“ยากูซ่า” ในละครญี่ปุ่นของแท้ต้องเป็นแบบนี้!…ละครที่มีชื่อเสียงจากแดนปลาดิบอีกแนวหนึ่งก็คือพวกแนวยากูซ่าค่ะ ด้วยความสนุกสุดมันส์ของละครแนวนี้ เลยทำให้เป็นที่รู้จักและนิยมกันมาก เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ลักษณะของยากูซ่าในละครญี่ปุ่นแบบแท้ๆ นี่เป็นอย่างไร มาฟังกันค่ะ
ละครที่มีชื่อเสียงจากแดนปลาดิบอีกแนวหนึ่งก็คือพวกแนวยากูซ่าค่ะ ด้วยความสนุกสุดมันส์ของละครแนวนี้ เลยทำให้เป็นที่รู้จักและนิยมกันมาก จนเห็นละครแนวนี้ถูกมาปรับใช้ในละครไทย นิยายไทยอยู่อย่างบ่อยๆ เคล็ดลับความสนุกของละครแนวนี้ นอกจากพล็อตเรื่องแล้ว “ตัวละคร” ก็สำคัญมากๆ ค่ะ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า ลักษณะของยากูซ่าในละครญี่ปุ่นแบบของแท้นี่เป็นอย่างไร วันนี้จะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
มาทำความเข้าใจยากูซ่า VS แย้งกี้ กันก่อน
สำหรับคนที่เคยดูละครแนวนักเลง มาเฟีย ต่อสู้กัน อาจจะเห็นลักษณะของแก๊งพวกนี้อยู่ 2 แบบ คือ พวกนักเรียนนักเลง กับแก๊งมาเฟียใส่สูท ซึ่งจริงๆ แล้ว สิ่งที่เราเห็นทั้งหมดไม่ใช่ “ยากูซ่า” ทั้งหมดค่ะ พวกนักเรียน นักเลงที่ยกพวกตีกันอย่างเช่นในเรื่อง “Gokusen” “Zero Crow” หรือ “GTO” จะยังไม่ถึงขั้น “ยากูซ่า” แต่เป็นพวก “แยงกี้” อัธพาลครองเมืองค่ะ พวกนี้ก็จะมีแก๊งเป็นของตัวเองเช่นกัน แต่จะออกแนวหัวโจกวัยรุ่นหน่อย ชอบใส่ชุดขาวยาวๆ หัวทองๆ มีมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้มีเชื้อสายชาติตระกูลที่เป็นยากูซ่า แต่แค่อยากจะซ่าเฉยๆ ค่ะ แต่ทั้งละครแนวยากูซ่าและแยงกี้ต่างก็เป็นละครแนวยอดนิยมของญี่ปุ่นเช่นกัน
ลักษณะยากูซ่าในซีรีส์ญี่ปุ่นของแท้ต้องเป็นแบบนี้!
1. คนที่รับบทยากูซ่าต้องหล่อเข้ม โหดเหี้ยม น่าเกรงขาม
ขึ้นชื่อว่า “ยากูซ่า” คนที่จะมารับบทนี้ต้องมีความน่าเกรงขามให้สมกับการเป็นยากูซ่าจริงๆ ค่ะ ไม่ใช่เน้นหล่อ ขาว สะอาด ร่างกายอ้อนแอ้นแบบหัวหน้าแก๊งลูกแมว แต่ต้องเป็นผู้ชายที่ร่างกายกำยำ สูงสง่า หน้าตาเข้มๆ จะขาวหรือผิวสีก็ได้ แต่โดยรวมต้องดูน่าเกรงขาม มีความโหดในตัว เห็นแล้วต้องรู้สึกกลัว หัวหดค่ะ ให้สมกับเป็น “หัวหน้าแก๊ง” ที่สำคัญ “น้ำเสียง” ก็สำคัญค่ะ เวลาพูดน้ำเสียงต้องมีความดุดัน เย็นชาไปพร้อมๆ กัน พูดไม่มาก แต่ทรงพลังค่ะ
2. มีรอยสัก
ตามขนบของยากูซ่าค่ะ ไม่ว่าจะดูเรื่องไหน เราจะเห็นว่าพวกเขาจะมีรอยสักอยู่ที่ตัวเสมอ เป็นลวดลายต่างๆ ตามสัญลักษณ์ของแก๊งๆ นั้น เพื่อบ่งบอกถึงแก๊งที่สังกัด แสดงถึงความยิ่งใหญ่ และน่าเกรงขามด้วย
3. หญิงเพี๊ยบ แต่จริงๆ โสดนะจ๊ะ
ตามสไตล์การใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชาย (ยากูซ่า) เรื่องผู้หญิงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ให้ความสนใจ เวลาเราดูละครแนวๆ นี้ ภาพที่เห็นบ่อยๆ ก็คือ ฉากไปเที่ยวตามสถานบันเทิง มีผู้หญิงในร้านมาคอยบริการ มารายล้อม บางทีก็จะเป็นพวกผู้หญิงในกิจการ ในร้านที่ตัวเองรับผิดชอบก็มี เห็นหญิงถูกรายล้อมไปด้วยหญิงเพี๊ยบอย่างนี้ ก็ใช่ว่าพวกเขาจะตกลงปลงใจกับใครได้ง่ายๆ นะคะ อาจเป็นด้วยเรื่องรูปแบบชีวิตที่มีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีเวลามาโฟกัสที่ความรักใสใส หรืออ่อนไหวไปกับความรัก แต่มีภารกิจหลักที่ต้องรักษาความมั่นคง ความปลอดภัย และความเจริญก้าวหน้าให้กับกลุ่มแก๊งยากูซ่าของตัวเอง ที่สำคัญผู้หญิงผู้หญิงที่จะมาคู่ครองได้ต้องเสริมบารมี เกื้อกูลต่อกันด้วย
4. ศิลปะการต่อสู้เยี่ยมยอด
เป็นถึงระดับยากูซ่าที่ใครๆ ก็เกรงกลัว เพื่อที่จะยืดหยัดในวงการนี้ได้ ศิลปะการต่อสู้หรือการป้องกันตัวเองต้องดีเยี่ยมค่ะ ไม่มีมาห่วงหล่อห่วงอะไร เล่นจริง เจ็บจริง จัดไปเต็มที่ ให้สยบทุกความเคลื่อนไหว ประกาศศักดาความเป็นยากูซ่าให้เห็นกันไปเลย!
5. ต้องเดินมาเป็นกลุ่ม
เพื่อเสริมความยิ่งใหญ่ของแก๊งยากูซ่า เวลาเดินก็ต้องเท่ไว้ก่อน ให้สมกับมาดยากูซ่าหน่อย หัวหน้าแก๊งก็จะอยู่ตำแหน่ง “เซ็นเตอร์” (ออกแนวอารมณ์เซ็นเตอร์ของวงไอดอลยังไงยังงั้น) พร้อมด้วยท่าทางกร่างๆ ให้ดูน่ายำเกรงนิดนึง และที่สำคัญยากูซ่ามักจะไม่เปิดตัวแบบเดี่ยวๆ ค่ะ ต้องมีพวกด้วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงพรรคพวก กองกำลังที่มี ที่พร้อมจะสู้กับฝ่ายตรงข้าม ถ้าใครเข้ามา ที่แน่ๆ ต้องข้ามศพพวกข้าไปให้ครบก่อนนะเว้ยย ส่งเสริมพลังให้กับแก๊งยากูซ่านั้นดูน่ากลัวยิ่งขึ้นค่ะ
6. มีลูกสมุนผู้จงรักภักดี
แก๊งยากูซ่าทียิ่งใหญ่ต้องมีลูกสมุนจำนวนมากมาเสริมบารมี และต้องเป็นลูกสมุนที่มีความสามารถ ทำงานได้ดีค่ะ ต้องโหด เด็ดขาด เพื่อไม่ให้งานพลาด ถ้างานพลาดล่ะก็…จะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝันอย่างไม่รู้ลืม หรือบางทีอาจไม่เหลือชีวิตไว้ให้จดจำก็ได้ ฉะนั้น คนที่ก้าวขึ้นมาเป็นลูกสมุนได้ต้องมีความสามารถมากๆ และต้องได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าแก๊ง
เวลาเราดูละครแนวนี้สิ่ง หนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ฉากที่แสดงให้เห็นถึงจำนวนของลูกสมุนที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแก๊ง นั้น จนเราต้องรู้สึกขนลุกแบบนี้…
นอกจากลูกสมุนทั่วๆ ไปแล้ว ยากูซ่าต้องมีลูกสมุนคนสนิทด้วยค่ะ หรือ “ลูกสมุนมือขวา” นั่นเอง คนที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะทำอะไร และไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่เสมอ มีความจงรักภักดี ออกแนวตายแทนกันได้เลยค่ะ
7. ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายเสมอไป
หลายคนคงเคยรู้จักละครญี่ปุ่นเรื่องนี้กันดีค่ะ “Gokusen” เป็นละครญี่ปุ่นที่มีโอกาสได้เข้ามาฉายทางโทรทัศน์ไทยครบทุกภาค และเป็นเรื่องที่ทำให้คนไทยรู้จักละครแนวยากูซ่าของญี่ปุ่น สิ่งที่โดดเด่นในเรื่องนี้ก็คือ คนที่รับบทเป็น “ยากูซ่า” หรือผู้สืบทอดหัวหน้าแก๊งคนต่อไปเป็น “ผู้หญิง” ค่ะ ซึ่งตามปกติ ภาพลักษณ์ของยากูซ่า เราจะมองเป็นผู้ชายที่มีความแข็งแกร่ง แต่เรื่องนี้กลับนำเสนอในภาพที่กลับกัน เลือกที่จะให้ผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำแทน และที่สำคัญผู้หญิงคนนี้ก็มีความเข้มแข็งมากพอ มีศิลปะการต่อสู้ที่เยี่ยมยอดจนสามารถปกป้องเด็กนักเรียน รวมถึงลูกน้องในแก๊งตัวเองได้ เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่าผู้หญิงอย่างเราๆ ก็เข้มแข็งได้ และมีความสามารถเช่นกันนะ
ละครญี่ปุ่นที่ฝ่ายหญิงรับบทเป็นยากูซ่าอีกเรื่องที่อยากแนะนำก็คือเรื่อง “Ninkyo helper” รับบทโดย คุโรกิ เมอิสะ” สาวสวยในมาดเท่ เห็นออร่าของความเป็นยากูซ่ามาแต่ไกลเลยค่ะ ใครว่าผู้หญิงต้องอ่อนแอเสมอไป เราสามารถเป็นคนที่เข้มแข็ง พร้อมปกป้องคนอื่นได้เช่นกัน
8. เปิดเผยตัวตนไม่ได้
แม้ว่ายากูซ่าจะมีความยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม แต่ด้วยเนื้องาน สภาพสังคมในวงการยากูซ่า รวมถึงภาพลักษณ์ ทำให้ “ยากูซ่า” ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมได้อย่างตรงไปตรงมา และไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ในที่สาธารณะค่ะ เวลาไปใช้ชีวิตในสังคมปกติที่ไม่ใช่พวกในแวดวงยากูซ่าด้วยกันเอง ทำให้ยากูซ่าต้องคอยปกปิดตัวตนของตัวเองไว้เสมอ ฉะนั้น คุณสมบัติอีกข้อของตัวละครยากูซ่าในเรื่องก็คือต้อง “ปลอมตัวเก่ง” ค่ะ
เหมือนไอ้หมอนี่ นี่ปลอมตัวแล้ว ปลอมเป็นเด็กนักเรียนม.ปลาย แต่ด้วยวัยที่เกินไปไกล เลยทำให้กลายเป็นเด็กโข่งโดยปริยาย แต่ด้วยความเพี้ยน ความบ๊องของยากูซ่าคนนี้ เลยทำให้เพื่อนๆ เชื่อกันว่า คงเป็นแค่เด็กที่ร่างกายเติบโตเร็วกว่าคนอื่นก็ คงไม่มีพิษ ไม่มีภัยอะไรหรอก… ภาพนี้กำลังจะทำตัวกลมกลืนกับเพื่อนๆ แต่กลับโดดเด่นขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด (. . )
หรือจะเป็นครูสาวยากูซ่า ในมาดคุณครูก็จะเป็นสาวแว่น หน้าใสๆ ซื่อๆ เปิ่นๆ (แต่ด้วยจิตวิญญาณยากูซ่าก็ทำให้เผลอปล่อยความโหดออกมาบ้าง) ส่วนมาดยากูซ่าก็จะเป็นสาวสวยสุดมั่น ดุ เก่ง และแกร่ง ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่กลัวทั้งนั้น!
9. ยากูซ่าผู้ผดุงความยุติธรรม คนดีในคราบผู้ร้าย
ในสายตาของคนทั่วไปจะมองว่ายากูซ่าเป็นพวกนักเลงมาเฟีย โหดเหี้ยม มีอิทธิพลมาก น่ากลัว ชอบทำร้ายคนอื่น ไม่มีใครสู้ได้ ใครได้ลองไปหือกับยากูซ่ามีหวังถูกโยนลงอ่าวโตเกียว หรือถ้าลูกสมุนคนไหนทำงานพลาดก็อาจถูกลงโทษอย่างเบาะๆ ด้วยการ “ตัดนิ้ว” แลดูน่ากลัว โหดร้ายสุดๆ ไปเลยใช่ไหมละคะ แต่สำหรับในละครญี่ปุ่นแล้ว ภาพลักษณ์ของยากูซ่าจะเป็นอีกภาพหนึ่งค่ะ จะไม่ได้นำเสนอแค่มุมที่น่ากลัวของยากูซ่า แต่จะนำเสนอ “ด้านดี” ของยากูซ่าด้วย
เช่นเรื่อง “Ninkyo helper” เป็นเรื่องของพวก ที่สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าแก๊งต้องไปดูแลคนแก่ที่บ้านพักคนชรา คนชรากับยากูซ่า ดูเหมือนไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงอีกมุมมองหนึ่งของยากูซ่าได้ดีค่ะ
“Gokusen” ยากูซ่าสาวที่อยากเป็นครู แต่ด้วยสถานะของตัวเอง ทำให้ต้องปิดบังตัวตนที่เป็นยากูซ่าเอาไว้ เพื่อที่จะได้เป็น “ครู” ดูแลและสั่งสอนนักเรียนอย่างที่ฝัน
“My Boss My Hero” ยากูซ่าที่ปลอมตัวเป็นนักเรียนเพื่อไปเรียนรู้คำว่า “มิตรภาพ” ความจริงใจเป็นสิ่งคัญของความเป็นเพื่อน แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ก็คือ “ตัวตนที่แท้จริง” ของเขาเอง
หรือจะเป็นเรื่อง “Ouroboros” ยากูซ่าและตำรวจคู่หูที่จะมาตามล่าคนร้ายด้วยกัน โดยอาศัยข้อมูลของฝ่ายอธรรมและยุติธรรมในการสืบห้าข้อเท็จจริงและป้องกันสังคม
“เราต้องไต่เต้าขึ้นไปทั้งในวงการยากูซ่าและตำรวจ
ทั้งในที่สาธารณะและโลกใต้ดิน เพื่อจะไปให้ถึงตัวคนร้าย”
ออกแนวประมาณว่า บางทีกระบวนการแห่งความยุติธรรมไม่อาจทำการอะไรได้อย่างเสรี และมีบางสังคมที่ไม่สามารถเข้าไปถึง เพื่อที่จะเข้าให้ถึงทุกซอกทุกมุม เลยต้องอาศัยมือของ “ยากูซ่า” ด้วย แม้ตัวตนจะต่างกัน แต่มีอุดมการณ์และจุดหมายเดียวกันคือ ทำให้สังคมนี้สงบสุข
และนี่ก็คือลักษณะของ “ยากูซ่า” ในละครญี่ปุ่นค่ะ การจะทำละครแนวยากูซ่าที่ใครๆ ก็ติดใจสักเรื่องเนี่ย ต้องพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกตัวละคร ที่เอามาเล่น พอแสดงแล้ว คนดูต้องเชื่อว่าเป็นยากูซ่า
และแม้ว่ายากูซ่าจะมีภาพลักษณ์ที่โหดสักเพียงใด แต่ก็ยังไม่ถึงกับว่าเป็นสิ่งที่ห้ามเผยแพร่เรื่องราวยากูซ่าในละคร แต่กลับเลือกที่จะนำเสนอสู่สาธารณะในอีกมุมมองหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจในเรื่องราวพวกนี้ รวมถึงยากูซ่าเอง ถ้าได้ดูละคร…คาดว่า เขาเองก็อยากจะเป็นฮีโร่ทำดีเพื่อสังคมเช่นกัน ช่างเป็นการใช้ “ละคร” ในการขับเคลื่อนสังคมได้ดีจริงๆ เลยค่ะ
ตามติดบทความ ของ ChaMaNow ทั้งหมด คลิ๊ก >>> Sakura Dramas
ทักทายพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ที่ >>> Facebook Sakura Dramas