ในบทความนี้เราจะขอแนะนำวัดญี่ปุ่นยอดนิยม 5 แห่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวคัดสรรพิเศษจากบรรดาวัดทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ
เพื่อนๆ ทราบมั้ยคะว่าในญี่ปุ่นมีวัดทั้งหมดกี่แห่ง? คำตอบก็คือ 77,000 แห่งเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามีจำนวนมากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศญี่ปุ่นเสียอีก (ปี 2015)
และในบทความนี้เราจะขอแนะนำวัดญี่ปุ่นยอดนิยม 5 แห่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวคัดสรรพิเศษจากบรรดาวัดทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ
1.วัดโฮริวจิ (นารา)

วัดโฮริวจิในจังหวัดนาราเป็นวัดสถาปัตยกรรมไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งสร้างขึ้นที่นาราในปี 607 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCOครั้งแรกของญี่ปุ่นในปี 1993 ภายในสถาปัตยกรรมและพระพุทธรูปของวัดโฮริวจิมีสิ่งที่ถือเป็นสมบัติของชาติมากมาย เพียงแค่ยืนอยู่ภายในตัววัดโฮริวจิก็สามารถสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานแล้วล่ะค่ะ
วัดโฮริวจิโด่งดังจากการที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานเป็นจำนวนมาก คุเซะคันนง (รูปปั้นยืนของพระโพธิสัตว์กวนอิม) ซึ่งเป็นสมบัติของชาติไม่ได้เปิดให้เข้าชมได้ทั่วไป แต่ในฤดูใบไม้ผลิ (11 เมษายน – 18 พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (22 ตุลาคม – 23 พฤศจิกายน) ของทุกปีจะมีการเปิดให้เข้าไปสักการะบูชาเป็นโอกาสพิเศษ ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองแวะไปเยือนตามช่วงเวลากันดูนะคะ
และที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำหรับการท่องเที่ยว「โฮริวจิ I เซ็นเตอร์」ยังมีบริการฟรีไกด์ภาษาอังกฤษอีกด้วย ถ้าใครอยากทราบข้อมูลรายละเอียดของวัดโฮริวจิก็ขอแนะนำให้จองไว้ค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์หลัก
ที่อยู่ : 1-1 Horyuji Sannai, Ikaruga-cho, Ikoma-gun, Nara Prefecture
เบอร์โทรศัพท์ : 0745-75-2555
เว็บไซต์หลัก : http://www.horyuji.or.jp/
2.วัดเซ็นโซจิ / วัดอาซากุสะ (โตเกียว)

วัดเซ็นโซจิเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 628 ทั้งๆ ที่เป็นวัดใจกลางเมืองหลวง แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเอโดะ(ชื่อเรียกของโตเกียวในยุคซามูไร) ได้ง่ายๆ เลยจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศเลยล่ะค่ะ
แต่ละฤดูกาลก็จะมีการจัดงานเทศกาลมากมาย เช่น โฮสึคิอิจิ และ โทชิโนะอิจิ เป็นต้น สำหรับใครที่ไปก็ขอแนะนำให้เช็คข้อมูลงานเทศกาลให้ดีก่อนนะคะ
ผู้คนจำนวนมากมักจะมาตั้งกล้องถ่ายรูปกันตรงประตูฟูไรจิมมง (หรือเรียกกันว่า คามินาริมง) ที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าของวัดเซ็นโซจิซึ่งนับเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตเลยล่ะค่ะ ถนนตั้งแต่ประตูยาวไปจนถึงตัววัดจะเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมายและมีขนมขึ้นชื่อคือ「อาเกะมันจู」หรือมันจูทอดน้ำมันนั่นเอง
ที่อยู่ : 2-3-1 Asakusa, Taito-ku, Tokyo
เบอร์โทรศัพท์ : 03-3842-0181
เว็บไซต์หลัก : http://www.senso-ji.jp/
3.วัดโรคุอนจิ (เกียวโต)

วัดโรคุอนจิในเกียวโตสร้างขึ้นเมื่อปี 1397 โดยเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า วัดคิงคาคุจิ ตัวอาคารสีทองแสดงภาพลักษณ์ของดินแดนสุขาวดีน่าประทับใจมากๆ ค่ะ
สีทองนี้สร้างขึ้นโดยการแปะแผ่นทองคำจากบนรักจริงๆ
และภายในวัดโรคุอนจิก็มีบ่อน้ำ เคียวโคจิ ซึ่งสะท้อนภาพความงดงามของวัดคิงคาคุจิลงบนผิวน้ำควรค่าแก่การมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต
บริเวณรอบบ่อน้ำมีสวนสาธารณะพื้นที่กว้างกว่า 92,400 ตารางเมตรเหมาะแก่การเดินเล่นชมสวนสาธารณะอย่างสบายๆ ไม่รีบร้อนเลยล่ะค่ะ วัดโรคุอนจินี้โด่งดังเรื่องการให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปตามแต่ละฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งงดงามจากภาพที่ตัดกับใบไม้แดงและฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยกองหิมะขาวโพลน ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองไปชมในฤดูแนะนำกันให้ได้นะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!
ที่อยู่ : 1 Kinkakujicho, Kita-ku, Kyoto
เบอร์โทรศัพท์ : 075-461-0013
เว็บไซต์หลัก : http://www.shokoku-ji.jp/k_about.html
4.วัดโทไดจิ (นารา)

วัดโทไดจิเป็นสถานที่ประดิษฐานรูปปั้นนั่งของพระไวโรจนะพุทธะซึ่งเป็นองค์พระใหญ่ของนาราที่มีชื่อเสียง รูปปั้นนั่งของพระไวโรจนะพุทธะมีขนาดใหญ่มโหฬารด้วยความสูงถึง 14.98 เมตร ว่ากันว่าก่อสร้างตั้งแต่ปี 743 เป็นเวลา 9 ปีโดยใช้กำลังคนถึง 2 ล้าน 6 แสนคนเลยล่ะค่ะ
รูปปั้นนั่งของพระไวโรจนะพุทธะนี้โด่งดังในฐานะที่เป็นสิ่งก่อสร้างจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในเสาหนึ่งของวิหารที่ประดิษฐานองค์พระใหญ่มีช่องเปิดไว้ซึ่งเรียกว่า「ไดบุทสึโนะฮานะโนะอานะ(ช่องพระนาสิกขององค์พระใหญ่)」มีความเชื่อว่าใครที่ลอดผ่านไปได้จะโชคดีมีความสุข แต่ถ้าลอดไม่ได้ก็ห้ามฝืน เพราะว่าช่องมีขนาดเล็กจึงอาจเกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิตั้งอยู่ใกล้ๆ ให้เราได้เข้าไปชมสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าอย่างพระพุทธรูปด้วย สำหรับใครที่ได้ไปเยือนวัดโทไดจิก็อย่าลืมแวะชมพิพิธภัณฑ์กันด้วยนะคะ
ที่อยู่ : 406-1 Zoshicho, Nara, Nara Prefecture
เบอร์โทรศัพท์ : 0742-22-5511
เว็บไซต์หลัก : http://www.todaiji.or.jp/index.html
5.วัดจูซนจิ (อิวาเตะ)

วัดจูซนจิ จังหวัดอิวาเตะมีจูซนจิคนจิคิโด (วิหารสีทองวัดจูซนจิ) ซึ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ตัววิหารสีทองโด่งดังเรื่องการปิดทองซ้อนกันทั้งวัด ที่นี่มีสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่ามากมายมากกว่า 3,000 ชิ้นจนเรียกได้ว่าเป็น ขุมทรัพย์ของงานศิลปะ เลยทีเดียว
บริเวณโดยรอบวัดจูซนจิอุดมไปด้วยธรรมชาติมากมายให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการชมใบไม้แดงที่สวยงามในฤดูใบไม้ร่วงได้ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ติดกับ ยูเมะยากาตะ โอชูฟุจิวาระเรกิชิโมโนกาตาริ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของโอชูฟุจิวาระซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในตระกูลฟุจิวาระด้วยจึงขอแนะให้ใครที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นลองแวะไปชมกันนะคะ
ถ้านั่งรถไฟชินคันเซ็นโทโฮคุจากโตเกียวไปฮิโยริซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดจูซนจิ เราจะสามารถไปถึงฮิไรซุมิได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
ที่อยู่ : 202 Koromonoseki, Hiraizumi, Hiraizumi-cho, Nishi-Iwai-gun, Iwate Prefecture
เบอร์โทรศัพท์ : 0191-46-2211
เว็บไซต์หลัก : http://www.chusonji.or.jp/
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : MATCHA https://matcha-jp.com/th/เรื่องแนะนำ :
– ร้านซูชิบุฟเฟ่ต์ 3 ร้าน ไปกินซูชิให้อิ่มจุใจกันเลย!
– ศาลเจ้า”เสริมดวงความรัก” 5 แห่งในโตเกียว
– 【ปราสาทฮิเมจิ】เที่ยว 7 จุดชมประสาทสุดเจ๋ง
– สารานุกรมคำญี่ปุ่น..ระฆังคืนสิ้นปี [Joya no Kane]
– 【ฤดูหนาวญี่ปุ่น】สัมผัสประสบการณ์เทศกาลเดือนธันวา〜กุมภากันเถอะ