วันนี้เราจะมาพูดถึงตัวเอกอย่างแป้งที่เป็นตัวสำคัญที่ทำให้หน้าเนียนสวย และแป้งที่เราอยากใช้เองกับตัวแล้วชอบเลยอยากบอกต่อให้สาวผู้อ่านที่น่าเลิฟรู้จักคือ Cezanne “Cezanne UV Foundation EX Plus”
ถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งหน้าสำหรับสาวๆ แน่นอนว่า ในบรรดาเครื่องสำอางทั้งหมดที่มีในคลังสมบัติของเรา (ต้องเรียกว่าคลังสมบัติย่อยๆ เลยล่ะ แหมเขารู้นะว่านางๆ ทั้งหลายมีเก็บไว้เพียบ)
…คงต้องยกให้ “แป้ง” เป็นตัวเอกในการแต่งหน้าอย่างแน่นอนก็แหมไหนจะปัญหานอนดึกเอย วันนั้นของเดือนเอย นี้! ยังไม่รวมอาการแพ้จากการชอบลองเครื่องสำอางตัวใหม่ ครีมประทินผิวอีกที่สาวบางคนอาจโชคร้ายใช้แล้วเกิดอาการแพ้อีกนะ จนต้องไปซบอกเครื่องสำอางช่วยกลบปกปิดร่องรอยของความโชคร้ายเหล่านั้น คราวนี้ก็ถึงเวลาตัวเอกอย่าง แป้ง ที่เป็นตัวช่วยให้หน้ากลับมาเนียนใสแบบว่า เกิดมาหน้านางก็เนียนแบบนี้มาแต่เกิดแล้ว! ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงตัวเอกอย่าง แป้ง ที่เป็นตัวสำคัญที่ทำให้หน้าเนียนสวย และแป้งที่เราอยากใช้เองกับตัวแล้วชอบเลยอยากบอกต่อให้สาวผู้อ่านที่น่าเลิฟรู้จักคือ Cezanne “Cezanne UV Foundation EX Plus”
ก่อนอื่นเพื่อความเข้าใจของใครหลายๆ คนที่ไม่รู้จักยี่ห้อ Cezanne เป็นแบรนด์เครื่องสำอางของญี่ปุ่นที่มีคอนเซปว่า สินค้าคุณภาพดีแต่หาซื้อใช้ได้ในราคาระดับที่ไม่แพงจนเกินไปคนทั่วไปสามารถจับต้องได้ (ถูกและดีว่างั้นเถอะ) รวมทั้งแพ็คเกจก็ออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายเน้นสะดวกในการใช้งานและที่สำคัญต้องปลอดภัยด้วยค่ะ
เอาล่ะ! เรามาดูที่ตัวแป้งกัน “Cezanne UV Foundation EX Plus” เป็นตัวแป้งที่ถูกปรับโฉมพัฒนาใหม่ให้ดีขึ้นดูง่ายๆ อย่างที่เปลี่ยนไปคือ ตลับแป้งที่เปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีเขียวอ่อน ตัวแป้งเป็นแป้งผสมรองพื้นเพิ่มการปกปิดแต่ก็ไม่ทำให้หนาจนเกินไปทาแป้งแล้วดูหน้าเป็นธรรมชาติ ส่วนผสมก็พัฒนาให้ดีขึ้นมีตัวควบคุมความมันไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำระหว่างวัน ผสมกันแดด SPF 23 แถมยังมี Super Hyaluronic Acid ที่ล็อคความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิวอีกด้วย

มาถึงคราวที่เรามาเป็นหนูทดลองให้กับผู้อ่านได้เห็นกันกับการใช้ “Cezanne UV Foundation EX Plus” ก่อนอื่นเราเป็นคนผิวขาวเหลืองและเป็นคนผิวผสมผิวมันบางจุดและแห้งบางจุด จากการสอบถามพนักงานเเละไปลองสีแป้งเองที่เคาน์เตอร์เราเลือกสี EX2 ก่อนอื่นขอบอกว่า ช่วงนี้เราหน้าเราเป็นสิวมีร่องรอยสงครามของสิวิวอาจจะไม่เนียนสักเท่าไหร่ซึ่งถ้าใช้แต่ตัวเเป้งอันนี้อาจจะปกปิดได้ไม่ดีเท่าไหร่นักถ้าไม่ลงคอนซีลเลอร์ในบางจุด แกะตลับออกมาอย่างแรกเลยที่เห็นเขาดีไซน์ตลับได้เรียบง่ายมากแบบไม่มีการลวดลายอะไร ส่วนหน้าเราก่อนลองใช้ก็ไม่ได้ลงคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นใดๆ มาดูสัมผัสที่ได้รับตอนใช้แป้งกันดีกว่า
1. แป้งเนื้อละเอียดดีให้ความรู้สึกไม่หนักหน้า ทาแป้งปุ้บติดหน้าไม่ต้องกดแป้งซ้ำๆทาครั้งเดียวก็ติดหน้าเลย
2. ปกปิดในระดับที่พอใจนะแม้ไม่ลงรองพื้นหรืออะไรเพิ่มเติม แต่ถ้าผิวหน้ามีปัญหามีร่องรอยของสงครามผิวแนะนำว่า ลงคอนซีลเลอร์ในบางจุดแล้วค่อยตามด้วยแป้งตัวนี้น่าจะดีกว่าแถมยังช่วยให้จุดที่เราปกปิดอยู่ได้นานขึ้น
3. ระหว่างวันควบคุมความมันได้ ในระดับปานกลางไม่ถึงขั้น 100% อาจมีแป้งหลุดร่อนความมันขึ้นหน้าบ้างแต่ไม่ถึงขั้นหน้าเยิ้มแป้งย้อย
4. ไม่แพ้ เราลองใช้มาเดือนกว่าแล้วไม่แพ้เลย เราเป็นคนแพ้ง่ายมากแต่ใช้ตัวนี้ก็ไม่มีเเพ้และที่สำคัญล้างออกง่ายไม่มีอุดตันจ๊ะ
5. อันนี้นอกเรื่องนิด ราคาของแป้งนี้พอใจสุดๆ เพราะ สัมผัสที่ได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ที่มีราคาหลักร้อยกว่าๆ เทียบได้พอๆ กับตัวแป้งแพงๆ หลักพันบางยี่ห้อเสียอีกสรุป “สวยแบบสบายกระเป๋า” 555+


หน้าเปล่าไม่ได้ลงปกปิดใดๆ

จากที่เห็นหน้าเราก่อนใช้และหลังใช้ผู้อ่านก็ลองตัดสินใจดูนะค่ะว่าแตกต่างกันขนาดไหนระหว่างก่อนทาหลังทา แต่โดยรวมเราประทับใจนะคุณภาพที่ได้มันมากกว่าราคาที่จ่าย สมกับสโลแกนที่ว่า “Always Safe Always Beautiful สวยและปลอดภัย” ถือว่า เป็นแบรนด์เครื่องสำอางญี่ปุ่นที่ทำผลิตภัณฑ์ออกมาได้ดีในราคาที่เหมาะสม เรียบง่ายเน้นการใช้งานและมุ่งเน้นที่ตัวผลิตภัณฑ์มากกว่าการดีไซน์
จากการรีวิวลองใช้ผลิตภัณฑ์มาในครั้งนี้ทำให้เราเชื่อนะว่า ของถูกและดี มีในโลกด้วยล่ะ ^^