สัปดาห์นี้ก็จะมาแนะนำละครญี่ปุ่นปี 2014 ที่น่าตามเก็บชมกันต่อค่ะ จะเป็นละครในครึ่งปีหลัง ช่วง Summer Season และ Autumn Season
สัปดาห์นี้ก็จะมาแนะนำละครญี่ปุ่นปี 2014 ที่น่าตามเก็บชมกันต่อค่ะ จะเป็นละครในครึ่งปีหลังช่วง Summer Season และ Autumn Season สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านภาคแรก สามารถตามไปอ่านได้ตามลิงก์นี้เลยค่ะ >>>https://www.marumura.com/entertainment/?id=6644
– Hero ภาค2
เป็นการกลับมาอีกครั้งของ “คุริว โคเฮ” อัยการหนุ่มผู้มากความสามารถ ที่มีลักษณะต่างจากอัยการทั่วๆ ไป ไม่ได้ใส่สูท ผูกไทด์ แต่งตัวเป๊ะให้ดูหล่อดูดี หรือเรียนจบมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่เขาสามารถเป็นอัยการได้ ด้วยการสอบอัยการผ่านมาโดยตรง อีกทั้งยังมีวิธีการทำงานที่ไม่เหมือนใคร มีคติประจำใจในการทำงานคือ “ต้องเห็นทุกอย่างด้วยตาของตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจ” และ “ไม่สำคัญว่าคดีนั้นต้องใหญ่หรือว่าเล็ก” ในภาคนี้อัยการคุริวได้ผู้ช่วยอัยการสาวไฟแรง “อะซากิ จิกะ” (คิตากาว่า เคย์) คู่หูคนใหม่ที่จะมาเรียกความสนุก และสีสันของภาคนี้
สิ่งที่น่าสนใจ
1. ดารานักแสดงที่ยังคงได้ “ทาคุยะ คิมูระ” มารับบทนำเป็นอัยการคุริวเช่นเดิม พร้อมกับตัวละครเก่าๆ ในภาคที่แล้วก็ยังตามมาอีกเพี๊ยบ บวกกับนักแสดงนำฝ่ายหญิงคนใหม่ “คิตากาว่า เคย์” ที่มาสร้างสีสันให้กับละครภาคนี้
2. ยังคงรักษาบรรยากาศเก่าๆ ของ HERO ไว้เป็นอย่างดีค่ะ ให้ความรู้สึกแบบว่าอัยการคุริวคนเดิมของเรากลับมาแล้วจริงๆ
3. คดีในแต่ละตอนยังมีความน่าสนใจพอสมควร มีข้อคิดต่างๆ แทรกไว้อีกด้วย
Tip : ใครที่คิดถึง HERO ในภาคแรก ภาคนี้จะทำให้คุณหายคิดถึงค่ะ!
คำคมละคร
นี่คือสิ่งที่คุณจะต้องจดจำไม่มีวันลืม”
– Kazokugari
ละครดาร์กๆ ประจำ Summer Season ที่น่าสนใจค่ะ ดูตอนแรกอาจดูเหมือนเป็นละครสืบสวนสอบสวนทั่วไป แต่ดูไปเรื่อยๆ จะพบว่า…นี่มันเป็นละครแนวครอบครัวที่น่าสนใจเลยทีเดียว ละครเรื่องนี้เปิดฉากมาด้วยเหตุฆาตกรรมฆ่ายกครัว พร้อมกับการมาของ “มามิฮาร่า โคกิ” นักจิตวิทยาเด็ก ผู้มีหน้าที่ช่วยเหลือเด็กที่เจอกับปัญหาครอบครัว แต่ตัวเธอเองก็กลับยังต้องตกอยู่ในครอบครัวที่กำลังมีปัญหาด้วยเช่นกัน และที่ยิ่งไปกว่านั้นเธอมีความพัวพันกับคดีฆ่ายกครัวแต่ละคดีด้วย แท้จริงแล้วเบื้องหลังเหตุฆาตกรรมฆ่ายกตัวคืออะไร ใครคือคนร้าย จะเป็น “มามิฮาร่า โคกิ” หรือคนในครอบครัวเอง หรือจะเป็นใครอีกคนที่ยังไม่มีใครรู้…
สิ่งที่น่าสนใจ
1. ใครชอบแนวสืบสวนสอบสวน หรือฆาตกรรมแบบจิตๆ เรื่องนี้ไม่ควรพลาด ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ขุดด้านมืดดำของมนุษย์ออกมาให้เห็นได้มากเลยทีเดียว แต่ขอเตือนว่าดูไประวังจิตตกนะคะ !
2. เป็นเรื่องที่ชวนให้เกิดความสงสัยตลอดเวลาค่ะว่า ใครคือคนร้ายตัวจริง “มามิฮาร่า โคกิ” นี่เธอเป็นคนดีหรือคนร้าย ถ้าคนร้ายเป็นคนในครอบครัว ทำไมถึงเกิดเหตุอันสะเทือนขวัญนี้ได้ ดูๆ ไป จะเต็มไปด้วยข้อสงสัย ที่ชวนให้เราอยากค้นหาคำตอบภายในเรื่องต่อไปค่ะ
3. เรื่องราวของครอบครัว เราอาจจะเคยดูละครญี่ปุ่นแนวครอบครัวที่ออกแนวดราม่า เสียน้ำตาหน่อย แต่เรื่องนี้มาแปลกค่ะ มากับเรื่องราวของฆาตกรรม พร้อมแทรกปัญหาครอบครัวลงไป บางทีเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็อาจเริ่มมาจาก “ครอบครัว” สถาบันเล็กๆ ที่ใกล้ชิดเรามากที่สุด แต่เรากลับให้ความสำคัญน้อยเกินไป
Tip : เป็นละครสืบสวนสอบสวนที่ชวนให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา ออกแนวจิตๆ หลอนๆ ดาร์กๆ อยู่พอตัว (โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) แต่ดูจบจะได้ข้อคิดกลับไปค่ะ
คำคมละคร
มันดูไม่งดงามเอาซะเลย”
ละครเรื่องอื่นๆ ใน Summer Season ที่น่าติดตามอีก : “Wakamonotachi 2014” ละครครอบครัวน้ำดีอีกเรื่องที่ถูกนำมาสร้างใหม่ ผ่านฝีมือการแสดงจากนักแสดงรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มากฝีมือของวงการละครญี่ปุ่น, “Hirugao” ละครที่สะท้อนเรื่องราวของชู้รักในหลายมุมมอง “ชู้รักเป็นตราบาป หรือแค่เป็นความรักที่เพิ่งพบเจอ”…
– Subete ga F ni Naru
ละครแนวสืบสวนสอบสวนเชิงวิทยาศาสตร์ที่มีพล็อตไม่ธรรมดา เป็นเรื่องราวของยอดอัจฉริยะ “ไซกาว่า โคเฮ”(อะยาโนะ โก) และ “นิชิโซโนะ โมเอะ” (ทาเคอิ เอมิ) ที่ต้องร่วมกันไขคดีอันแปลกประหลาด พร้อมกับเรื่องราวของดร.ชิกิ มากาตะ หญิงสาวยอดอัจฉริยะทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เรียนจบปริญญาเอกตั้งแต่อายุ 14 ปี แต่กลับก่อเหตุสะเทือนขวัญ ฆาตกรรมพ่อแม่ของตัวเอง หลังจากวันนั้น ทำให้เธอถูกขังอยู่ในศูนย์วิจัยในเกาะแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในชั้นใต้ดิน และถูกปิดตายเอาไว้ ไม่ให้ใครเข้าไปได้ ทั้งไซกาว่าและนิชิโซโนะต่างให้ความสนใจในตัวเธอ อยู่มาวันหนึ่งนิชิโซโนะได้เข้าไปพูดคุยกับเธอผ่านจอมอนิเตอร์ ก่อนจะลากัน ดร.ชิกิ ได้ทิ้งทายเอาไว้ว่า “เราจะพบเจอกันอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างกลายเป็น F” (Subete ga F ni Naru)
สิ่งที่น่าสนใจ
1. คดีฆาตกรรมที่น่าติดตาม มีความหักมุมตลบในตอนท้าย
2. เริ่มแรกอาจรู้สึกว่าคงเป็นละครสืบสวนทั่วไปที่จบในตอน (เรื่องนี้จบภายใน 2 ตอน) แต่ดูไปดูมาพบว่า คดีต่างๆ ที่จบไป มีความเกี่ยวข้องกันทั้งหมด
3. แม้จะเปิดเผยที่มาของคำว่า “Subete ga F ni Naru” ในตอนกลางๆ เรื่อง ดูเหมือนจะจบ แต่เรื่องราวปริศนาที่ว่ายังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้นหรอก! นั่นหมายความว่าเรื่องนี้ยังมีทีเด็ดให้น่าติดตามอีกเยอะ
Tip : ละครแนวสืบสวนที่มีพล็อตเรื่องน่าติดตาม คดีไขยากอยู่พอสมควรค่ะ (แต่บางตอนก็พอเดาคนร้ายได้ แต่จะเดาเหตุผลของการก่อเหตุได้ยากค่ะ) พร้อมกับนำเสนอเรื่องราวมุมมืดของมนุษย์
คำคมละคร
แต่ถ้าไม่มีหนทางจะทราบได้ชัด
เธอก็ไม่มีทางอื่นนอกจากเชื่อในสมมติฐานของตัวเอง”
– Kyou wa Kaisha Yasumimasu
มาที่ละครแนวหายากในญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ ละครรักกุ๊กกิ๊กอีกเรื่องที่น่าติดตาม เรื่องราวของเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับ “ฮานาเอะ อาโอชิ” (ฮารุกะ อายาเสะ) หญิงสาวที่ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักเลย แม้อายุจะปาเข้าไปถึงเลขสามแล้วก็ตาม ชีวิตที่ผ่านมา เธอมัวแต่งุ่นอยู่กับงาน ตั้งใจทำงานมาก แม้แต่จะลาหยุดก็ยังไม่เคยลาเลยสักครั้ง พออายุมากเข้า เธอก็เริ่มกังวลถึงเรื่องนี้ แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งเธอได้มาพบเจอกับ เด็กฝึกงานหนุ่มรูปหล่อ “ยูโตะ ทาโนะคุระ” (โซตะ ฟุกุชิ) ที่ได้เข้ามาในชีวิตของเธอ เธอได้มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเด็กหนุ่มในวันเกิด วันที่เธออายุครบ 30 ปีพอดี และในขณะเดียวกันชายหนุ่มอายุมากกว่า โปรไฟล์ดีอย่าง “ยู อาซาโอะ” (ฮิโรชิ ทามากิ) ก็หันมาให้ความสนใจในความเรียบง่ายและแปลกประหลาดของเธอ และแล้วเรื่องราวความรักอลวนก็ได้เริ่มต้นขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจ
1. นักแสดงญี่ปุ่นหน้าตาดี ที่มีคาแร็กเตอร์เหมาะสมกับละครรักกุ๊กกิ๊ก นำแสดงโดยสาว “อายาเสะ ฮารุกะ” กับ 2 หนุ่มต่างวัย เด็กหนุ่ม “โซตะ ฟุคุชิ” นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ที่มาแรงในยุคนี้ กับ “ฮิโรชิ ทามากิ” หนุ่มใหญ่ที่อยู่ในใจสาวๆ ตลอดกาลมาช่วยกันเรียกความฟิน
2. พล็อตแนวความรักที่น่าสนใจ เป็นเรื่องราวความรักของผู้หญิงที่อายุมากกว่าฝ่ายชาย ถือว่าเป็นละครรักเอาใจป้าๆ ที่อยากกินเด็กค่ะ ฮา…
3. เป็นละครแนวความรักเรื่อยๆ แต่ก็มีเรื่องให้ลุ้นอยู่บ้างว่า ตกลงแล้วสาวสวยอายาเสะของเราจะเลือกเด็กหนุ่มที่เป็นรักแรกพบ แต่ดูแลทั้งใครไม่ได้ หรือหนุ่มใหญ่โปรไฟล์ดี ฐานะมั่งคง
4. ดูแล้วคลายเครียดดีค่ะ ถ้าเครียดกับชีวิตหรือเครียดกับละครญี่ปุ่นแนวอื่นมามากพอแล้ว ละครเรื่องนี้พอจะเพิ่มความมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ค่ะ
Tip : เป็นละครแนวความรักดูเพลินๆ ค่ะ แถมสอดแทรกวิธีการจีบหนุ่มๆ และข้อคิดด้านความรักในมุมที่เราอาจมองไม่เห็นไว้ด้วย
คำคมละคร
ความรู้สึกที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเธอจะเป็นยังไง”
ละครเรื่องอื่นๆ ใน Autumn Season ที่น่าติดตามอีก : “Doctor X ภาค3” ศัลยแพทย์ฟรีแลนซ์มากฝีมือที่จะมาโชว์ความเมพอีกครั้ง, “Jigoku Sensei Nube” จากมังงะชื่อดังสู่เวอร์ชั่นละครที่ไม่ควรพลาด, “First Class” ที่กลับมาเรียกความสนุกบวกความแซบอีกครั้งในภาค 2 กับการเดินเข้าสู่วงการดีไซเนอร์ และแฟชั่นอย่างเต็มตัวของจินามิ มีเหล่านางมาร ปีศาจร้ายหน้าสวยมาคอยขัดขาเธออยู่เช่นเคย แต่ดูจะเพิ่มเลเวลมากกว่าพวกบ.ก.นิตยสาร First Class เสียอีก!, “Gomen ne Seishun!” ละครแนวโรงเรียน คอมเมดี้ เมื่อโรงเรียนชายล้วนและหญิงล้วนต้องยุบมารวมกัน เรื่องราววุ่นๆ อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้!
จบแล้วค่ะ สำหรับการแนะนำละครญี่ปุ่นปี 2014 ที่น่าดู เป็นการสรุปละครที่น่าสนใจแบบคร่าวๆ ลองไปเก็บหาดูกันได้ค่ะ (หาดูได้ที่ไหนนั้น ขออุบไว้ก่อนค่ะ กลัวโดนตามเก็บ ฮา… )
และในปี 2015 นี้ก็ดูเหมือนว่ามีละครญี่ปุ่นหลายเรื่องจ่อคิวลงจอโทรทัศน์ไทยอยู่เช่นกัน เป็นสัญญาณที่ดีค่ะว่า ละครญี่ปุ่นกำลังจะกลับมาในบ้านเราอีกครั้ง ถ้ามีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจอีก จะมาแนะนำให้ชาว Marumura ทราบเรื่อยๆ นะคะ ขอให้มีความสุขไปกับการดูละครค่ะ ^^
