จังหวัดไซตะมะ (Saitama) ตั้งอยู่ใจกลางเขตภูมิภาคคันโต บนเกาะฮอนชู อยู่ทางทิศเหนือของโตเกียว เป็นจังหวัดที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ที่เมือง Konosu-shi มีแม่น้ำ Arakawa ที่กว้างใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นไหลผ่าน

จังหวัดไซตะมะ (Saitama) ตั้งอยู่ใจกลางเขตภูมิภาคคันโต บนเกาะฮอนชู อยู่ทางทิศเหนือของโตเกียว เป็นจังหวัดที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ที่เมือง Konosu-shi มีแม่น้ำ Arakawa ที่กว้างใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นไหลผ่าน แล้วยังมีธารน้ำใสอีกหลายแห่ง ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยยุคเอโดะ เคยเป็นแหล่งผลิตอาหาร ป้อนเข้าสู่เมืองหลวงเอโดะมาตลอด และในศตวรรษที่ 19 ก็เคยเป็นแหล่งผลิตเหรียญทองแดง ถือเป็นที่กำเนิดเงินตราแห่งแรกของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งแรกในญี่ปุ่นที่เมืองโตโคโรซะวะ

ปัจจุบันไซตามะมีเมืองหลักอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ชื่อเมือง Saitama New Urban Center เป็นทั้งศูนย์กลางของหน่วยราชการ ศูนย์กลางการค้า มีภัตตาคาร และหอแสดงศิลปวัฒนธรรม Saitama Super Arena ที่ทันสมัยใหญ่ที่สุดในโลก สามารถจุผู้ชมได้ตั้งแต่ 5,000 – 30,000 คน ความเจริญทุกด้านของไซตามะก็เสมือนกับที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของกรุงโตเกียว ทั้งด้านการค้า เศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ และ ศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ถูกสืบทอดมาในฐานะเมืองแห่งปราสาท
แหล่งท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ ในจังหวัดนี้มีทั้งปราสาท ศาลเจ้า วัด โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ และธรรมชาติอันสวยงามตามอุทยานแห่งชาติจิจิทะมะ และอื่นๆ ดังต่อไปนี้

เมือง Gyoda ตั้งอยู่ทางเหนือเป็นเมืองปราสาท Oshi Castle ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1490 ในเขตซะคิทะมะ มีสุสานโบราณ 9 แห่งที่ได้ถูกสร้างก่อนศตวรรษที่ 7 พื้นที่เป็นเนินกว้างใกล้ภูเขาMt.Shogunyama และ Mt.Marukayama ได้รับการพัฒนาเป็นเมืองประวัติศาสตร์ด้วย
การเดินทาง จากสถานี JR Ueno ใน Tokyo โดยสายรถไฟ JR Takasaki ลงที่สถานี JR Gyodo ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์สวนบัว (Kodaihasu no sato) ที่งดงามด้วยบึงบัวสีชมพูงดงามมาก
การเดินทาง โดยรถบัสจากสถานี JR Gyoda ไปที่พิพิธภัณฑ์สวนบัว ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น
พิพิธภัณฑ์สวนบัว (Kodaihasu no sato)
เมือง Iwatsuki ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือใจกลางที่ราบสูงคันโต ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยเอโดะ ไม่เพียงแต่เคยเป็นเมืองปราสาทเท่านั้น ยังเป็นชุมทางเชื่อมต่อกับเส้นทางทางเหนือไปยังเมืองนิกโก้ (Nikko Kaido) ปัจจุบันเป็นแหล่งผลิตตุ๊กตาญี่ปุ่นลือชื่อ เรียกว่า ตุ๊กตาฮินะ (Hino Ningyou) ที่ใช้ประดับในวันเด็กหญิง และตุ๊กตาเดือนห้า (Gogatsu Ningyou) ที่ใช้สำหรับวันเด็กชาย นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะอิวะจึคิ (Iwatsuki Kouen) ที่ได้ปลูกต้นซากุระ 700 ต้นไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้ได้เพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระบานสะพรั่งในทุกฤดูใบไม้ผลิ
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสายรถไฟ JR Keihin Tohoku ลงที่สถานี JR Omiya ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นต่อรถไฟสายเอกชน Tobu Noda ที่สถานี Omiya ไปลงที่สถานี Iwatsuki ใช้เวลา 15 นาที
แหล่งผลิตตุ๊กตาญี่ปุ่น
เมืองปราสาท KAWAGOE อยู่ทางภาคกลางของจังหวัด ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 มีเจ้าเมืองเอโดะ ได้สร้างระฆังเพื่อแจ้งเวลาเช้าเย็น สืบทอดมาถึง 4 ชั่วคน ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ อีกทั้งอาคารร้านค้าที่ได้รับการออกแบบก่อสร้างให้มีเอกลักษณ์แห่งเมืองหลวงเก่าเอโดะจนถึงศตวรรษที่ 19 แล้วก็ยังคงได้รับการอนุรักษ์อยู่จนถึงปัจจุบัน จึงได้รับฉายาเป็น เมืองเอโดะน้อย (Little Edo) ที่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับการชมเมืองประวัติศาสตร์ ที่ใจกลางเมืองมีถนนสายแรกชื่อ Ichibangai อยู่ในเขต Saiwai-Cho, Motomachi และ Nakamachi จัดเป็นย่านบ้านเรือนเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต มีบริการรถทัวร์สองชั้นพานักท่องเที่ยวนั่งชมเมือง และร้านค้าย้อนยุคในสมัยเอโดะด้วย

อีกย่านหนึ่งที่น่าสนใจ คือถนน Kashiya Yokocho ที่เต็มไปด้วยร้านค้าขายขนมญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปแวะซื้อขนม จากป้ายรถ Fudonotsuji เดินไปเพียง 5 นาที
นอกจากนี้ยังมีวัดคิตะอิน (Kita-in) ที่น่าแวะชมรูปปั้นพระอรหันต์ 500 รูป ภายในวัดโบราณนี้ด้วย
การเดินทาง จาก สถานี Ikebukuro ในโตเกียว โดยสายรถไฟเอกชนสาย Tobu Tojyo ลงที่ สถานี Kawagoe ใช้เวลา 40 นาที

เมืองจิจิบุ (Chichibu) อยู่ทางทิศตะวันตก ได้รับการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าเส้นทางสายไหมของญี่ปุ่น ทางเหนือของเมืองจิจิบุเป็นอุทยานแห่งชาติจิจิบุทะมะ มีแม่น้ำ Arakawa ที่กว้างใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นไหลผ่านโขดหิน เป็นเส้นทางล่องเรือชมธรรมชาติ ชมแก่งหินผางามๆ ที่นิยมกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
ในเมืองมี ศาลเจ้าจิจิบุ (ChiChibu Shrine) ที่ถูกสร้างโดยโชกุนโทกุกาวะ อิเอยะสึ ในปี ค.ศ. 1592.มีชื่อเสียงด้านงานแกะสลักลายมังกรสีสวยสด โดยช่างแกะสลักมีฉายาว่า “ซ้ายมือเดียว” (Hidare Jingoro)
อีกทั้งยังมี วัดเจ้าแม่กวนอิม 34 แห่ง ที่เป็น 1 ใน 100 เส้นทางแสวงบุญศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น จากวัดแรกShimabu Ji ถึงวัดสุดท้าย Suisen Ji จัดเป็นโบราณสถานที่โดดเด่นและทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม
การเดินทาง จากสถานี Ikebukuro โดยสายรถไฟเอกชน Seibu Chichibu ลงที่สถานี Seibu Chichibu ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ที่น่าเที่ยวสำหรับผู้รักธรรมชาติและดอกไม้ที่ถูกจัดแต่งเป็น ทุ่งดอกชิบะซะคุระ (Shibazakura / Pink Moss Hill) ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ เดือนพฤษภาคมทั้งเดือนต้องไม่พลาดชม สวนสาธารณะฮิจึหยิยะมะ (Hitsujiyama Park) ที่มีดอกชิบะซะคุระ 4 แสนต้นถูกนำมาปลูกประดับเสมือนปูเป็นพรมดอกไม้สีสวยงาม น่าแวะถ่ายรูปเป็นอย่างมาก
การเดินทาง ไปโดยรถไฟสายเอกชน Chichibu จากสถานี Chichibu ลงที่สถานี Ohanabatake ใช้เวลา 10 นาที แล้วเดินต่อไปที่สวน