เมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ของทุกปีประเทศญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งที่ชื่อว่า “โอเซจิเรียวริ” ก็คือการทานอาหารมงคลเพื่อต้อนรับปีใหม่นั้นเองค่ะ
อีกไม่กี่วันก็จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่ กันแล้วนะคะ เป้าหมายที่พวกเราตั้งใจกันเมื่อตอนต้นปีสำเร็จไปแล้วกี่อย่างกันเอ่ย ? สำหรับคนที่ทำสำเร็จไอซึขอปรบมือให้เลยค่ะ ส่วนใครที่ยังทำไม่สำเร็จก็อย่าเพิ่งท้อถอยนะคะ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ ต้องสำเร็จและเป็นวันของพวกเราสักวันนึงอย่างแน่นอนเลยค่ะ ~
ในช่วงปีใหม่ที่กำลังจะถึงนี้ประเทศญี่ปุ่นก็เตรียมตัวเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกันอย่างครึกครื้นเลยนะคะ ซึ่งเมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ของทุกปีประเทศญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งที่ชื่อว่า “โอเซจิเรียวริ” (おせち料理) ก็คือการทานอาหารมงคลเพื่อต้อนรับปีใหม่นั้นเองค่ะ โอเซจิเรียวรินี้ถือเป็นสำรับอาหารที่เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ทุกบ้านต้องรับประทานเพื่อเสริมความเป็นมงคลให้กับตัวเองตั้งแต่วันแรกของปี ซึ่งสำรับอาหารมงคลนอกจากโอเซจิเรียวริแล้วก็ยังมี “โอโซนิ” หรือซุปมงคลต้อนรับปีใหม่อีกด้วยค่ะ ซึ่งรับรองว่าอร่อยล้ำไม่แพ้โอเซจิเรียวริเลยทีเดียว
โอเซิจิเรียวริคืออะไร?
โอเซจิ หรือ โอเซจิเรียวริ คือสำรับอาหารมงคลที่นิยมรับประทานกันช่วงปีใหม่ โดยจะนำมารับประทานกันในช่วงสามวันแรกของปีร่วมกับสมาชิกในครอบครัวนั้นเองค่ะ ซึ่งโอเซจิเรียวรินั้นจะประกอบไปด้วยอาหารหลากหลายชนิดรวมกันอยู่ในกล่องอาหารที่มีลักษณะคล้ายเบนโตะโดยจะวางซ้อนกัน 3-4 ชั้นคล้ายปิ่นโต ซึ่งสำรับแบบนี้มีชื่อว่า “จูบาโกะ” ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีอาหารมงคลที่แตกต่างกันไป โดยแต่ละชั้นก็จะมีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกันอีกด้วยค่ะ ซึ่งเรียงลำดับจากชั้นบนสุดไล่ลงไปดังนี้ 1. อิจิโนจู (一の重) 2. นิโนจู (二の重) 3. ซันโนจู (三の重) และ 4. โยะโนจู (四の重)
ต้นกำเนิดโอเซจิเรียวริ
โอเซจิ หรือ โอเซจิเรียวริมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยเฮอัน (ค.ศ. 794-1185) ในสมัยนั้นโอเซจิเรียวจิจะถูกทำขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าในช่วงเทศกาลปีใหม่และการเปลี่ยนผ่านฤดูกาล ซึ่งประเพณีนี้จะนิยมทำกันในหมู่ขุนนางและชนชั้นสูงเพียงเท่านั้น แต่หลังจากนั้นในยุคสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ธรรมเนียมนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ประชาชนคนทั่วไปและเริ่มแพร่หลายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาหารที่อยู่ในสำรับของโอเซจิเรียวริล้วนเป็นอาหารที่เก็บไว้ได้นาน และไม่ต้องใช้ฟืนไฟในการอุ่นหรือประกอบอาหาร เพราะผู้คนมีความเชื่อว่าไม่ควรใช้ฟืนไฟในช่วง 3 วันแรกของปี ซึ่งความเชื่อเหล่านี้มีที่มาด้วยกัน 2 แบบก็คือ
1. ไม่ต้องการให้เทพเจ้าต้องถูกรบกวนด้วยเสียงของการประกอบอาหารและควันฟืนซึ่งอาจจะทำให้เทพเจ้าโกรธและบันดาลโชคร้ายมาให้แก่ผู้คน
2. ในช่วง 3 วันแรกของปีทุกคนควรได้พักผ่อนและมีความสุขอย่างแท้จริง รวมถึงบรรดาแม่บ้านและหญิงสาวที่ไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาประกอบอาหารให้กับทุกคนในบ้านนั้นเองค่ะ
เมื่อไม่มีการใช้ฟืนไฟในการประกอบอาหารช่วง 3 วันแรกทำให้ชาวญี่ปุ่นจำเป็นต้องทำอาหารเตรียมเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะถึงวันขึ้นปีใหม่นั้นเองค่ะ ซึ่งประเภทของอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทต้ม เคี่ยว หมักดอง และตากแห้ง รวมไปถึงผลไม้ต่างๆ
ซึ่งในสมัยก่อนนั้นอาหารมงคลที่อยู่ในสำรับของโอเซจิเรียวรินั้นมีแต่อาหารที่มีความเรียบง่ายค่ะ อย่างเช่น ผักต้มในน้ำซอสถั่วเหลืองหรือน้ำส้มสายชู ปลาตากแห้ง และถั่วต้ม แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาหารที่อยู่ในสำรับโอเซจิเรียวริ ก็มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีความหมายและเสริมความเป็นสิริมงคลที่แตกต่างกันไป เรามาดูกันดีกว่าว่าอาหารแต่ละชนิดมีความหมายว่าอะไรกันบ้าง
- ถั่วดำ หรือ คุโรมาเมะ หมายถึง ให้มีสุขภาพแข็งแรงพร้อมสู้งานหนักที่กำลังจะมาถึง
- ไข่ปลาแฮริ่ง หรือ คาซุโนะโคะ หมายถึง มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง เป็นการพ้องเสียงในภาษาญี่ปุ่นคือ คาซุ (Kazu) หมายถึงตัวเลข โคะ (Ko) หมายถึงเด็กๆ และคำว่าปลาแฮริ่งในภาษาญี่ปุ่นคือ นิชชิน ซึ่งอักษรคันจิเขียนว่า 二親 มีความหมายว่า พ่อแม่สองคน
- ปลาซาร์ดีนต้มในซอสถั่วเหลือง หรือ ทัตสึคุริ หมายถึง การเก็บเกี่ยวจะได้ผลดี
- เค้กปลาหรือปลาบดนึ่ง โคฮาคุคามาโบโกะ มีลักษณะเป็นสีขาวแดง สื่อถึงความสงบสุข และปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้าย
- เกี๊ยวหวานทำจากเกาลัด หรือ คุริคินตง หมายถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย
- กุ้ง หรือ เอบิ หมายถึง การมีอายุยืนยาวจนหลังค่อมลงมาเหมือนกุ้ง
- รากบัว หมายถึง ชีวิตก้าวหน้า ไม่มีอุปสรรค เหมือนรากบัวที่มีรูเต็มไปหมด มองทะลุปรุโปร่ง ไม่มีทางตันไร้สิ่งกีดขวาง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของอาหารมงคลที่นิยมนำมาประกอบในสำรับโอเซจิเรียวริเท่านั้นนะคะ ยังมีอาหารอีกมากมายหลายประเภทเลยทีเดียว เพราะในทุกๆ ปีก็จะมีอาหารที่เป็นโอเซจิเรียวริชนิดใหม่ๆ เกิดขึ้อยู่เสมอเลยล่ะค่ะ รวมถึงโอเซจิเรียวริแปลกๆ ก็มีเกิดขึ้นมากมาย และถึงแม้ว่าในปัจจุบันผู้คนต่างเร่งรีบและคนยุคใหม่ก็เริ่มไม่ค่อยทำอาหารทานเองกันแล้วแต่เราก็ยังสามารถพบเจอสำรับอาหารมงคลอย่างโอเซจิเรียวริได้ตามร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ
อย่างไรก็ดีเทศกาลปีใหม่ก็ถือเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองและความสุข ไม่ว่าจะรับประทานอาหารแบบไหนจะเป็นโอเซจิเรียวริที่ทำเองหรือว่าซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ต การได้อยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาก็ถือว่าเป็นความสุขที่สุดแล้ว
เรื่องแนะนำ :
-คางามิโมจิ (Kagami Mochi)
-ขนมยัทสึฮาชิ (Yatsuhashi)
-4 เกมกระดาน การละเล่นโบราณของญี่ปุ่น
-Hobonichi Techo 2020 วางจำหน่ายแล้ว และเปิดตัวสมุดบันทึกแบบใหม่ Day-Free เมื่อ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
– เกมจับคู่และศิลปะบนเปลือกหอย ไคอะวาเซะ (Kai-awase)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
-https://www.tokyoweekender.com/2017/12/exploring-the-meaning-of-osechi-ryori-japans-traditional-new-year-food/
-https://www.justonecookbook.com/osechi-ryori-japanese-new-year-food/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Osechi