วิ่งสุดท้ายแข่งกับ นีล อาร์มสตรอง ?
คุณคงรู้สึกงงๆ ว่า ถ้ามีคนบอกว่า คุณต้องแข่งขับยานหรือแข่งสร้างแรงบันดาลใจสู้กับ นีล เอ อาร์มสตรองนะ
แข่งอะไรนะ… แล้วเกี่ยวกับนีล เอ อาร์มสตรองได้ยังไง ?
ผมกำลังพูดถึง การแข่งขันวิ่งมาราธอนในโอลิมปิกฤดูร้อนคราวนี้
8 สิงหาคม เจ็ดโมงเช้า วันสุดท้ายของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก กับรายการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดตั้งแต่มีโอลิมปิกมายังไงก็ต้องมีรายการนี้ “วิ่งมาราธอนชาย”
มาราธอนนี้ มีชายคนนึงที่คนในวงการวิ่งระยะไกล จะเปรียบเทียบเขาว่าคือ นีล เอ อาร์มสตรอง ก็ไม่ผิดนัก
เขาชื่อ “คิปโชเก้” เป็นนักวิ่งแห่งเคนย่า
คิปโชเก้คือใคร ทำไมเราถึงเปรียบเทียบเขาว่านี่คือ นีล เอ อาร์มสตรองได้ล่ะ
คิปโชเก้ คือแชมป์เก่าโอลิมปิก เป็นเจ้าของสถิติโลก และเขาได้แชมป์ถึง 13 ครั้งในการลงแข่ง 15 ครั้งล่าสุด
ทุกรายการแข่งขัน คิปโชเก้เป็นมนุษย์ที่วิ่งมาราธอนได้ดีที่สุดของโลกใบนี้ และดีที่สุดตั้งแต่มนุษย์โลกเริ่มเดินสองขาเป็น
และที่สำคัญในปี 2018 คิปโชเก้ได้รับการบันทึกว่า เป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถวิ่งมาราธอนระยะ 42.195 กิโล ได้ต่ำกว่า สองชั่วโมง!! เหล่านักวิทยาศาสตร์การกีฬาถกถียงกันว่า ด้วยสรีระของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในปัจจุบัน น่าจะไม่สามารถก้าวผ่านกำแพงสองชั่วโมงอันนี้ได้ แต่เขาก็ทำสำเร็จ
ในวินาทีที่ คิปโชเก้ ตบเท้าเข้าสู่เส้นชัย สื่อมวลชนกล่าวขานกันว่า เนี่ยแหล่ะคือ moon landing moment เพราะมันเหมือนวินาทีที่ นีล เอ อาร์มสตรอง วางเท้าลงที่ผิวดวงจันทร์ เขาทำลายความเป็นไปไม่ได้ ที่มนุษยชาติมองว่าไกลเกินฝัน และสร้างแรงบันดาลใจ ให้แก่ผู้คนมากมาย
ในโอลิมปิกปีนี้ คิปโชเก้ก็มาญี่ปุ่นเพื่อป้องกันแชมป์เขาคือเทพเจ้า แต่อีกมุมเขาคืออสูรกาย ที่นักวิ่งชาติอื่น ปรารถนาจะโค่นล้มให้ได้
แล้วในปฐพีญี่ปุ่น… มีใครไหมจะลุ้นสู้กับคิปโชเก้ได้เหรอ…
ถ้าพูดแค่ว่า “มีลุ้น” คนๆ นั้นคงเป็น โอซาโกะ
แล้วโอซาโกะ เป็นใครอีกล่ะเนี่ย?
โอซาโกะ เป็นนักวิ่งที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เขาสามารถทำลายสถิติมาราธอนประเทศของญี่ปุ่นได้ในปี 2018 และก็มาทำลายสถิติของตัวเองอีกทีในปี 2019
ส่วนในเวทีระดับโลก เขาวิ่งติดท็อป 3 ในอีกหลายรายการระดับเมเจอร์ และด้วยหน้าตาที่ดี ฟอร์มการวิ่งที่สร้างความหวือหวาได้ตลอด เขาจึงมีแฟนคลับทั้งในและนอกประเทศอยู่มากมาย
จริงอยู่ที่สถิติเป็นรองคิปโชเก้ แต่มันจะมีดราม่าอะไรเหมาะไปกว่าการ ชนะนีล เอ อาร์มสตรอง และคว้าเหรียญทองบนแผ่นดินแม่ของตัวเองล่ะ!?
แต่อย่างที่รู้กัน เพราะหลายๆ ที โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเราคนเดียว คิปโชเก้ก็ยังเป็น นีล เอ อาร์มสตรองโลกการวิ่ง เขาป้องกันแชมป์สำเร็จ ส่วนโอซาโกะ จบที่อันดับหก… นักข่าวญี่ปุ่นก็ชอบดราม่ามาก พอจบการแข่งขันไม่นาน ก็วิ่งเข้าไปถามโอซาโกะ… ว่าอะไรที่คุณพบหลังเส้นชัย โอซาโกะประกาศทันทีว่านี่เป็นการลงแข่งครั้งสุดท้ายของเขา จากนี้เขาจะช่วยให้คนรุ่นใหม่ พัฒนาตัวเองไปสู่ระดับโลก…
โอซาโกะ หยิบผ้าขนหนูมาซับหน้า นักข่าวพูดว่า คนทั้งโลก ได้เห็นการวิ่งที่มุ่งมั่น ของคุณแล้วครับ
โอซาโกะตอบว่า “อย่าทำให้ผมร้องไห้หนักกว่านี้สิครับ!
เรื่องดูเหมือนจะจบเศร้า และโอซาโกะคงน่าสงสาร แต่ผู้อ่านอย่าสงสารโอซาโกะมากเลยครับ ที่ญี่ปุ่นหากใครสามารถทำลายสถิติประเทศมาราธอนได้ จะได้เงินรางวัลพิเศษร้อยล้านเยน และโอซาโกะทำได้ถึงสองครั้ง… เพียงแค่สองปีนั้น เขาก็รับเงินประมาณหกสิบล้านบาท รวยกว่านักกีฬาทีมชาติไทยกว่า 99%
นิทานเรื่องนี้ (อาจจะ) สอนว่า
จงฝันไกลมุ่งไปที่ดวงจันทร์เถอะ… ถึงคุณจะไปไม่ถึง คุณก็จะรายล้อมไปด้วยเงินตรา?!
เรื่องแนะนำ :
– น้ำตา ที่โตเกียว
– [การลาออกครั้งสุดท้าย] แด่บริษัทที่มีคนแบบเบจิต้าเต็มไปหมด
– “2021” [จากบทความ Nikkei ถึงหนังเรื่อง Soul]
– [นิทานฤดูหนาว] ปาฎิหาริย์แห่งโต๊ะจานผี
– [ทดความคิด] ไม่ถูกต้อง VS ไม่ถูกใจ
Credit : ภาพจาก Running Insider, IG suguru_osako
#มาราธอน #โอลิมปิกฤดูร้อน #โอซาโกะ