จากการที่เกตุวดีไปเที่ยวหลายสิบออนเซ็น ก็เกิดข้อสงสัยต่างๆ นานา มีปริศนาที่ถามคนญี่ปุ่นแล้ว เขาก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ ให้คำตอบไม่ได้ วันนี้เลยลองมาเล่าให้ท่านผู้อ่านฟัง เผื่อใครมีไอเดียช่วยไขข้อข้องใจให้เกตุวดีได้ค่ะ
“ไปออนเซ็น”
…หรือการแช่น้ำแร่ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากทำสักครั้ง เพื่อใกล้ชิดวิถีชิวิตความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง คนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวเมืองไทยจะงงมากว่าทำไมเราใช้น้ำพุร้อนหรือบ่อน้ำร้อนเพียงแค่ต้มไข่ ไม่ค่อยลงไปแช่กัน การแช่น้ำในออนเซ็นเป็นหนึ่งในการรีแล็กซ์อย่างดีเยี่ยมสำหรับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ไปพักโรงแรม แช่ออนเซ็นให้สบายตัว แล้วก็ทานอาหารค่ำอร่อยๆ ของโรงแรม เพราะฉะนั้นแทบทุกเมืองจะมีออนเซ็นและเรียวกัง (โรงแรมแบบญี่ปุ่น) บริการค่ะ
จากการที่เกตุวดีไปเที่ยวหลายสิบออนเซ็น ก็เกิดข้อสงสัยต่างๆ นานา มีปริศนาที่ถามคนญี่ปุ่นแล้ว เขาก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ ให้คำตอบไม่ได้ วันนี้เลยลองมาเล่าให้ท่านผู้อ่านฟัง เผื่อใครมีไอเดียช่วยไขข้อข้องใจให้เกตุวดีได้ค่ะ
ปริศนาออนเซ็น
1. น้ำแร่ครอบจักรวาล
ไปออนเซ็นทุกที่ ก็จะมีป้ายเขียนไว้แบบนี้…

บอกว่า.. น้ำแร่ที่นี่มีแร่ธาตุอะไรบ้าง เรเดียม อิออนไฮโดรเจน แบเรียม อะไรก็ไม่รู้ เขียนๆ ไป คนญี่ปุ่นเอง อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะว่ามันคือแร่ธาตุอะไรและดียังไงบ้าง ทางโรงแรมก็รู้แกว เลยเขียนสรรพคุณบรรยายไว้บรรทัดถัดมา ซึ่งสรรพคุณจะเยอะมาก ไปมาหลายที่แล้ว ทุกที่เขียนคล้ายๆ กันหมดเลยค่ะ อารมณ์ประมาณนี้
“น้ำแร่ที่นี่ มีสรรพคุณทำให้ผิวสวย และรักษาโรคดังต่อไปนี้: โรคผิวหนัง โรคหิมะกัดเท้า โรคปวดข้อ อาการเมื่อยล้า ปวดหลัง ปวดขา ปวดไหล่ โรคนอนไม่หลับ โรคกระเพาะ”
อ่านมาคำสุดท้าย… “โรคกระเพาะ” รักษาไงหว่า ก็งง แล้วไปออนเซ็นบางที่ ติดป้ายโฆษณาว่ารักษา “ริดสีดวง” ได้ บางที่ก็บอกว่ารักษาโรค “เบาหวาน” ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางออนเซ็นไม่ได้แจ้งแต่อย่างใดว่า ต้องแช่เท่าไร แช่ท่าไหน คนเป็นริดสีดวง ควรตักน้ำแร่มาล้างก้นด้วยมั้ย ไม่มีคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น ทิ้งพวกเราไว้กับความหวังอันเลื่อนลอย มันหายได้จริงเหรอ?
2. ทั้งๆ ที่ร้อน …
สมัยมหาวิทยาลัย ช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ เพื่อนๆ ก็ไปเที่ยวที่ต่างๆ กับครอบครัวกัน เกตุวดีก็ถามเพื่อนคนหนึ่งว่า ปิดเทอมเป็นไง ไปเที่ยวไหนมา
หล่อนตอบด้วยสีหน้าระรื่นว่า
“ไปเที่ยวออนเซ็น 3 วัน 2 คืนแน่ะ”
“ไม่ร้อนเหรอ”
“ไม่หรอก น้ำร้อนกำลังดีเลย แช่แล้วสบ๊ายสบาย”
“ไม่ใช่… ที่ชั้นถามเนี่ย คือ ข้างนอก อากาศมันก็ร้อนจะตายอยู่แล้ว เธอยังจะไปนั่งแช่น้ำร้อนอีกเป็นชั่วโมงได้อีกเหรอ ไม่ร้อนหรือไง!”
อีคุณเพื่อนก็ทำหน้าเหลอหลาเหมือนเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยในชีวิต เธอยังคงไม่รู้คำตอบจนบัดนี้ ก็ได้แต่ตอบอ้อมแอ้มว่า ก็มันสบายตัวดี…
แช่น้ำร้อนฤดูหนาว เราเข้าใจ แต่ทำไมคนญี่ปุ่นยังชื่นชอบการแช่ออนเซ็นแม้ในหน้าร้อน หน้าร้อนญี่ปุ่นก็ร้อนเหมือนบ้านเรานี่แหละค่ะ ให้นึกถึงคุณเดินสยามทั้งวันตอนช่วงเดือนเมษา จากนั้นคุณก็เดินไปอาบน้ำฝักบัวจากเครื่องทำน้ำอุ่นที่ปรับอุณหภูมิสูงสุดแทน มันสบายตรงไหน? เดี๊ยนข้องใจ
3. ทั้งๆ ที่หนาว…
คนญี่ปุ่นชื่นชอบการแช่ออนเซ็น และที่ชื่นชอบกว่านั้นคือการแช่ออนเซ็นที่ตั้งอยู่ภายนอกอาคาร ออนเซ็นที่ดีหน่อย จะมีบ่อภายในอาคารกับภายนอกอาคาร ภายนอกอาคารเขาจะเรียกว่า โรเท็ม-บุโระ ค่ะ

โรเท็มบุโระบางแห่ง มองออกไปจะเห็นทะเล บางแห่งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและแมกไม้ มองไปก็จะเห็นต้นไม้ใหญ่ครึ้มเขียวขจี ซึ่งก็โรแมนติคดี แต่เกตุวดีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหน้าหนาว เราอุตส่าห์แช่น้ำให้ตัวอุ่นในบ่อในอาคาร แต่คนญี่ปุ่นก็ยังอุตส่าห์ลุกจากบ่อ เปิดประตูไปบ่อข้างนอก ระหว่างทางราวๆ 2 เมตรต้องเจอลมหนาวๆ พัดผ่านร่างกายอีก
ร้อยทั้งร้อย เดินไปก็เอามือกอดอกแล้วบ่น หนาวๆๆๆ พอลงไปแช่ในบ่อโรเท็มบุโระปุ๊บก็บอก “อ๊า…สบาย” หรือชนชาตินี้เป็นพวกมาโซ (ตรงข้ามกับพวกซาดิสม์)? ชอบเจออะไรที่มันทรมานกายก่อนแล้วถึงค่อยมีความสุข
ที่สำคัญคือ เวลาแช่ ตัวเราน่ะ อุ่นดีหรอก แต่ไหล่ คอ หน้าต้องทนกับความหนาวต่อไป มันสบายตัวแน่หรือ?
4. กิจกรรมหลังแช่น้ำ
หลังแช่ออนเซ็น ร่างกายจะผ่อนคลายเต็มที่ กิจกรรมหลักๆ หลังแช่ออนเซ็นที่คนญี่ปุ่นมักจะทำคือ
1) ขึ้นห้อง กินข้าวเย็น หรือนอนไปเลย | |
2) นอนที่เก้าอี้นวด | |
3) กินนมรสกาแฟ |
ข้อ 1) เกตุวดีไม่มีปัญหา เข้าใจ… เราแช่น้ำอุ่นสบายๆ แล้วก็อยากพักผ่อน ข้อ 2) เดี๊ยนก็โอเค แช่น้ำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายแล้วก็มานอนแผ่พุงตรงเก้าอี้นวด ให้นวดๆ หลัง ก็สบายดี แต่ข้อ 3) นี่สิคะ ทำไมต้องเป็นนม? และทำไมต้องเป็นรสกาแฟ? และทำไม้ทำไม ต้องอยู่ในขวดแก้ว? เดี๊ยนท้าว่า ถ้าเป็นออนเซ็นชื่อดัง มีระดับจริงๆ เขาขายนมขวด ไม่ได้เป็นนมกล่องค่ะ

เจ้านมรสกาแฟนี้ จะวางขายอยู่ตรงทางออกของออนเซ็น จริงๆ แล้ว เขาก็มีน้ำผลไม้ นมจืดขายด้วย แต่ 80% ของตู้จะเป็นไอ้นมกาแฟนี่ค่ะ เราแช่น้ำอุ่นนานๆ เหงื่อก็ออกเยอะ ย่อมหิวน้ำ อยากได้อะไรเย็นๆ ชื่นใจ ถ้าเป็นเมืองไทยเราคงอยากได้น้ำอัดลม แต่ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอัดนมแทนล่ะคะ?
5. สลิปเปอร์หรรษา
เวลาเราเข้าออนเซ็น เขาจะมีสลิปเปอร์ให้แขกทุกคนใส่ นัยว่าห้ามเดินเท้าเปล่า สลิปเปอร์ในโรงแรมญี่ปุ่นเป็นสิ่งเดียวที่เกตุวดีรู้สึกว่า มันไม่ดูเป็นญี่ปุ่นเอาเสียเลย ดีไซน์ล้าสมัย คล้ายรองเท้าแตะในจีนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ทีนี้ แขกทุกคนก็จะใส่รองเท้าหน้าตาแบบนี้ทุกคน เวลาเข้าออนเซ็นก็ต้องถอดออกก่อน ปัญหาคือขากลับ เราว่าเราอุตส่าห์ไปถอดไว้ตรงมุมๆ แล้ว ใครก็ไม่รู้ใส่รองเท้าเรากลับไปเฉย หรือพอแช่น้ำเสร็จ เดินออกมา จำไม่ได้ว่าชั้นใส่คู่ไหนมา ก็ใส่คู่ของคนอื่นมั่วๆ กลับไป

เคยถามเพื่อนว่า ประเทศที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงมากอย่างญี่ปุ่น ไม่รังเกียจที่จะใส่สลิปเปอร์ของใครก็ไม่รู้เหรอ เขาก็ทำหน้าแบบ… อืม จะว่าไป ชั้นก็ไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่ทำไงได้ล่ะ แล้วยักไหล่..
หรือนี่จะเป็นการแฝงปรัชญาอันลึกซึ้งของญี่ปุ่น ให้พวกเราละทิ้งอัตตา มองเห็นวัตถุเป็นเพียงสิ่งภายนอก ไม่ยึดมั่นถือมั่น… โอว ลึกซึ้ง…
ใครยังไม่เคยไปญี่ปุ่น หรือแช่ออนเซ็น ครั้งหน้าหากมีโอกาส ลองไปสังเกตดูนะคะ ไม่แน่.. คุณอาจพบเจอคำตอบที่จะไขข้อข้องใจของเกตุวดีก็ได้
สุดท้ายนี้ ขอจบด้วยบทสนทนากับรุ่นพี่ผู้ชายที่ไปเที่ยวออนเซ็นกันค่ะ
เกตุวดี: เป็นไงคะพี่ สบายตัวมั้ย
คุณพี่: โคตรร้อนเลยครับคุณน้อง พี่ทำอาหารเช้าได้เลย
เกตุวดี: หา? พี่จะทำอะไรนะคะ
คุณพี่: อาหารเช้าครับคุณน้อง ลงไปแช่ 3 นาที ไข่กับไส้กรอกก็สุกได้ที่แล้วครับ
เกตุวดี: …
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura