ตำจาก..Sugawara Michizane นักปราชญ์ผู้ใฝ่รู้ และขุนนางผู้ซื่อสัตย์ สู่การยกย่องให้เป็น..Tenjin “เทพแห่งปัญญา”
ช่วงเวลาแห่งการสอบเลื่อนชั้นและการสอบเข้าเรียนต่อแบบนี้ คงมีหลายคนนึกอยากจะบนบานศาลกล่าวขอให้สอบผ่าน หรือสอบเข้าได้กันทั้งนั้น…

ถ้าเป็นธรรมเนียมญี่ปุ่นละก็ ชั่วโมงนี้คงต้องไปที่ Tenmangu ศาลเจ้าชินโตซึ่งบูชาเทพเจ้าเทนจิน (天神) หรือเทพแห่งปัญญากันแล้ว เรื่องราวของเทพเจ้าเทนจินนั้นน่าสนใจทีเดียว
เดิมทีท่านเกิดในตระกูลขุนนางใหญ่เมื่อสมัยเฮอัน นามว่า Sugawara Michizane (ปีค.ศ.845 – 903) ตระกูลของท่านเป็นตระกูลนักปราชญ์ที่สนับสนุนด้านการศึกษาอย่างเต็มที่ ถึงขนาดเปิดคฤหาสถ์เป็นโรงเรียน ท่านจึงมีโอกาสในการศึกษามากกว่าคนอื่น แล้วท่านยังมีความเฉลียวฉลาดใส่ใจใฝ่รู้ สามารถสอบเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่ง และได้รับเกียรตินิยมสูงสุดซึ่งคนสมัยนั้นไม่เคยมีใครได้รับเกียรตินี้มาก่อน ภายหลังท่านได้เข้ารับราชการ รับใช้จักรพรรดิ์อุดะ [Emperor Uda] ด้วยความรอบรู้ ทำงานอย่างซื่อสัตย์ และทุ่มเท ท่านถึงถูกเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว และยังได้รับความวางใจให้ทำงานสำคัญต่างๆ มากมาย

ต่อมาจักรพรรดิ์อุดะสิ้นพระชนม์ ท่านก็ถูก Fujiwara Tokihira (จากตระกูลคู่อริ) ใส่ความว่าคิดก่อการกบฏ จักรพรรดิ์องค์ใหม่ หรือจักรพรรดิ์ไดโง [Emperor Daigo] ซึ่งนิยมชมชอบตระกูลฟุจิวาระอยู่แล้ว ก็สั่งลดตำแหน่งและเนรเทศท่าน ไปยังหัวเมืองห่างไกลบนเกาะคิวชู (ดาไซฟุ) ท่านเศร้าใจและน้อยใจที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ทั้งๆ ที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์และทุ่มเทมาตลอด จึงเชื่อกันว่าท่านท้อแท้สิ้นหวัง หมดอาลัยตายอยากจนตรอมใจ และเสียชีวิตลงในสองปีต่อมา ด้วยวัยเพียง 59 ปีเท่านั้น โดยที่ไม่มีโอกาสได้ไปเห็นเกียวโต เมืองหลวงและบ้านเกิดของท่านอีกเลย

แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านั้น…หลังจากที่ท่านเสียชีวิตลง เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก ท้องพระโรงถูกฟ้าผ่าอย่างรุนแรงจนขุนนางที่มาประชุมต้องติดอยู่ข้างใน และว่ากันว่า Fujiwara Tokihira ก็ถูกฟ้าผ่าตายในคราวนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีทั้งไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยแล้ง โรคระบาด และทายาทขององค์จักรพรรดิ์ก็เสียชีวิตตามๆ กันไป พอข่าวการเสียชีวิตของท่าน Michizane มาถึงเมืองหลวง ก็เชื่อกันว่าเป็นเพราะวิญญาณอาฆาตของท่าน จึงมีคำสั่งยกเลิกการเนรเทศและคืนตำแหน่งขุนนางใหญ่ให้กับท่าน เหตุอาเพศจึงค่อยๆ หมดไป
แล้วยังเล่ากันอีกว่า ในพิธีศพที่ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบเหงา มีเพียงผู้ติดตามของท่าน Yasuyaki Umasake และเพื่อนบ้านไม่กี่คนเท่านั้นมาร่วมพิธี ขณะที่วัวกำลังลากรถที่บรรทุกโลกศพของท่านไปตามทางนั้น จู่ๆ เจ้าวัวก็หยุดนิ่ง ไม่ว่า Umasake จะขู่จะปลอบยังไงมันก็ไม่ยอมเดิน ซึ่งเชื่อกันว่าท่าน Michizane ยังคงน้อยใจที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ จึงไม่อยากไปไหน ศพของท่านจึงถูกฝังไว้ตรงจุดที่วัวหยุดเดิน

ในปีถัดมาก็มีการสร้างศาลเจ้าให้กับท่านเหนือหลุมศพนั่นเอง และผู้คนก็ยกย่องให้เป็นเทพเจ้าเทนจินหรือเทพเจ้าแห่งปัญญา เพราะตอนมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นนักปราชญ์ที่ทุ่มเท ใฝ่เรียนใฝ่รู้ แม้จะตกยากก็ยังคงศึกษาหาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ ท่านมีงานเขียนด้านประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากมาย เก่งในเรื่องภาษาจีน และชำนาญการแต่งกวีแบบจีนอีกด้วย (สมัยนั้นญี่ปุ่นใช้จีนเป็นต้นแบบในหลายๆ ด้าน) นอกจากนี้ท่านยังมีจิตใจที่บริสุทธิ์และกระทำแต่สิ่งดีงาม
นอกจากนี้ยังมีตำนานเกี่ยวกับต้นบ๊วยซึ่งผูกพันธ์กับท่าน Michizane มาก กล่าวว่าเมื่อท่านเสียชีวิตลง มันก็ถอนรากตัวเองขึ้นมาและลอยจากบ้านเกิดที่เกียวโตมาฝังรากอยู่ที่บริเวณ หลุมศพของท่าน ต้นบ๊วยนี้จึงถูกเรียกว่า Tobiume หรือ Flying Plum Tree

สถานที่ฝังศพของท่าน ก็คือ ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu) ในปัจจุบัน ถือเป็นศาลเจ้าหลักประจำองค์เทพเจ้าเทนจิน ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาสักการะ ส่วนใหญ่ก็จะมาเพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จด้านการเรียน มาดูรูปปั้นวัวซึ่งกลายเป็นสัตว์พาหนะของเทพเทนจิน รวมถึงมาชมต้นบ๊วย Tobiume ที่อยู่ทางด้านขวาของอาคารศาลเจ้าหลัก (Honden) และน่าประหลาดมากที่ต้นบ๊วย Tobiume นี้มักจะเป็นบ๊วยต้นแรกที่เริ่มบาน (ต้นม.ค.) และอีกกว่า 6,000 ต้นที่มีอยู่ในศาลเจ้าแห่งนี้จึงจะทยอยกันบาน จนทำให้ที่นี่เป็นจุดชมดอกบ๊วยบานติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

นอกจากศาลเจ้าดาไซฟุแล้ว ยังมีศาลเจ้าที่บูชาเทพเจ้าเทนจิน (Tenmangu) กระจายอยู่ทั่วเกาะญี่ปุ่น ที่สำคัญก็มี Kitano Tenmangu ที่เกียวโต และ Osaka Tenmangu ที่โอซาก้า
ซึ่งเทนมังงุเกือบทุกแห่งก็มักจะปลูกต้นบ๊วยเอาไว้ และส่วนใหญ่ก็มักจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองประจำปี เพื่อระลึกถึงท่านเทพเทนจินด้วย

ช่างบังเอิญว่าช่วงที่ดอกบ้วยบาน มักจะเป็นช่วงประกาศผลสอบ (เดือนก.พ.) ทำให้เมื่อเห็นดอกบ๊วย ชาวญี่ปุ่นก็จะนึกถึงเทพเจ้าเทนจินและไปขอพรที่ศาลเจ้าของท่านเสมอ ใครจะสอบเอนทรานซ์หรือสอบเลื่อนชั้น ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่นก็ควรแวะไปขอพรที่ศาลเจ้าของท่านสักหน่อย แต่อย่าลืมว่าขอพรอย่างเดียวไม่พอแน่นอน ท่าน Sugawara Michizane นั้น ท่านตั้งใจศึกษาเล่าเรียนด้วย ถึงได้ถูกยกย่องให้เป็นเทพแห่งปัญญา ดังนั้นถ้าจะให้พรสัมฤทธิ์ผลก็ต้องช่วยตัวเองก่อน…อย่างพึ่งแต่พร เมื่อได้สมตามความปรารถนา ก็อย่าลืมกลับไปกราบขอบพระคุณท่านสักหน่อยก็แล้วกัน…
โชคดีในการเรียนกันถ้วนหน้า…สาธุ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : http://www.dazaifutenmangu.or.jp/home.htm
#Tenjin #เทพแห่งปัญญาของชาวญี่ปุ่น