The Darkest hours … จริงๆ ก็ไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องที่ดูทรมาน มึนๆ ทีมๆ ตั้งแต่ต้นปี แต่เห็นว่าหลายเดือนที่ผ่านมา มีคดีคนไทยฆ่าตัวตาย เพราะความเครียดจากที่ทำงานกันเยอะ ส่วนที่ญี่ปุ่น ไม่ต้องห่วง เขาเป็นขาประจำเรื่องนี้อยู่แล้ว.. เลยอยากจะบอกว่าหากคุณต้องทำงานที่ญี่ปุ่น หรือกับคนญี่ปุ่นจริงๆ ต้องห้ามคิดมากเรื่องนี้เด็ดขาด
“ผมเหลือเวลาอีก สองชั่วโมง… ผมยังเหลือโปรแกรมให้โค้ดอีก สองร้อยบรรทัด”
“สองร้อยบรรทัด ในหนี่งร้อยยี่สิบนาที นั่นหมายถึง 1.75 บรรทัดในหนึ่งนาที นั่นคือทุก 36 วินาทีผมต้องเขียนโค้ดให้ได้หนึ่งบรรทัด*”
“ผมใช้เวลาฉี่ไปแล้ว 47 วินาที นั่นคือเราช้าไปแล้ว 1.3 บรรทัด แถมตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องน้ำถ่ายหนักอยู่ เราช้าไปแล้ว 10 นาที ไม่สิ 11 นาที..”
นี่เป็นเรื่องจริง และเป็นสิ่งที่ผมคิดจริงๆ ในห้องน้ำ ในคืนวันที่ผมรู้สึก เหน็บหนาว ทุกข์และทรมานที่สุด ในวัยที่ทำงานบริษัทไอที ที่ญี่ปุ่น…
จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องที่ดูทรมาน มึนๆ ทีมๆ ตั้งแต่ต้นปี แต่เห็นว่าหลายเดือนที่ผ่านมา มีคดีคนไทยฆ่าตัวตาย เพราะความเครียดจากที่ทำงานกันเยอะ ส่วนที่ญี่ปุ่น ไม่ต้องห่วง เขาเป็นขาประจำเรื่องนี้อยู่แล้ว.. เลยอยากจะบอกว่าหากคุณต้องทำงานที่ญี่ปุ่น หรือกับคนญี่ปุ่นจริงๆ ต้องห้ามคิดมากเรื่องนี้เด็ดขาด
เรื่องด้านบนเริ่มจาก… ผมได้รับมอบหมายงานให้ช่วยทำโปรแกรม คิดคำนวณค่า commission เวลาเทรดหุ้นของบริษัท เนื้องานเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยความท้าทาย และป็นงานที่สร้างโอกาสให้แก่มนุษย์เงินเดือนเด็กใหม่มีฝันอย่างที่แท้ทรู
ถ้าไม่นับ แรงกดดันที่เขากดทั้งคุณภาพงานและไทม์ไลน์ที่บริษัทญี่ปุ่นแสนจะถนัดในการไล่บี้
ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในชาติที่ โคตรจริงจังกับเรื่องเวลา delivery งานมาก (ภาษาญี่ปุ่นก็คือ 納期 Nouki) เห็นง่ายๆ ว่าหากรถไฟไม่ตรงเวลาเพียงนาทีเดียว ต้องออกประกาศขอโทษผู้โดยสาร ดังนั้นไม่ต้องพูดถึง งานของเขาหากบอกลูกค้าแล้ว คำไหนคำนั้นแน่
ด้วยประการฉะนี้… เมื่อเราบอกเขาว่างานโปรแกรม ของเราแต่ละ module (เรียกว่า แต่ละส่วนละกัน) จะเสร็จเมื่อไหร่ หากทำไม่ได้… งานนี้มีเจ็บ !!
“หัวหน้าครับ โปรแกรมที่ผมทำ มันซับซ้อนกว่าที่คาด แถมผมป่วยไปวันนึง…. ผมขอส่งงานจากพุธ เป็นวันศุกร์นะครับ ขอโทษครับ” คำพูดของผมในวันที่ยังเป็นเด็กใสๆ ทำงานปีสองปีแรก ใครจะไปคิดว่านี่คือหายนะของผม
หัวหน้าปลด mask หน้ากากปิดปาก พร้อมกับเสียงที่เย็นกว่าหิมะฮอกไกโด “แต่เรามีนัด รายงานลูกค้าวันพฤกัสนี้ ผมอยากให้คุณสู้ตัวตาย (ยังจำได้ว่าเขาพูดว่า 死ぬ気でやってほしい Shinu ki de yatte hosii)”
เพราะหัวหน้าก็เหมือนบอกเป็นนัยว่า กูก็ป่วยยังแบกสังขารมาทำงาน รู้อยู่แล้วว่า การรักษาร่างกาย ไม่ให้ป่วย ให้ทำงานได้ตรงตามเป้าหมาย
นั่นคือหน้าที่ในงานของเราเช่นกัน ผมไม่มีทางเลือก…. นอกจากตอบว่า Hai !!
นั่นเป็นที่มาของความมืดที่เข้าครอบงำสมองผมไปหมด ทุกเวลา ทุกชั่วโมง ทุกนาทีที่ผมใช้ไป กับตัวงานที่เหลือ ระดับรายบรรทัด
อย่าว่าแต่พักไปกินข้าวกินน้ำซิลๆ เลย… ขนาดเข้าห้องน้ำยังรู้สึกผิดเลย หากหัวหน้าจะมาจี้ต่ออีกว่าเราทำงานไม่เสร็จ !?
เมื่อพายุฝนลูกแรกของการเขียนโค้ดโปรแกรมผ่านไป… อย่าคิดเชียวว่าเราจะเห็นรุ้งดั่งบนฟ้าหลังฝน…
คนญี่ปุ่น ไม่เคยปล่อยให้พนักงานเลิกพยายาม คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ความพยายามไม่มีขีดจำกัด อย่าไปพูดว่า พยายามดีที่สุดแล้ว ให้ฟังเชียว
“ส่วนเทสต์โปรแกรมจะเสร็จเมื่อไหร่” หัวหน้าถาม
“ภายในวันนี้แหล่ะครับ”
“ช่วยระบุให้ชัดกว่านี้หน่อย ขอเป็นระดับ ชั่วโมง”
“a few hours (ภาษาญี่ปุ่นคือพูดว่า suu ji kan – 数時間)” ผมชักเครียด
“ถามใหม่ สอง หรือ สาม ชั่วโมง” หัวหน้างานยังบี้ต่อ
“โอเค งั้นผมขอ 2 ชั่วโมงครึ่ง แล้วจะวางผลเทสต์ ใน share drive ตรวจได้เลยครับ”
“ผมขอ สองชั่วโมง” หัวหน้าต่อรองอีก
“HAI” (ผมตอบโดยในใจคิดว่า งั้นมึงไม่ต้องถามได้ไหมว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ จะบอกใช่ไหมว่า ต้องการผลภายในสองชั่วโมง… )
ที่เขียนมาทั้งหมด… ไม่ได้จะมาฟ้องหรือแสดงความเพี้ยน ความเข้มงวดจนดูเหมือนจะทำร้ายพนักงานเกินไป… แต่คืออยากจะบอกท่านผู้อ่านทุกท่านว่า เบื้องหลังคุณภาพงานของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ฮาร์ดแวร์ หรืออะไรก็ตาม ฉายา made in Japan ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากความจริงจัง และการรักษาเวลา อย่างยิ่งยวด
ไม่ได้บอกว่าแบบไหน สไตล์ไหน ดีเสียอย่างไร … แต่แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ ว่าเวลาคนญี่ปุ่นมันจะเอา… ขอให้เข้าใจเขาหน่อยละกันครับ
เรื่องแนะนำ :
– [Based on True Story] The Nengajo ขอบคุณที่โลกนี้ มี ส.ค.ส
– [光か、闇か : แสงสว่าง หรือความมืด] แล้วคุณจะรู้จักความมืดมากขึ้นจากที่ทำงานญี่ปุ่น
– [13++] แดนสนธยา 辞めさせる部門
– (18++ ++) ญี่ปุ่นสีแดง … Into the red area
– หนังสือญี่ปุ่นน่าอ่าน EP.2 คู่มือ ฆาตกรรม‼
ขอบคุณรูปภาพ : จาก หนัง Darkest hour https://www.dvdsreleasedates.com/movies/8245/darkest-hour