คั่นรายการ โดย Lordofwar Nick
Siam Cup BJJ 2023 สักวันหนึ่ง ผมจะเป็น “ซาซากิ โคจิโร่” ให้ได้เลยนะ!!
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ในสัปดาห์นี้ ผมขอเขียน “คั่นรายการ” เป็นตอนสุดท้ายของปี 2023 นี้แล้วนะครับ ก็จะขอเล่าถึงประสบการณ์การ “ท่องยุทธภพ” ในคราวนี้กัน
ครับ ปีนี้ผมข้ามการลง AFG รอบเดือนตุลา แล้วมาแข่งสยามคัพแทน เนื่องจากค่าสมัคร Early Bird ถูกมาก (ฮา) และก็คงเป็นอีเวนต์สุดท้ายของปีนี้ โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมลง No-gi โดยได้รับฉันทานุมัติจากโค้ชแล้ว
และนี่เป็นครั้งแรกด้วยที่ลงแข่งในชื่อสังกัดใหม่คือ GFTeam Thailand อันเป็นการควบรวมทีมจากยิม CRT และ MFU (ม.แม่ฟ้าหลวง) เชียงราย กับทีมจากยิม Pure Grappling เชียงใหม่ลงแข่งในนามทีมเดียวกัน
ในการแข่งคราวนี้ผมมีเรื่องราวต่างๆ แบบ เฮ้ย เยอะมาก เริ่มจาก…
…ผมลดน้ำหนักไม่ลงครับ การที่ผมพักซ้อมไปนวด (ซ่อมคอ) ทำให้ผมน้ำหนักขึ้นเกิน 86 โล ซึ่งเสี่ยงต่อการชั่งน้ำหนัก ผมตัดสินใจรีดน้ำหนักด้วยการ ๑ พฤหัส ศุกร์ ซ้อมออกเหงื่อ (ขัดกับคำแนะนำทั่วไปที่ว่า ก่อนแข่งหนึ่งวันไม่ควรซ้อม) ๒ กินข้าวกินน้ำให้น้อยสุดเท่าที่จำเป็น ๓ กินไฟเบอร์ให้ถ่าย
ผมซ้อมวันพฤหัสที่ยิมผมเอง ศุกร์เดินทางมา กทม. เลยแวะไปซ้อมที่จิตติยิม ได้ออกเหงื่อสมใจ ได้พบปะพูดคุยกับครูเก่ง ได้ฟังเรื่องเกี่ยวกับทัศนคติและอื่นๆ ซึ่งก็ต้องขอขอบพระคุณครูเก่งมา ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ
พอถึงวันแข่ง ปรากฎว่า…การลดน้ำหนักได้ผลครับ ชั่งทั้งกิ 85.85 โล โอเคเลย (แสดงว่าน้ำหนักตัวเปล่าๆ อยู่ที่ราว 84) พอเดินกลับมาเปิดกระป๋องรูทเบียร์จะดื่มสักหลายๆ อึกฉลองชัยชนะซะหน่อยปรากฎว่า…
…มือถือหายครับ… (น่าจะหล่นในห้องน้ำตอนเปลี่ยนชุด)
ถามแม่บ้าน ไม่รู้เรื่อง เลยถามทีมผู้จัดงาน ให้ช่วยประกาศหาให้ มีคุณพี่คนนึงช่วยถึงขนาดหาตำแหน่งโทรศัพท์ให้ด้วย (แอนดรอยด์) แต่แล้ว ในที่สุดก็มีคนใจดีมาคืนให้ครับ ต้องขอบพระคุณคุณพี่ทีมงาน มากๆ นะครับ (เห็นว่าเป็นคนหางดง เป็นยูโดเก่าด้วย) ขอบพระคุณมากๆๆๆๆ (ไม้ยมกหลายๆ ตัว)
โอเค ได้มือถือแล้ว ดีใจมาก ก็เดินไปเดินมา วอร์มอัพ เวลาที่เหลือทำใจให้สงบ ฟังเพลงขลุ่ยอินเดีย (เพื่อสร้างสมาธิ) อีกหนึ่งชั่วโมงจะได้เวลาแข่ง ปรากฎว่า…
…มีเพื่อนในทีมบาดเจ็บครับ…
ได้รับบาดเจ็บที่คอ ต้องพาไปเอ็กซ์เรย์ที่ รพ. ผมก็ตามไปด้วย เพื่อไปช่วยเพื่อนในทีม ให้ข้อมูลเช่นชื่อ (พาสปอร์ต) อะไรต่างๆ เสร็จแล้วก็ติดรถฉุกเฉินกลับมา โอ เหลือเวลาอีก 15 นาที
เอ้า อาจารย์เดวิด คู่แข่งวันนี้ (ซึ่งต่อไปอาจจะเป็นคู่ที่เป็นตำนานสุด epic พอๆ กับมูซาชิกับโคจิโร่ ก็ได้นะ) มาแล้วครับ เห็นว่า เพิ่งลงเครื่องมาจากฟิลิปปินส์เลย
ผลการปะทะกันรอบนี้…แกบล็อกท่าทุ่มของผมได้ (เจ็บใจอ่า) แถมฮาฟการ์ดแตก โดนทับหน้าอกจนต้องขอแท็ป,,,จบ อ่ะ แล้วก็รีบๆ ไปขึ้นโพเดียมซะ (อ้าว)
ชุดสีน้ำเงินใส่แล้วดู ป้อมๆ คราวหน้ากลับไปใส่ชุดดำดีไหมเนี่ย (ฮา)
คราวนี้ก็มาถึงการแข่งโนกิ โนกิคราวนี้ก็รู้ว่าลำบาก เพราะต้องเจอกับสายม่วง (ในการแข่งโนกิ สายน้ำเงินกับสายม่วงแข่มรวมกันได้) รอบเซมิไฟนอลผมยืนระยะได้สามนาทีกว่าๆ ก่อนจะพลาดโดนสวีป สรุปแพ้คะแนนไป ส่วนรอบเหรียญทองแดง ผมเหนื่อยละ อีกฝ่ายที่เป็นสายม่วงก็ เหนื่อย พอกัน หลังจากยื้อกันสักระยะผมก็พลาดโดนทุ่ม พยายามรีคัฟเวอร์ฮาฟการ์ดแล้วทำบัตเตอร์ฟลายสวีป ปรากฎว่าพลาด โง่มากโดนพาสการ์ด เลย เหนื่อยละ พอเถอะ แท็ป แล้วก็มาถึงรอบเก็บตก (ไม่จำกัดน้ำหนัก) ปีนี้ก็คนน้อยเล่นกันเองสองคงผมกับอาจารย์เดวิด (อีกละ) หลังจากพยายามสวีฟจากฮาฟการ์ด พลาด โดนอาร์มบาร์ จบ แล้วเราก็รีบ ไปรับเหรียญกัน (อีกละ) ยังแซวกันอยู่ว่า เรานี่ น่าจะแข่งกันไปเรื่อยๆ ยันสายดำนะ (ฮา คือเรื่องของเรื่องนะ อายุเท่ากัน) แต่เชื่อว่าปีหน้าแกน่าจะขึ้นสายม่วงไปก่อน (ตอนนี้แกสี่แถบ ผมสองแถบ) ไม่เป็นไร ไม่เกินหนึ่งปี เดี๋ยวตามไป 5555
สำหรับผม เรื่องราววันนี้ที่เจอหลายอย่าง ทำให้คิดได้ว่า “การที่ได้แข่งนี่แหละ คือสิ่งที่ดีทึ่สุดละ” ผมถือว่าผมได้ใช้สิ่งที่ศึกษามาในโนกิคราวนี้ละ ถือว่าได้ทำได้อย่างที่คิดละ โค้ชก็ค่อนข้างมีท่าทีในเชิงบวก (คราวนี้มีโค้ชอดัมทีมเชียงรายมาช่วยดูให้แทนครับ)
แต่เรื่องราวของวันต่อมา สนุกกว่านี้อีกครับ จากที่ได้ข่าวมาว่าที่ยิม Drive Asoke วันอาทิตย์ 26 พ.ย. นี้ จะมีคลาส No-gi ซึ่งสเปเชียลกว่าปกติหน่อยเพราะจะสอนโดย ครูตอง OneShin จ้า งานนี้ผมก็เลยรีบไปแต่ไก่โห่ (ไม่ขนาดนั้น)
วิธีเดินทางที่เข้าใจง่ายสุดคือ ให้นั่ง MRT สายสีน้ำเงินลงสถานีอโศก แล้วเดินลอดใต้ตึก Interchange ไปโผล่ที่ ซ. สุขุมวิท 23 เดินตรงไป เจอแยกเลี้ยวขวา เดินไป เลี้ยวซ้าย ถึงแระ สถานที่ใหม่กว้างขวางสะดวกสบายมีที่จอดรถมีน้ำดื่มเครื่องดื่มขาย (เย้) ผมมาถึงก่อนแบบ ยังไม่มีใครมาเลย 555 วันนี้ก็มีคนมาลงชื่อเรียนก็พอสมควรครับ สำหรับผมวันนี้ครูตองก็มีดีเทลอะไรที่น่าสนใจสำหรับผมอยู่เยอะ (คือมีดูเหมือนธรรมดา เล็กน้อย แต่จริงๆ มันเป็นอะไรที่สร้างความแตกต่างได้ อ้อ บทเรียนวันนี้ ว่าด้วยการพาสการ์ดเมื่อติด knee shield ของอีกฝ่าย) ครูตองใจดีนะครับกันเองมากๆ ยอมผ่อนผันให้ผมเพราะเห็นว่าผมเพิ่งแข่งมา (ไม่งั้นโดนให้ดริลติดกัน 1 นาทีจับเวลาให้ทำไวๆ เดี๋ยวผมจะขาพับซะก่อน 555) ไหนๆ อุตส่าห์มาจากเชียงใหม่แล้วก็เลยขอโรลขำๆ หนึ่งนาที (เพราะประเดี๋ยวครูตองมีชั่วโมงสอน MMA ต่อ ปกติครูตองจะสอน MMA ที่นี่นะครับ ชั่วโมงโนกินี่ ถือว่า สเปเชี่ยล จริงๆ ครับ) ซึ่งหลังจากพยายาม sprawl และอะไรต่างๆ ชีวิตผมก็จบ โดนครูตอง D’Arce Choke เป็นที่ระลึกไปซะ (ฮา)
อ่ะ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อยครับ อิอิ
ครูตองบอกว่าแรงฮึดผมยังได้อยู่นะ ระดับความแข็งแรงประมาณคนอายุสามสิบกลางๆ (แข็งแรงเกินอายุ 46) แหมผมนี่ เขิล เลย 555
โอเค ก็ ขอฝากผลิตภัณฑ์นวม MMA แรชการ์ด กางเกงขาสั้น ยี่ห้อ Fighting Frenchie ด้วยนะฮะ และก็ฝากติดตามการต่อสู้ไฟท์ต่อไปของครูตอง ด้วยนะครับผม (อีกไม่นานเกินรอ)
อ่ะ วันแห่งการ “ท่องยุทธภพ” ก็สิ้นสุดแล้ว วันจันทร์ ผมไปเยี่ยมญาติมิตร ก็ถือเป็นการผ่อนคลายจิตใจ การได้พบปะผู้คน เป็นสิ่งที่ดีครับ
ถ้าถามว่าการเดินทางคราวนี้ ได้อะไร? ผมคิดว่า ผมได้รับแรงบันดาลใจ (inspiration) ครับ ผมรู้สึกว่า จากนี้ไป อนาคตของผมกับ BJJ ยังไปต่อได้ ไปต่อได้อย่างแน่นอน ใจผมยังได้ ร่างกายก็ยังไหว (และยังคิดเรื่องทำไงจะแข็งแรงขึ้นไปอีกด้วย) ก่อนหน้านี้ผมค่อนข้าง suffer กับอาการที่เชื่อว่าเป็น “วัยทอง” บางครั้งมันก็จิตตกนะเมื่อนึกว่าตัวเองกำลังจะแก่และหมดสมรรถภาพ
…แต่การได้มาแข่ง และมาซ้อมหลังแข่งคราวนี้…
ขอบอกว่า เหนื่อย เหนื่อยมาก แต่ก็รู้สึกว่า เออ โล่ง เหมือนเราได้ใส่จนสุด ปล่อยอะไรเท่าที่จะมีให้ปล่อยไปหมดละ แต่กลับกลายเป็นว่า ความเชื่อมั่นในตนเองมันก็กลับมาอีกครั้งจนได้
ผมได้แรงบันดาลใจก่อนการมาแข่ง จากการนั่งดู “มหาศึกคนชนเทพ” ในเน็ตฟลิกซ์ด้วยแหละ
ผมอยากจะฝึกไปเรื่อยๆ สู้ไปเรื่อยๆ แข่งไปเรื่อยๆ ต่อให้แพ้แล้วแพ้อีกแพ้แล้วแพ้อีก โดยที่ไม่เคยชนะใครเลย
เพราะผมตั้งเป้าไว้แล้ว ผมจะต้องเป็น “ผู้แพ้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์” ซาซากิ โคจิโร่ ให้ได้เลยนะ
พูดเสร็จแล้วก็ไปดื่มน้ำชา กินข้าวหน้าเป็ด ติ่มซำ ดีกว่า นะ (ร้านเป็ดย่างนาทอง อันนี้กินตอนสายๆ วันอาทิตย์ แบบ สโลว์ไลฟ์)
หรือจะชอกโกแลตมินต์ ร้าน “ช่างคั่ว” ข้างโรงแรมที่พักก็ดีนะ
แต่ที่ดีย์จริงๆ คือ ผมได้ voucher ได้เข้าเลาจน์ Red Carpet ของแอร์เอเชีย นี่แหละ ซึ่งได้นั่งพักๆ กินอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก่อนขึ้นเครื่องกลับเชียงใหม่
เวลคัมดริงค์ ครับ ก็กินเล็กๆ น้อยๆ แซนวิชชีส แซนวิชทูน่า ขนมจีนน้ำยาปู กุ้งผัดพริกเผา หมี่ซั่ว (อันนี้ เล็กๆ น้อยๆ นะ พยายามไม่ลงรูปเยอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นรีวิวอาหารแทน)
สุดท้ายนี้ อยากจะขอบคุณทุกคนและทุกสิ่ง ถึง ณ ตอนนี้ ดังนี้…
ขอบคุณเมียผมเอง ที่ลำบากไปเอาสายคาดเอว (งี่เง่าอะไรแบบนี้ เตรียมกิ เตรียมแรชการ์ด ขาสั้น แต่ ลืมสายเนี่ยนะ) จากบ้าน มาให้ผมที่สนามบิน ทันเวลาขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่ แบบว่า แทบจะขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้ายแล้วมั๊ง
ขอบคุณครูเก่ง (จิตติยิม) ที่ทำให้ผมได้คิดอะไรได้ (เพราะคิดไม่ออก เลยเลิกคิด พอเลิกคิด มันก็แวบเข้ามาในหัววันต่อมาเอง)
ขอบคุณคู่แข่งของผมทุกคน อาจารย์เดวิด และก็สายม่วงอีกสองคนที่เจอในโนกิ (โดยเฉพาะหนุ่มน้อยสายม่วง อายุ 19 จากรัสเซีย ลีลาที่เขาม้วนตัวเทคดาวน์ผมนั้นช่างสวยงามในความรู้สึกผม) ผมรู้ว่าทุกคนก็เหนื่อย ผมก็เหนื่อย ต่างคนต่างเหนื่อย แต่ก็ มาถึงจุดนี้ มันก็ต้อง ใจๆ กันหน่อย (อาจารย์เดวิดนี่ ใจๆ มากเลย ลงเครื่องจากฟิลิปปินส์แล้วมาลุยแบบใส่เต็มที่เนี่ย)
ขอบคุณครูตอง OneShin สำหรับบทเรียน “อะไรบางอย่างที่ดูเล็กน้อยแต่สร้างความแตกต่างได้” ผมคิดว่า จากนี้ไป จะพยายามมองและเก็บเกี่ยว “อะไรบางอย่างที่ดูเล็กน้อยแต่สร้างความแตกต่างได้” ให้มากๆ ขึ้นอีก นะครับ
ขอบคุณโค้ชและเพื่อนร่วมยิม Pure Grappling เชียงใหม่ สำหรับการเป็นคู่ซ้อมกันมาตลอด ไปจนถึงโค้ชอดัมและบรรดาชาวคณะทีมเชียงรายสำหรับอัธยาศัยอันดี
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณ “ตัวเอง” ครับ ที่ยัง “ยืนหยัด” อยู่ได้
ผมจะเป็น “History’s Greatest Loser” Sasaki Kojirō ให้จงได้ เผื่อวันนึง จะชนะ “เทพเจ้า” ได้บ้าง!
สัปดาห์หน้า พบกับ “บูชิโด” นำเสนอเป็นตอนแรก ครับพ้ม!! งั้นวันนี้ขอลาไปก่อนสวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– “ยอดยุทธ์วาตะ” การ์ตูนเชิดชูยูโดที่ดี แต่ไม่มีอะไรใหม่!?
– โคฮินาตะ มิโนรุ “คุณชายพันธุ์โชะ” กลับมาอ่านอีกที โคตรเกลียดเรื่องนี้เลยครับ!!– มาอ่าน ว่าด้วยเรื่องของ “มูซาชิ” ในการ์ตูนและเกม (เอาเท่าที่ผมรู้จัก)
– เกร็ดประวัติของ “มิยาโมโต้ มูซาชิ” แบบชีวิตจริงที่ไม่ใช่ฮีโร่ในนิยาย!?
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (89) คัมภีร์แห่งอากาส (ที่ว่าง)
#Siam Cup BJJ 2023 สักวันหนึ่ง ผมจะเป็น “ซาซากิ โคจิโร่” ให้ได้เลยนะ!!