อาทิตย์ก่อน มีท่านผู้อ่านท่านหนึ่ง ชื่อคุณ S. มาถามคำถามที่น่าสนใจมากๆ ในเฟสบุ๊คดิฉันว่า “โดยทั่วไปคนญี่ปุ่นอาบน้ำวันละกี่ครั้งคะ”
อาทิตย์ก่อน มีท่านผู้อ่านท่านหนึ่ง ชื่อคุณ S. มาถามคำถามที่น่าสนใจมากๆ ในเฟสบุ๊คดิฉันว่า “โดยทั่วไปคนญี่ปุ่นอาบน้ำวันละกี่ครั้งคะ”
เรื่องมีอยู่ว่าคุณ S พาเพื่อนคนญี่ปุ่นไปเที่ยวรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตอนเช้าก็นัดเพื่อนออกไปทานข้าวเช้ากัน คุณ S เผอิญตื่นเช้า ก็ทำนู่นทำนี่ และคอยสังเกตเสียงห้องข้างๆ ปรากฏว่าห้องเพื่อนเงียบมากกกก… แต่พอถึงเวลานัดหมาย เพื่อนคนญี่ปุ่นก็แต่งตัวเรียบร้อยมานั่งรอ คุณ S เลยสงสัยว่า คุณเพื่อนอาบน้ำหรือเปล่านะ…และเลยไปเป็นคำถามว่า คนญี่ปุ่นเขาอาบน้ำกันตอนเช้าหรือเปล่า (ช่างสังเกตมากๆ ค่ะ!)
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ดิฉันขอตอบคำถามคุณ S. พร้อมเล่าเรื่องการอาบน้ำของคนญี่ปุ่นไปด้วยกันเลยนะคะ
1. เวลาอาบน้ำ
ดิฉันได้อ่านหนังสือที่คนญี่ปุ่นเขียนเกี่ยวกับประเทศไทยและคนไทยหลายเล่มแล้ว หนึ่งในนิสัยคนไทยที่ผู้เขียนมักบรรยายถึงคือ “ความรักสะอาด” ค่ะ (หลายคนคงอุทานว่า “ไม่จริ๊ง! ประเทศเธอสะอาดกว่าตั้งเยอะ) อันนี้คนญี่ปุ่นเขาสังเกตว่าคนไทยสะอาด เพราะขยันเช็ดจานในร้านอาหารกันเหลือเกิน (555…) และชอบอาบน้ำบ่อยๆ คนไทยเราชอบอาบน้ำมาก อาบเช้าเย็น วันไหนร้อนมากๆ เหงื่อออกมากๆ ก็อาบน้ำตอนบ่ายๆ อีกรอบ ซึ่งคนญี่ปุ่นจะไม่อาบน้ำบ่อยขนาดนั้นค่ะ
ถ้าเป็นฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูหนาว ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นจะอาบน้ำวันละครั้ง ช่วงที่หนาวๆ หน่อย บางคนอาจอาบ 2-3 วันครั้งค่ะ สารภาพว่า ตอนดิฉันอยู่ญี่ปุ่น ก็อาบวันละครั้ง อาบแค่ตอนกลางคืน ส่วนฤดูหนาวก็….หึหึหึ ถ้างานยุ่งมากๆ ก็ 2 วันอาบที (เรทติ้งจะตกไหมนี่…) ก็เหงื่อมันไม่ออกนี่นา แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่า ตัวเองขี้เกียจอาบน้ำตอนเช้าตั้งแต่เมื่อไร อยู่ๆ ก็ไม่อาบไปเอง ก็ไม่รู้สินะ .. แบบว่า คนมันสามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในญี่ปุ่นได้เนียนและเร็วมากๆ
ส่วนหน้าร้อน อากาศที่ญี่ปุ่นก็ร้อนประมาณบ้านเรานี่แหละค่ะ แถมชื้นและอบอ้าวด้วย แต่เท่าที่สังเกต ดิฉันก็ไม่เห็นคนญี่ปุ่นอาบตอนเช้านะคะ ตอนไปพักที่บ้านโฮสท์แฟมิลี่ ทั้งบ้านมีดิฉันคนเดียวที่ตื่นมาอาบน้ำ คนอื่นแค่แปรงฟันล้างหน้าเอง เอาเป็นว่า เรื่องความถี่ในการอาบน้ำนั้น คนไทยชนะเลิศค่ะ
2. เวลาสระผม
เพื่อนๆสระผมตอนเช้าหรือตอนกลางคืนคะ? ดิฉันเป็นคนสระผมตอนเช้าเพราะหม่อมแม่บอกว่า ถ้าสระตอนกลางคืน ผมจะไม่แห้งดี พอไปนอน ทำให้เป็นเชื้อราได้ แต่คนญี่ปุ่นคิดกลับกันค่ะ เพื่อนคนญี่ปุ่นคนหนึ่งเคยบอกดิฉันว่า “สระผมตอนเช้าน่ะ ระวังหัวล้านนะ” เผอิญคุณเพื่อนไปดูรายการทีวี รายการเขาบอกว่า ช่วงตีสามถึงเก้าโมง เป็นช่วงที่ผมกำลังงอก หนังศีรษะอ่อนตัว ถ้าสระตอนนั้น ผมจะหลุดร่วงง่าย และแชมพูจะซึมเข้าไปในหนังศีรษะง่าย ทำให้ผมเส้นเล็กลง
เกตุวดีไม่ยอมแพ้ ยังไงฉันก็ยังอยากสระผมตอนเช้า เลยพยายามไปถามหาแนวร่วมจากเพื่อนคนญี่ปุ่นที่ไม่ได้ดูรายการนี้ หลายคนยืนยันว่าชอบสระตอนกลางคืน แต่เหตุผลก็มีต่างๆ นานา เช่น ตอนเช้า ต้องรีบออกจากบ้านไปทำงาน ไม่มีเวลาสระผม บางคนก็บอกว่า ปกติใช้สเปรย์กับเจลแต่งผม ถ้าไม่สระตอนกลางคืนจะรู้สึกเหนียวๆ หัว
ดิฉันคิดว่า ที่คนญี่ปุ่นไม่กลัวว่าสระผมตอนกลางคืนแล้วผมไม่แห้งเหมือนที่คนไทยกลัวนั้น เป็นเพราะว่า เวลาสระผมเสร็จ เขาตั้งอกตั้งใจเป่าผมให้แห้งกันจริงๆ คนประเทศนี้ ทำอะไรก็ตั้งอกตั้งใจค่ะ 555… อีกอย่าง ถ้าสระตอนเช้า เป่าผมไม่ดีแล้ววิ่งออกจากบ้าน อาจไปเจออากาศเย็นๆ ข้างนอก ทำให้เป็นหวัดได้ ยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ สภาพอากาศในบ้านเขาอาจไม่อำนวยกับการสระผมตอนเช้าจริงๆ มั้งคะ
3. จงใช้น้ำอุ่นสระผม
แม่สอนดิฉัน (อีกแล้ว) ว่า ห้ามใช้น้ำร้อนสระผมเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผมร่วง เกตุวดีเด็กดี (และหน้าตาดี) ก็ยึดถือปฏิบัติมาตลอดแม้จะไปอยู่ญี่ปุ่นก็ตาม ดิฉันจำได้ว่า ช่วงฤดูหนาวปีแรก อากาศหนาวมาก แต่ดิฉันก็ยังใช้น้ำเย็นราดหัว ราดไปก็จินตนาการไปว่า นี่คือน้ำร้อนหนอ นี่คือน้ำร้อนหนอ ไม่หนาวหนอ ร้อนหนอ ทนๆ ทำไป 2 อาทิตย์ก็ชักทนไม่ไหว เลยไปถามคุณป้าคนญี่ปุ่นที่สนิทกันว่า อากาศหนาวๆ อย่างนี้ คนญี่ปุ่นสระผมกันอย่างไร เกตุวดีใช้น้ำเย็น หนาวจนทนไม่ได้แล้ว
ป้าก็ยกมือทาบอกพร้อมอุทานตกใจว่า “สระผมด้วยน้ำเย็นได้ยังไง! เป็นหวัดหมด!!ผมร่วงหมด ไม่ได้นะคะหนู” อ้าว ทฤษฎีคุณป้าสวนทางกับแม่ดิฉัน คุณป้าบอกว่า คนญี่ปุ่นจะใช้น้ำอุ่นสระผม เพราะน้ำอุ่นจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและไขมันบนหนังศีรษะได้ดีกว่าน้ำเย็นๆ ป้าแนะนำว่า ใช้น้ำอุ่นสัก 32-35 องศาก็ได้ ถ้าไม่ร้อนจี๋ขนาด 39-40 องศาก็โอเค ขอบคุณป้าที่ช่วยชีวิตค่ะ
4. แปรงฟันหลังทานข้าว…..เช้า
ข้อ 1. ถึง 3. ที่เล่ามา เช่น ไม่อาบน้ำเอย ใช้น้ำอุ่นสระผมเอย ก็เป็นสิ่งที่ดิฉันยังพอรับและเอามาปรับกับชีวิตตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่เรื่องสุดท้ายนี้ รับไม่ได้มากๆ…เรื่องการทานข้าวเช้าเสร็จแล้วค่อยไปแปรงฟันค่ะ
ย้ำว่า ไม่ใช่คนญี่ปุ่นทุกคนที่ทำแบบนี้ แต่สังเกตเห็นบางคน ทั้งหญิงชายทำเหมือนกัน คือ ตื่นขึ้นมา ล้างหน้าล้างตาเสร็จก็มาทานข้าวเลย ทานเสร็จแล้วค่อยไปแปรงฟัน อันนี้เห็นกับตา ตอนสมัยมหาลัย ดิฉันไปเข้าค่ายซ้อมกีต้าร์กับเพื่อนๆในชมรม สมาชิกกว่า 15 ชีวิตพักบังกะโลหลังเดียวกันหมดเลย แต่แยกห้องหญิงชาย บังกะโลที่นี่ดีอย่างคือ มีโต๊ะทานข้าวอยู่ตรงกลาง เดินออกมาจากห้องปุ๊บก็มานั่งทานข้าวได้เลยค่ะ
เช้าวันนั้น อาหารเช้าเสิร์ฟ 8 โมง สาวๆ ก็ไปเคาะประตูปลุกพวกผู้ชาย ฮีทั้งหลายก็เดินสลึมสลือสโลเสลออกมาจากห้องในสภาพหัวยุ่งๆ เดินมานั่งที่โต๊ะแล้วก็….พุ้ยข้าวกินเลย!
ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งเข้าข้างหนุ่มๆ ว่า เฮ้ย … เค้าแอบไปล้างหน้าแปรงฟันกันก่อนแล้วเกตุวดีไม่เห็นหรือเปล่า โนโนโน้ววว…. ห้องน้ำมันไม่ได้อยู่ในห้อง และต้องเดินผ่านห้องครัวไป ดิฉันอยู่ห้องครัวตลอด และยืนยันได้ว่า หนุ่มๆ เหล่านี้ มิได้เฉียดกรายไปแถวห้องครัวเลย
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาไม่แสลงปากกันหรือ หรือเขาคิดว่า “หลังกินข้าวต้องแปรงฟัน” ก็เลยแปรงหลังมื้อเช้า โดยที่ไม่ได้แปรงก่อนทานข้าว…..โอ น่าคิด
หมายเหตุ: ภาพประกอบคราวนี้ มาจากความชอบส่วนตัวล้วนๆ ไม่ค่อยเกี่ยวกับบทความเท่าไรค่ะ โปรดให้อภัย
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura