การชมพระจันทร์…เคยสังเกตไหมคะ ในยามค่ำคืนเมื่อเราเดินออกมาข้างนอก สิ่งที่ทุกคนมักจะทำก็คือ แหงนหน้ามองท้องฟ้า และเพลิดเพลินกับแสงระยิบระยับจากดวงดาว แล้วเพื่อนๆ ชอบชมพระจันทร์กันไหมค่ะ วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับประวัติ รวมไปถึงขั้นตอนการบวงสรวงพระจันทร์ของคนญี่ปุ่นกันค่ะ
เรียบเรียงโดย : ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jat
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้ง กับเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น ที่พร้อมเสิร์ฟถึงหน้าจอให้กับเพื่อนๆทุกคนถึงที่เลยค่ะ
เพื่อนๆ เคยสังเกตไหมคะ ในยามค่ำคืนเมื่อเราเดินออกมาข้างนอก สิ่งที่ทุกคนมักจะทำก็คือ แหงนหน้ามองท้องฟ้า และเพลิดเพลินกับแสงระยิบระยับจากดวงดาว รวมไปถึงดาวดวงใหญ่สีเหลืองนวลส่องสว่างท่ามกลางหมู่ดาวจนไม่อาจละสายตาไปได้ .. ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึง “พระจันทร์” กันค่ะ แล้วเพื่อนๆ ชอบชมพระจันทร์กันไหมค่ะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันไหว้พระจันทร์ของชาวจีนกันแล้ว แต่วันนี้ Azu จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับประวัติและรวมไปถึงขั้นตอนการบวงสรวงพระจันทร์ของคนญี่ปุ่นกัน ไปชมกันเลยค่ะ!!
การชมพระจันทร์ (お月見, Otsukimi)

โอทสึคิมิ (お月見, Otsukimi) หมายถึง งานฉลองในคืนพระจันทร์วันเพ็ญในวันที่ 15 สิงหาคมตามปฏิทินจันทรคติ (ประมาณเดือนกันยายนตามปฏิทินสุริยคติ) คนญี่ปุ่นเรียกพระจันทร์ในคืนวันนี้ว่า จูชูโนะเมเอะเก็ทสึ (中秋の名月, Chuushuu no meegetsu) หรือจูโกะยะ (十五夜, Juu-go ya) หรืออิโมะ เมเอะเก็ทสึ (芋名月, Imo meegetsu) เป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงงดงามที่สุดในรอบปี

เทศกาลชมพระจันทร์ของประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน เกิดขึ้นเมื่อมีขุนนางเป็นผู้ที่นำเข้ามาในช่วงสมัยนาระ-สมัยเฮอัน ในวันขึ้น 15 ค่ำ ไม่ได้มีแค่ขุนนางในวังเท่านั้นที่ชื่นชมพระจันทร์ประชาชนทั่วไปก็มีความเชื่อว่าพลังงานที่มาจากดวงจันทร์จะมีสิ่งลี้ลับที่จะสามารถให้พรที่ขอนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้ (บางครั้งคนญี่ปุ่นจะจินตนาการเห็นเงาบนพื้นผิวพระจันทร์นั้นเป็นรูปร่างคล้ายกระต่ายที่กำลังตำขนมโมจิ) โดยส่วนใหญ่ชาวนามักจะขอพรจากดวงจันทร์ให้เก็บเกี่ยวได้ผลผลิตที่ดี พืชผลอุดมสมบูรณ์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและเพื่อขอพรให้ได้พืชผลที่ดีในปีต่อๆ ไป
วิธีการจัด Otsukimi

สิ่งที่ต้องเตรียมในการบวงสรวงพระจันทร์ คือขนมดังโงะ (団子, dango) ขนมแป้งต้มใส่ไส้ทำจากแป้งข้าวเจ้าและน้ำตาล, ซัมโบ (三方, Sanboo/Sanpoo) ถาดไม้ขนาดเล็กที่มีขาตั้ง, ซุซุกิยะฮางิ (すすきや萩, Susuki ya hagi) หญ้าจำพวกหญ้าแขมเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก หรือดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วงอื่นๆ ก็ได้, ผักและผลไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วง เช่น เกาลัด, ฝักถั่วเหลืองสด, เผือก, ลูกพลับ ฯลฯ

1. | นำแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลและน้ำร้อนมาผสมให้เข้ากัน นวดแป้งแล้วนำไปนึ่ง และปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ ซึ่งเรียกว่า 「団子」 “ขนมดังโงะ” (การปั้นให้เป็นลูกกลมๆ นั้น ชาวนาของคนญี่ปุ่นต้องการแสดงให้เหมือนกับว่าดังโงะนี้คือ พระจันทร์) |

2. | นำดังโงะมาจัดเรียงกันเป็นรูปทรงพิระมิด ในการจัดนั้นถ้าปีที่มี 365 วัน จะจัดดังโงะ 12 ชิ้น และถ้าปีที่มี 366 วัน จะจัดดังโงะ 13 ชิ้น แล้วนำไปวางไว้บน 「三方」(Sanboo/Sanpoo ถาดไม้ขนาดเล็กที่มีขาตั้ง) (การจัดดังโงะเป็นรูปทรงพีระมิดนั้น คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ยอดบนสุดนั้นคือ โลกแห่งวิญญาณ จึงไหว้เพื่อแสดงการขอบคุณหลังจากที่ได้เก็บเกี่ยวพืชผลที่อุดมสมบูรณ์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและปีต่อๆไป) |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
3. | จัดผักและผลไม้ของฤดูใบไม้ร่วง เช่น 「栗」(Kuri เกาลัด), 「枝豆」(Edamame ฝักถั่วเหลืองสด), 「里芋」(Satoimo เผือก), 「柿」(Kaki ลูกพลับ) ฯลฯ |
4. | จัดดอกไม้ฤดูใบไม้ร่วงที่ขึ้นในธรรมชาติมาใส่แจกัน ตัวอย่าง พืชฤดูใบไม้ร่วง 7 ชนิดที่สามารถนำมาบรวงสรวงได้ |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]()
|

5. | จัดวางเครื่องเซ่นต่างๆ ให้พร้อม แล้วนำไปวางไว้ใกล้หน้าต่างหรือที่ระเบียง และบางที่อาจจะมี 「酒」(Sake เหล้า) ก็ได้ แล้วนั่งชื่นชมความงามของพระจันทร์พร้อมกับอธิษฐานขอพรจากดวงจันทร์ |

แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีการจัดเทศกาล Otsukimi บ่อยนัก เพราะเนื่องจากสังคมในเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยตึกสูง แสงสีค่อนข้างสว่าง จึงบดบังความงดงามของพระจันทร์ไปเสียหมด โดยส่วนใหญ่มักพบเห็นตามวัด หรือ ศาลเจ้าของชินโตที่จะจัดเทศกาลนี้โดยตรง หรือตามต่างจังหวัดที่มีผู้เฒ่า ผู้แก่ คอยเผยแพร่วัฒนธรรมให้ลูกๆ หลานๆ โดยการร้องเพลง หรือ แต่งกลอน หรือจะเล่านิทานที่เกี่ยวกับพระจันทร์ เช่น นิทานเจ้าหญิงคะกุยะ จากเรื่อง 「竹取物語」 (Taketori Momogatari)
เรียบเรียงโดย : ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น เจ.เอ.ที. (JAT)
เอื้อเฟื้อโดย :
โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท Jat (JAT Japanese language school)
http://www.jatschool.com
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
ที่มาจากหนังสือ วัฒนธรรมญี่ปุ่น
โอคะโมะโทะ โทะมิ(ผู้แต่ง), แสวง จงสุจริตธรรม(ผู้แปล), รศ.ปราณี จงสุจริตธรรม(ผู้แปล). วัฒนธรรมญี่ปุ่น. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ภาษาและวัฒนธรรม, 2547
http://www.ja-gp-fukuoka.jp/education/akiba-hakase/001/004.html
http://okazarian.web.fc2.com/09_tsukimi_03.html
http://su-zu.net/kuma/illust5.html
http://www.genkinet-hitachinaka.jp/event_show.php?id=3111
http://matome.naver.jp/odai/2125351994412725313/2125454171569756582
http://www.oizumi-tabunka.jp/images/2009/08/cu087.jpg
http://15.pro.tok2.com/~frqp0463/tukida00041.jpg
http://www.kamidana.co.jp/shop/normal.images/196.jpg
http://www.oishi-mise.com/nama-kuri.htm
http://g.seosem.net
http://www.jaizumo.or.jp/goenclub_blog/2008/11/post_13.html
http://www.misoya.com/cart/comm_img/861920-1.jpg
http://www.city.kochi.kochi.jp/uploaded/image/1694.JPG