป็นต้องเห็นฝันก็ได้. ขณะที่กำลังเขียนอยู่นั้นหากมองเห็นฝันเข้าไปอีกจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่”
4.
ท้ายที่สุดแล้ว
การมองเห็นความฝันในยามค่ำคืน หรือ ความฝันในชีวิตเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนเราก็ใช้คำว่า “ฝัน”
ในภาษาอังกฤษเราก็ใช้คำว่า “dream”
ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า “ฝัน” ใช้คำว่า 夢 [ยุเมะ] ゆめ
ไม่ว่าจะภาษาไหนก็ตาม พอพูดถึงความฝันแล้ว ก็เป็นสิ่งที่เราเห็นยามเราหลับใหล และก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะเห็นตอนที่เราตื่นนอนใช้ชีวิตเพื่อ “ฝันที่เป็นจริง”*
*หากใครทันดูรายการทีวีของคุณไตรภพก็คงจะนึกภาพรายการนั้นออก
+++
ทุกคนล้วนแล้วมีความฝันบางอย่าง การที่เรารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะมองเห็นความฝันนั้น
“เพื่อที่จะมองเห็นความฝัน ผมจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทุกเช้า”
ประโยคที่แลดูเหมือนไม่มีอะไรนี้ ใยถึงกินใจเหลือเกิน
ทักทายพูดคุยกับวสุ ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– ประเทศแมนจูของคนญี่ปุ่น ความหวัง และสิ้นสุดประเทศ
– กองทัพคันโต (9) : ประเทศแมนจูรัฐหุ่นเชิดของญี่ปุ่น
– กองทัพคันโต (8) : การก่อตั้งประเทศแมนจู
– กองทัพคันโต (7) : การทิ้งระเบิดเมืองจินโจว
– กองทัพคันโต (6) : สู่เมืองฮาร์บิน
อ้างอิง
– https://www.amazon.co.jp
– https://iyashitour.com
– https://www.nakajimajun.com
– https://unsplash.com
#Essay : มุราคามิ ฮารุกิ : เพื่อที่จะมองเห็นความฝัน ผมจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทุกเช้า