มีเมือง Kagoshima ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมบนคาบสมุทรซัตสึมะ หันสู่อ่าวคิงโค ห่างออกไปทางตะวันออก 4 ก.ม. เป็นเกาะ Sakurajima มีภูเขาไฟที่มีมีชื่อเสียงและยังคุกรุ่นอยู่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของจังหวัด
คะโกชิมะ (Kagoshima) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดบนภูมิภาคคิวชู หันสู่ทะเลทางคาบสมุทรซัตสึมะ และคาบสมุทรโอสุมิ
ทางเหนือ ติดต่อกับจังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto Prefecture)
ทางตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดมิยะซะคิ (Miyazaki Prefecture)
ทางตะวันตก หันสู่ทะเลเป็นหมู่เกาะโคชิคิจิมะ
ทางใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติคิริชิมะยะคุ รวมเกาะซะคุระจิมะ (Sakurajima) ที่อยู่ระหว่างคาบสมุทรซัตสึมะที่มีทะเลสาบอิเคดะ อันเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟไคมอน และคาบสมุทรโอสุมิถึงเกาะยะคุชิมะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
เมืองคะโกชิมะ (Kagoshima) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดนี้ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมบนคาบสมุทรซัตสึมะ หันสู่อ่าวคิงโค ห่างออกไปทางตะวันออก 4 ก.ม. เป็นเกาะซะคุระจิมะ มีภูเขาไฟมีชื่อที่สุดในโลกยังคุกรุ่นอยู่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่น เคยเกิดการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่เมื่อปี ค.ศ 1914 ทำให้เกิดการเชื่อมต่อกับคาบสมุทรโอสุมิ นอกจากนี้ยังมีชื่อด้านผลผลิตส้มแมนดารินเล็กจิ๋วที่สุดและหัวผักกาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
สถานที่น่าเที่ยวในเมืองมีดังต่อไปนี้
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคะโกะชิมะ อยู่ริมอ่าวคิงโค ที่จัดแสดงความมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเลในตู้กระจกขนาดใหญ่ที่มีปลาฉลามวาฬ และการแสดงให้เห็นถึงชีวิตของปลาโลมาอีกด้วย
เนินเขา Shiroyama อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 107 เมตร สามารถมองเห็นเกาะซะคุระจิมะได้จากบนเนิน และยังเคยเป็นสนามรบระหว่างซามูไรแคว้นซัตสึมะรุ่นสุดท้ายกับรัฐบาลเอโดะช่วงปฎิรูปการเมืองแล้วเปลี่ยนเป็นยุคเมจิ
นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสวน Sengan-en ที่หันสู่อ่าวคิงโค ในปี ค.ศ.1658 ถูกออกแบบสร้างเป็นบ้านพักของเจ้าเมืองตระกูลชิมิซุชื่อ Shimizu Mitsuhisa ภายในสวนถูกตกแต่งเป็นรูปแบบสวนจีนประดับตะเกียงแก๊สทำด้วยหินอันแรกของญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.1848 ได้รับการปรับปรุงขยายเป็นสวนชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งไม้ดอกอื่นๆ ตลอดปี ปัจจุบันเรียกชื่อว่าสวน Isotei-en ถูกจัดเป็นลานแสดงดอกไม้ไฟในเทศกาลฤดูร้อน และเป็นลานแสดงระบำโดยนักเต้นนับหมื่นในเทศกาลโอฮะระ (Ohara Festival)ในฤดูใบไม้ร่วง กลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับแสนคนได้สนุกกับเทศกาลในแต่ละปี เพลิดเพลินกับธรรมชาติและเรียนรู้ประวัติศาสตร์
การเดินทาง จากสถานี JR Kagoshima Chuo โดยสารรถบัสลงที่หน้าป้าย Isoteien Mae ใช้เวลา 35 นาทีแล้วเดินไปอีก 5 นาที
บริเวณใกล้สวนนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Shoko Shuseikan Museum เป็นที่จัดแสดงอาวุธ และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่น่าสนใจและทันสมัยแห่งยุคเมจิ ต้นศตวรรษที่17 อีกทั้งเครื่องแก้วที่เลื่องชื่อลือนามว่า Satsuma Kiriko
ทางใต้สุดของจังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟไคมอน (Mt.Kaimon) ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 925 เมตร เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นแห่งคาบสมุทรซัตสึมะ ได้อีกฉายาหนึ่งว่า Mt.Satsuma Fuji อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Kirishima Yaku National Park การปะทุของภูเขาไฟนี้ได้ทำให้พื้นที่ยุบเป็นแอ่งลึก 233 เมตร กว้าง 15 เมตร กลายเป็นทะเลสาบอิเคดะ (Ikeda Lake) ที่มีน้ำสีน้ำเงินอันใสสวยท่ามกลางดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิทุกปี ที่ชายหาดของทะเลสาบตลอดแนวยาวเป็นหาดทรายร้อนตามธรรมชาติที่หาได้ยากในโลก สามารถนำไปอบตัวได้ การอบทรายร้อน (Sunamushi) ช่วยการไหลเวียนของโลหิตที่มีผลดีต่อสุขภาพ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจึงนิยมไปอบทรายร้อนใกล้เมืองอิบุสุคิ (Ibusuki City) ที่หันสู่ทะเลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้บนคาบสมุทรซัตสึมะ ที่นี่ได้กลายเป็นเมืองตากอากาศลือชื่อที่มีทั้งแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ (Onsen) แบบดั้งเดิม และแหล่งอบทรายร้อนด้วย
การเดินทาง จากสถานี JR Kagoshima Chuo โดยสารรถไฟสาย JR Ibusuki Makurazaki ลงที่สถานี JR Ibusuki ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอิบุสุคิ มีแหล่งประวัติศาสตร์ที่เมืองจิรัน (Chiran Town) ยังอนุรักษ์ไว้เป็นกำแพงก่อด้วยหินบนถนนสายยาว 700 เมตร ที่เคยเป็นบ้านของซามุไร อายุเก่าแก่กว่า 260 ปี
ทางใต้ของเมืองเป็นแหลมนะงะซะคิบะนะ (Nagasakibana) เป็นที่ตั้งของสวนดอกไม้ (Flower Park) ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมพันธุ์ไม้ของคะโกชิมะและพืชเขตร้อน 400 ชนิด โดยเน้นความสวยงามแบบกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาลตลอดปี นอกจากนี้ยังมีการแสดงของนกฟลามิงโก้ด้วย
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองอิซุมิ ที่เคยเป็นหมู่บ้านซามูไรแห่งตระกูล Izumiในยุคเอโดะต้นศตวรรษที่ 17 ถูกก่อด้วยกำแพงหินอย่างหนาแน่นเพื่อป้องกันการรุกรานจากเมืองข้างเคียง บางส่วนยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งศึกษาและท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีศูนย์ชมนกกระเรียน (Crane Observation Center) ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมหรือศึกษาหมู่นกกระเรียนที่จะอพยพมาจากไซบีเรีย ทุกปีในฤดูใบไม้ร่วง
การเดินทาง จากสถานี JR Kagoshima Chuoโดยรถไฟด่วนพิเศษ Kyushu Shinkansen ลงที่สถานี Izumi ใช้เวลา 30 นาที
การเที่ยวเมืองคะโกชิมิเสมือนสวรรค์แดนใต้ของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจึงนิยมเยือนตลอดปี เยี่ยมชมธรรมชาติและแหล่งประวัติศาสตร์ ทั้งได้สัมผัสการอบทรายร้อน แช่น้ำแร่ธรรมชาติเพื่อสุขภาพอย่างผ่อนคลายสบายกายใจ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.kagoshima-kankou.com/for/
http://www.rishi-tea.com
http://www.visitjapan.jp.brv.ne.jp/app/webroot/eng/detail/C00635/
http://www.houseofjapan.com/gardens/senganen-garden
http://th.tripadvisor.com
http://www.flutrackers.com/forum/showthread.php?p=439312