เที่ยวเซนได…วันนี้ที่หมายแรกที่เราจะไปเก็บเกี่ยวความสุขกันก็คือ Matsushima Bay อ่าวมัตสึชิมะ สถานที่ติด 1 ใน 3 ที่ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น แถมยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 260 เกาะเรียงรายอยู่ในอ่าว
เรื่องและภาพโดย : The 21st Ronin www.marumura.com
ขอขอบคุณ : Nippon Travel Agency (NTA) ที่สนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้
หมดเวลาสนุกแล้วสิ! ….หมดเวลาสนุกแล้วสิ (T T) และแล้วก็ถึงวันที่เราจะอยู่เซนไดเป็นวันสุดท้าย แอบใจหายเหมือนกัน มันเหมือนกับเพิ่งผ่านมาเมื่อวานนี้เองที่เราเพิ่งมาถึงที่นี่ แต่ก็นะไม่มีงานเลี้ยงอะไรที่ไม่มีวันเลิกรา อย่ามัวแต่เศร้ามาร่วมกันเก็บความสุขในช่วงเวลาสุดท้ายที่มีอยู่กันดีกว่าค่ะ
ซึ่งวันนี้ที่หมายแรกที่เราจะไปเก็บเกี่ยวความสุขกันก็คือ Matsushima Bay อ่าวมัตสึชิมะ สถานที่ติด 1 ใน 3 ที่ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น แถมยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 260 เกาะเรียงรายอยู่ในอ่าว ซึ่งเราจะไปขึ้นเรือชมรอบอ่าวเพื่อชมรูปร่างต่างๆ ของเกาะเล็กเกาะน้อยเหล่านั้นอีกด้วย โดยเราใช้เวลาออกเดินทางไปยังอ่าวได้ไม่นานหลังจากทานมื้อเช้าที่โรงแรมเสร็จก็ถึง Matsushima Bay แล้วเย้
แต่เดี๋ยวก่อน? ก่อนไปขึ้นเรือ พวกเราได้ไปแวะชมวิวสวยๆ ที่ Kanrantei หรือ เรือนชาคันรันเทที่แต่ก่อนเป็นเรือนไม้เก่าแก่ถูกสร้างขึ้นโดย Toyotomi – Hideyoshi ที่มอบให้ Date Masamune ซึ่งต่อมาก็ถูกย้ายมาตั้งที่ Matsushima Bay เพื่อไว้รับรองผู้แทนโชกุน และไว้เป็นเรือนดื่มชาชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ ซึ่งคำว่า “Kanrantei แปลว่า สถานที่เพื่อชมระลอกคลื่นบนพื้นน้ำ และยังหมายถึงสถานที่เพื่อชมพระจันทร์” ได้ด้วยเช่นกันค่ะ





(รูปนี้มาจากพี่แมวโหด ขอบคุณค่ะ)

ซึ่งที่ Kanrantei นี้ไม่ได้มีไว้แค่นั่งจิบชาชมบรรยากาศสวยๆ ของอ่าวมัตสึชิมะเพียงอย่างเดียวนะค่ะ แต่ยังมี Matsushima Museum อีกด้วย ซึ่งขอบอกเลยว่า ถ้าเข้าไปใน Kanrantei แล้วไม่เดินสำรวจรอบๆ ก็ไม่รู้จริงๆ ว่ามีพิพิธภัณฑ์อยู่ เพราะมันอยู่ในหลืบมาก อ่ะไหนๆ ก็เล่าและขอเล่าให้หมดเลยละกัน เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อถึงเวลาผู้นำเที่ยวเรียกพวกเราทั้งหมดให้ออกเดินทางไปอีกที เราก็ตามหาพี่สาวที่มาด้วยกันว่าหายไปไหน ตะโกนเรียกก็แล้ว แต่เงียบ….
เราเริ่มใจคอไม่ดีเพราะทุกคนจะไปกันแล้ว พี่สาวไปไหนไม่มาอีก? ตัดสินใจเดินวนหาปรากฏไปเจอทางเข้าพิพิธภัณฑ์ เชื่อไหม! ขนลุกซู่เลยทันทีที่เห็น ข้างในมีแต่ชุดเกราะโบราณแบบเต็มยศตั้งอยู่ข้างในตู้กระจกใสวางเรียงกันอยู่ ราวกับนักรบญี่ปุ่นกำลังนั่งคุกเข่าจ้องมองเราอยู่
บรรยากาศรอบตัวเงียบนิ่งสนิท เราตัดสินใจเอาว่ะ! ตะโกนเรียกพี่สาวสุดเสียงอีก 3 ครั้ง…. ทุกอย่างเงียบเหมือนเดิม เราเดินเข้าไปใกล้ตู้มากขึ้นเพื่อดูชัดๆ แต่ก็ต้องถอยออกมา รู้สึกได้ถึงความน่าเกรงขามแบบบอกไม่ถูก (=_=) ง่าไม่ไหวขนลุกจริงๆ อ่ะ ขอมารอด้านนอกดีกว่า เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที พี่สาวก็ออกมาเจอด้านนอกตรงที่ทุกคนยืนรออยู่คนเดียว สรุปพี่สาวอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่เดียวกับที่เราเข้าไปตะโกนเรียกอย่างดัง แต่พี่สาวกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ถ้าคุณมีโอกาสลองเข้าไปดู แล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะว่ารู้สึกยังไงบ้างหึๆ มาดูที่ต่อไปกันดีกว่า




สามารถให้อาหารนกนางนวลที่ด้านนอกเรือได้ด้วย ‘คาลบี้ ข้าวเกรียบกุ้ง’ ปล.รสชาติแอบอร่อยนะเพราะชิมมาแล้ว 555
(รูปนี้พี่แมวโหดถ่ายให้เพราะ เรามัวแต่เพลินกับการให้อาหารนกนางนวล อิอิ)



วิวสวย บรรยากาศดี แต่ก็ใช่ว่าจะอุ่นนะ เห็นอย่างนี้อยากบอกว่า หนาวมากแถมยังมีลมอีกต่างหาก ปากนี้สั่นฟันกระทบกันเลยละ ซึ่งระหว่างที่ล่องเรือก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายลักษณะรูปร่างต่างๆ ของเกาะเล็กเกาะน้อยเป็นภาษาอังกฤษให้ฟัง โดยส่วนตัวเราชอบนะ แบบว่าเค้านึกถึงชาวต่างชาติที่ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องด้วย จากนั้นไม่นานเราก็มาเที่ยวกันต่อกันที่ Zuiganji Temple พวกเราเดินไปกันเพราะ ระยะทางไม่ไกลกันมากนักจากท่าเรือที่ขึ้น















Zuiganji Temple นั้นเป็นวัดที่ก่อสร้างโดย Date Masamune ตั้งแต่ปีค.ศ. 1604 เป็นวัดนิกายเซน และยังเป็นวัดประจำตระกูลดาเตะอีกด้วย ภายในมีอารามสงฆ์ที่สวยงาม ทั้งยังได้รับขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ที่สำคัญวัดซุยกันจินี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ Matsushima อีกด้วยค่ะ



มาเดินย่อยท้องกันที่ Mitsui Outlet Park Sendai Port และเราเพิ่งรู้ว่าบางร้านค้าของที่นี่เป็นร้านที่ถูกเปิดขึ้นครั้งแรกในญี่ปุ่น





















ซึ่งพวกเราไปทันช่วงเวลา Starlight wink ที่ดวงไฟจะดับพรึบพร้อมกันแล้วเปิดขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยที่จะมาชมกันเลยค่ะ



หน้าตาเจ้าของแก้วเบียร์ทั้ง 3 แบบ จากนั้นก็กลับโรงแรมหลับสบายเลย 555
(รูปนี้เอามาจากพี่จีระนันท์ ขอบคุณค่ะ)














กลับบ้านหลังน้อยพร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ลับขอบฟ้า โดยรวมแล้วทริปคราวนี้ประทับใจนะกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับ ถึงแม้จะมีบางอย่างที่ไม่ถูกใจ แต่ก็ไม่ทำให้เรามีความประทับใจในเมืองเซนไดและคนในเมืองน้อยลงไปเลย มันเป็นความน่ารัก ความเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ แต่จริงใจจากคนเหล่านั้น ที่มันสัมผัสได้จนทำให้หัวใจเราพองโตมีความสุขกับความรู้สึกนี้ และแน่นอนว่า ใครก็ตามที่อยากสัมผัสความสงบ ความสวยงามจากธรรมชาติ ความประทับใจเหล่านี้ เราขอแนะนำเลยว่า ให้ลองมาที่นี่ดู มันอาจจะไม่หวือหวาเหมือนที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น แต่รับรองว่า เซนไดจะเป็นอีกที่หนึ่งที่คุณจะประทับใจแบบหาที่ไหนไม่เลยค่ะ ^^
ขอขอบคุณอีกครั้งกับ Nippon Travel Agency (NTA) ที่สนับสนุนการเดินทางสุดประทับใจในครั้งนี้ และขอบคุณ Thai Airways ที่ถึงแม้จะไม่ได้สนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้ แต่เราก็รู้สึกดีใจที่ได้ขึ้นบินกับ การบินไทย รอบปฐมฤกษ์ในครั้งนี้ และรู้สึกภูมิใจค่ะ ที่การบริการของสายการบินไทยดีไม่แพ้ชาติใด
เรื่องและภาพโดย : The 21st Ronin www.marumura.com
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยวเซนได รอบปฐมฤกษ์ : ตอนที่ 1 ควันออกปากที่เซนได
– เที่ยวเซนได รอบปฐมฤกษ์ : ตอนที่ 2 น้ำลายสอที่อิวาเตะ
– เที่ยวเซนได รอบปฐมฤกษ์ : ตอนที่ 3 เด็ด….ที่ Hanamaki