ใครที่เป็นแฟนมารุมุระมานาน อาจจะคุ้นตากับชื่อนักเขียน Ronin – โรนิน โดยมีลำดับเลขต่างกันไป และถ้าเอ่ยถึงโรนิน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของ 47 โรนินอันเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์มุมหนึ่งของญี่ปุ่น
ใครที่เป็นแฟนมารุมุระมานาน อาจจะคุ้นตากับชื่อนักเขียน Ronin – โรนิน โดยมีลำดับเลขต่างกันไป และถ้าเอ่ยถึงโรนิน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของ 47 โรนินอันเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์มุมหนึ่งของญี่ปุ่น
ตำนาน 47 โรนิน เกิดขึ้นในสมัยเอโดะ
ภายใต้อำนาจการปกครองของรัฐบาลนักรบตระกูลโตกุงะวะ
ช่วงเวลาประมาณกรุงศรีอยุธยาของไทยเรา
เรื่องราวของ 47 โรนินถือเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี
ความภักดีที่สะท้อนผ่านการกระทำของโรนินหรือซามุไรผู้ไร้นาย
เสียชีพอย่าเสียเกียรติ ตามวิถีแห่งซามุไร
เหล่าซามุไรรุมสังหารคู่อริ
เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยเอโดะจะมีข้อห้ามการใช้ดาบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะภายในปราสาทของโชกุน ถือเป็นเขตหวงห้าม
คล้ายกับสถานที่สำคัญที่ห้ามพกพาอาวุธเข้าไปภายในอย่างที่หลายๆ ที่ในหลายประเทศก็ยังคงยึดถือปฏิบัติอยู่
แม้ว่าในสมัยเอโดะ เหล่าซามุไรจะสามารถพกดาบติดตัวเข้าไปในปราสาทได้ แต่ก็ห้ามชักดาบออกมาโดยเด็ดขาด
แต่แล้วไดเมียวอะซะโนะ นะงะโนริ ก็ถูกคู่อริพูดจายั่วยุ จนทนไม่ไหวเผลอชักดาบออกมา
และนั่นทำให้เขาถูกกล่าวหาและต้องรับโทษ
การรับโทษอย่างทรงเกียรติที่สุด นั่นคือการให้ผู้ต้องโทษฮาราคีรีตัวเอง
ซึ่งไดเมียวอะซะโนะ นะงะโนริก็ยอมทำตามโทษที่ตนต้องได้รับ
แล้วโรนินทั้ง 47 คนต้องทำอย่างไรต่อไปเล่า
ระหว่างการตายตามนายหรือการเปลี่ยนเจ้านาย
ซึ่งถือเป็นการเสียเกียรติตามวิถีแห่งซามุไร
สุดท้ายโรนินทั้ง 47 คนเลือกที่จะไม่ตายตามนาย แยกย้ายกันกลับไป
แต่นั่นเป็นไม่ใช่จุดจบของเรื่อง
เพราะมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นที่โรนินทั้ง 47 คน
เริ่มคิดแผนการแก้แค้นให้เจ้านายของตน
และเมื่อสบโอกาส ไดเมียวฝ่ายศัตรูที่เคยยั่วยุนายตนจนต้องฮาราคีรีตายก็ถูกเหล่าโรนินคณะนี้จับตัวมาบั่นหัวได้สำเร็จ
พวกเขานำศีรษะของศัตรูแห่ไปทั่ว ก่อนจะนำมาชำระล้างที่บ่อน้ำหน้าวัดเซนงะคุจิ และวางลงหน้าหลุมศพเจ้านาย
เพื่อประกาศความสำเร็จที่ได้ชำระแค้นให้สมเกียรติ สะท้อนภาพความจงรักภักดีต่อนาย
และการรักษาไว้ซึ่งเกียรติของตนจนวินาทีสุดท้าย
หลังจากนั้นพวกเขาก็มอบตัวแก่ทางการ
และกระทำฮาราคีรีตามวิถีแห่งซามุไรเช่นเดียวกับที่นายของตนได้เคยกระทำ
นับแต่นั้นมาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์
ทุกปีในช่วงกลางธันวาก็จะมีขบวนแห่รำลึกถึง 47 โรนินที่วัดเซนงะคุจิ เผื่อรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่าผู้กล้า
ขบวนแห่ในงานนี้ ทำให้ผู้เขียนนึกไปถึงฝั่งจีนก็มีเรื่องราวทำนองนี้เช่นกัน
ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนน่าจะคุ้นเคยพอสมควรกับคำว่า “เอ็งกอ”
ซึ่งเป็นขบวนแห่ที่แสดงเพื่อรำลึกถึงเหล่าผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซานเช่นกัน
สารคดีเอ็งกอโดยคนไทย
ผู้กล้าหรือวีรบุรุษแห่งเขาเหลียงซาน เป็น 1 ใน 4 สุดยอดวรรณกรรมจีน
เทียบเท่ากับสามก๊ก ไซอิ๋วและความฝันในหอแดง (หงโหลวเมิ่ง)
เนื้อเรื่องกล่าวถึงบรรดาผู้ที่ผิดหวังและถูกกลั่นแกล้งจากระบบการปกครองและขุนนางในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ
จนเกิดการรวมตัวกันของผู้ที่ไม่พอใจบนเขาเหลียงซานรวม 108 คน
ขบวนแห่เอ็งกอ
วรรณกรรมเรื่องนี้แต่งเติมขึ้นจากบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ชื่อว่า ซ่งเจียง ไทยเราเรียกว่า ซ้องกั๋ง
ตามสำเนียงจีนถิ่นและถูกใช้เป็นชื่อเรื่องแทนมาโดยตลอด โดยมีการแปลเรื่องนี้เป็นภาษาไทยในสมัยรัชกาลที่ 5
จุดจบของซ่งเจียงหรือซ้องกั๋งและพี่น้องเขาเหลียงซานก็ไม่ต่างจากโรนินทั้ง 47 คน
นั่นคือถูกราชสำนักประหาร เราจะเห็นได้ว่าทั้งสองกลุ่มคนมีความย้อนแย้งในตัว
คือกระทำการผิดกฎหมายแต่ก็ยอมรับผิดตามกฎหมาย
ฆ่าคนแล้วก็ยอมมอบตัว เพราะถือว่าคนที่ฆ่าเป็นภัยสังคม
แต่ตนเองก็ยังคงยอมกลับมาสวามิภักดิ์ต่อราชสำนัก
แต่ไม่ว่าคนเหล่านี้จะมีจุดจบเช่นไร ประวัติศาสตร์ก็สอนเราเสมอว่า ความภักดีกับความกตัญญู ยากที่จะทำให้สมบูรณ์ไปพร้อมกันได้ในบางบริบท กตัญญูต่อนายอาจไม่ภักดีต่อชาติ หรือถ้าภักดีต่อชาติ ก็อาจจะกลายเป็นคนอกตัญญูต่อนาย ความตายจึงอาจจะเป็นทางออกเดียวของเหล่าผู้กล้าที่จะสามารถแสดงให้เห็นถึงคุณธรรมสองสิ่งนี้ว่ายังมีครบถ้วนสมบูรณ์อยู่ในตัวของพวกเขาก็เป็นได้
ขบวนแห่รำลึก 47 โรนิน
เรื่องแนะนำ :
– ปีใหม่
– สามสหายในเหมันต์
– ขบวนการห้าสี
– โออิรัน โสเภณีแบบญี่ปุ่น
– เค็มและดี
ขอบคุณภาพและคลิปประกอบจาก:
-https://sbg-sword-forum.forums.net/thread/19734/hanwei-47-ronin-katana?page=1&scrollTo=317920
-https://zh.m.wikipedia.org/wiki/英歌
-Discover Kyoto
-สารคดี เอ็งกอย้อนยุคลูกเจ้าพ่อ เจ้าแม่ชุมแสง