เราจะแทบไม่เห็นนักเตะญี่ปุ่น เลี้ยงลูกเลื้อยยาว โชว์ความสามารถคนเก่งฟ้าประทาน ไปยิงประตู…เพราะอะไรน่ะเหรอ…เพราะระบบของเขาไม่มี one man show ไงล่ะ
ตอนผมอายุยี่สิบ… ผมสงสัยนะ ว่าชนชาติบ้าอะไร มันถึงหล่อหลอมให้คนเข้าใจ process ปฏิบัติตามกฏตามกติกา เป๊ะแม่งจนผมสงสัยว่ามันถูกเขียนโปรแกรมขึ้นมา ตั้งแต่เกิดหรือเปล่า…
เสียงนาฬิกาปลุกตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าวันเสาร์ ผมต้องรีบตื่นเพื่อไปให้ทันเวลานัดของกลุ่มตีแบดมหาวิทยาลัย
ตอนนั้นผมเบื่อและเกร็งมาก เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะถ้าถึงสถานีรถไฟช้ากว่าเวลานัด ก็จะถูกมองว่าคนไทยแม่งไม่รักษาเวลา แต่พอไปถึงตามเวลา เราก็จะต้องไปกางเน็ตของสนามแบดแปดสนาม เตรียมเช็คลูก ต่อจากนั้นก็จะต้องวอล์มร่างกายวิ่งรอบสนาม หมุนแขน หมุนคอ หมุนไหล่ สลัดข้อเท้าข้อมือ นี่ยังไม่รวมที่ต้องซ้อมลูกหยอด ลูกหลังคอร์ท ตีเรียดเน็ตอย่างละยี่สิบ แล้วถึงเริ่มได้ตีจริงๆ!! ส่วนเวลาจบ ก็ต้องเก็บเน็ต เอาไม้ถูพื้นมาทำความสะอาดคอร์ทเอง
คนในกลุ่มแบดจะเชื่อว่า วิธีฝึกแบบนี้แหล่ะ จะทำให้เราเก่งขึ้นโดยไม่ต้องมีโค้ชด้วยซ้ำ
เย็นเสาร์นึง เพื่อนผมชวนไปเชียร์ทีมเบสบอล บังเอิญผมน่ะอยากเชียร์ฝั่งตรงข้าม… แต่สาวเจ้าเขาเป็นแฟนทีมฮิโรชิม่า มาชวนทั้งทีก็เลยต้องเป็นแฟนจำเป็น ที่ผมอ้าปากค้างก็คือ เหล่าพวกกองเชียร์ของทีมฮิโรชิม่าเขามีวิธีการเชียร์ที่เฉพาะตัวอย่างนึง คือจะลุกนั่ง ลุกนั่ง สลับกัน กับคนนั่งข้างๆ จริงจังขนาดนี้ คือผมรู้สึกว่าการไปเชียร์เบสบอลที่ผมนึกว่าจะเป็นการพักผ่อน มันกลายเป็นราวกับผมต้องไปขึ้นอัฒจันทร์เชียร์บอลกีฬาสี โอ้วพระเจ้าช่วยกล้วยโตเกียว เกร็งและมึนมาก… และแน่นอนตอนเกมเลิก การเก็บขยะ ทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้
กลับมามองข่าวที่ตอนนี้ทั่วโลกต่างชื่นชมกองเชียร์ชาวเจแปนในบอลโลกว่า ยอดเยี่ยมและน่ารักไม่แพ้ชาติใดในโลก จะแพ้จะชนะ พอจบเกมก็ก้มหน้าก้มตาเก็บขยะให้เรียบร้อย แน่นอนสื่อทั่วโลกต่างชื่นชม แถมสื่อของประเทศหนึ่งก็จะชอบเหน็บกันตลอดว่า ผิดกับดินแดนชาติกะลาแลนด์จริงๆ แต่หากผมเอาประสบการณ์ตัวเองที่เคยอยู่ในกลุ่มก้อนสังคมของคนญี่ปุ่นกลับเข้าใจว่า “มันต้องทำอย่างนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
ตอนญี่ปุ่นสร้างทีมฟุตบอล… พวกเขาเน้นเรื่องพื้นฐานและระบบมาก… นักกีฬาต้องส่งต่อบอลกันอย่างแม่นยำ นักกีฬาต้องเข้าใจระบบ ใครจะวิ่งไปทางไหน การเล่นเป็นทีม เป็นระบบคือหัวใจ
“อย่าฝึกวิ่ง ก่อนที่จะเดินเป๊ะ”
ต่างกับหลายๆ ชาติ โดยเฉพาะนักเตะอเมริกาใต้ ที่มักจะอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นเป็นหลัก แน่นอนการมีซุปเปอร์สตาร์คือสิ่งที่ทำให้ทีมแข็งแกร่ง แต่การมีระบบจะทำให้ทีมเติบโตและพัฒนา
ถึงไม่พูดก็รู้ว่าการตรงต่อเวลา รักษากฏ จิตสาธารณะ การรักษาความสะอาดของส่วนรวม การปฎิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ชนขาตินี้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นอย่าว่าแต่นักกีฬาญี่ปุ่นเลย ที่จะอยู่ในระเบียบวินัย แม้แต่กองเชียร์ก็อยู่ในกรอบ ในระเบียบราวกับว่ามีเข็มฉีดยาอันหนึ่งที่ประกอบด้วยคำสั่ง กฏการปฎิบัติ ฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และการเรียงตัว DNA ของพวกเขาชาวเจแปน (ญี่ปุ่นมันคงมีวัคซีนแบบนี้อยู่ฉีดให้เด็กญี่ปุ่น ขนาดไปอยู่เจแปนสิบกว่าปียังไม่ได้วัคซีนตัวนี้ครบโดสซะที)
ขนาดรุ่นพี่ญี่ปุ่นคนนึง บอกกับผมว่า
วิธีจะทำงานหรือเล่นกีฬาใดๆ ให้เก่ง จงทำให้ชิน ทำให้มันเหมือนกิจวัตรประจำวัน…
ไม่ต้องจำไว้ที่สมอง แต่ให้จำไว้ที่ร่างกายและที่กล้ามเนื้อไปเลย!
พวกเขาไม่แปลกใจกับสิ่งที่ทั้งกองเชียร์และนักกีฬาของเขาเป็น เขาเชื่อการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เขาเชื่อว่าระบบกฏเกณฑ์ที่มีแบบแผนจะทำให้พวกเขาเติบโตอย่างยั่งยืน… ไม่ใช่วูบๆ วาบๆ จากจู่ๆ เพราะมีนักเตะอัจฉริยะในทีมแค่คนสองคน
แต่…
เราจะแทบไม่เห็นนักเตะญี่ปุ่น เลี้ยงลูกเลื้อยยาว โชว์ความสามารถคนเก่งฟ้าประทาน ไปยิงประตู…
เพราะอะไรน่ะเหรอ… เพราะระบบของเขาไม่มี one man show ไงล่ะ
หรือแม้แต่พวกนักเตะญี่ปุ่น ผมไม่เคยเห็นนักเตะคนไหน เล่นละครแกล้งเจ็บร้องแหกปาก เรียกจุดโทษ (ขนาดซุปตาร์ อย่างเนย์มาร์ ยังแอบมี!)
เพราะมันไม่ได้อยู่ในเกม ขืนโกหกไม่เนียนอาจโดนใบเหลือง
พวกเขาไม่ได้ยกย่อง คนที่ยอดมนุษย์แก้ปัญหาเวลาเกิด error แล้วมาบอกหัวหน้าหลังจากนั้น
หากคุณทำอะไรไม่ตามขั้นตอน ถึงผลจะดี อย่าคิดว่าหัวหน้าญี่ปุ่นจะชอบเชียว… ก่อนจะโชว์เหนือ อย่าลืมบอกหัวหน้า แจ้งคนญี่ปุ่นให้รู้ก่อน
ญี่ปุ่นรับไม่ค่อยได้กับคนที่มาสาย ทั้งๆที่เมื่อวานก็อยู่ทำงานจนดึกดื่น หรือไปรับรองลูกค้าจนอ้วกแตกเมื่อคืน..
เพราะกฏกิจวัตรประจำวันคือ คุณต้องมาทำงานตรงเวลา
ที่ผมจะอยู่และทำงานร่วมกับกลุ่มคนญี่ปุ่นในรูปแบบนี้มากว่าสิบปี… แต่บางทีก็แอบอยากทดความคิดว่าสไตล์เจแปนแบบนี้ มันสุโก้ยที่สุดแล้วรือ…?
เรื่องแนะนำ :
– ปรัชญาฟุตบอล x การทำงาน (Ep.01 Zanshin – 残心 ใจที่ยังหลงเหลืออยู่)
– ในวันที่เทพธิดาเห็นผม
– ว่าด้วยเรื่องลางาน : คนญี่ปุ่นเซอร์ไพรส์ไทย และคนไทยก็งงญี่ปุ่น
– (13++) เบคาราสุ Last Episode นิทานเมื่อทำงานกับญี่ปุ่น ไม่ถึงห้าม แต่อย่าทำดีกว่า
– The Darkest hours : เบคาราสุ EP.2 (べからずⅡ) นิทานทำงานกับญี่ปุ่นไม่ถึงห้าม แต่อย่าทำดีกว่า