วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (75) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): ยี่สิบเจ็ด สิ่งที่เรียกว่า การปล่อยด้ามดาบ
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมลดความถี่ในการซ้อมลง แล้วก็ใช้เวลาในการพักผ่อน และคิดตรึกตรองในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องของสังคมประเทศชาติ ที่บอกตรงๆ ว่ามาถึงตรงนี้จากนี้ไปก็ต้องขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน “รักษาตนให้พ้นภัย” กันด้วย เพราะผมมองแล้ว ทัศนคติ การกระทำอะไรต่างๆ ในสังคมไทยประเทศไทยคงมาถึงจุดที่ “ยากจะปรองดอง” หรือกลับมามีจิตสำนึกร่วมว่า เราเป็นคนไทยเหมือนกัน อยู่ในประเทศไทยเหมือนกัน ไปแล้วล่ะ เพราะผู้คนคิดเอาแต่ทำสิ่งต่างๆ ตามอำเภอใจตัว ความยึดมั่นในหลักธรรมคุณธรรมจริยธรรมไม่มี ดูอย่างข่าวนี้ที่ผมเพิ่งได้อ่าน
สนามแบดฯอุตรดิตถ์โพสต์สะดุ้ง! ห้าม ส.ว.-กกต. และลูกหลานเข้าใช้บริการ
เยี่ยมไปเลยครับ เจ้าของสถานที่เขาอาจจะคิดว่าสถานที่ของเขาๆ มีสิทธิ์จะให้ใครเข้า หรือไม่ให้ใครเข้าก็ได้ (มันก็ใช่) แต่ทัศนคติและการกระทำคำพูดเยี่ยงนี้ หากท่านผู้อ่านเป็นวิญญูชน ก็ขอตรองดูละกัน ว่ามันเหมาะควรหรือไม่ ในขณะที่ฝ่ายที่ชอบอ้างตนเป็น “เสรีนิยมประชาธิปไตย” พยายามป่าวร้องเรื่องสิทธิของคนชายขอบนั่นโน่นนี่ แต่การกระทำบางอย่างก็ไม่ได้ดีไปกว่าฝ่ายตรงข้ามที่ไปก่นด่าเลย คือกีดกันรังเกียจ ใช้ถ้อยคำว่า “เสนียด” แสดงความเกลียดชังอย่างออกนอกหน้า (คงมีวิธีคิดว่า “มึงขัดขวางไม่ให้อะไรเป็นดังใจต้องการ มึงคือศัตรู” สินะครับ)
สุดท้ายความคิดความอ่านเรื่องการเมืองของคนไทยก็ไม่เคยก้าวพ้นลัทธิบูชาตัวบุคคล ความคิดแบบสองขั้วตรงข้ามที่นำไปสู่การเป็นศัตรูกัน (อย่างเปิดเผยด้วยนะ ไม่มีกระมิดกระเมี้ยนหรือเกรงใจด้วย) รวมถึงแนวคิดสุดโต่งที่ว่าต้องทำลายล้างอะไรที่ไม่ชอบใจให้หมด (ดูเหมือนเรื่องการปฏิวัติวัฒนธรรมในจีนหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเขมร จะไม่ได้เอามาเป็นบทเรียนเตือนสติให้ได้รู้อะไรเลย ว่าทำแบบนั้นแล้ว บ้านเมืองจะเป็นยังไง) ได้เลย และแทนที่จะมีสำนึกว่า สิ่งที่พูดหรือทำ มันขัดแย้งกับหลักคุณธรรมที่ตนควรยึดถือ ถ้าหากจะเรียกชื่อตัวเองว่าเป็น “ประชาธิปไตย” ก็ควรเคารพความคิดผู้อื่น มิใช่ผลักไส กาหัวว่าเป็นศัตรู กลับมั่นหน้าบอกว่า “เพื่อความถูกต้อง”
ไอ้ความยึดมั่นใน “ความถูกต้องตามทัศนะของกู” นี่หละครับ ถึงได้ฆ่ากันชิบหายวายวอด เพราะไอ้ถูกของกู กับถูกของมึงเนี่ย มันเสือกอยู่ตรงข้ามกัน แล้วมึงต้องยอมตามกูด้วย (ฮา) อยากให้ท่านผู้อ่านได้อ่านนิทานเซน เรื่อง ถูก ถูก ถูก จังเลยครับ อ่านก็ขอให้นำไป “คิดพินิจให้ดีๆ” ด้วยครับ
ตัวผมเองก็เป็นเพียงนักเขียน (ไส้แห้ง 555) คนหนึ่ง ที่พยายามจะเอาความรู้เท่าที่มี มารับใช้สังคม ด้วยการเอาภูมิปัญญา ปรัชญา ของในสมัยก่อน มาถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านได้อ่านเพื่อเป็นความรู้ความคิด ถ้ามันจะทำให้สังคมดีขึ้น ผมก็ดีใจ ก็ขอให้ทุกท่านรักษาตนให้พ้นภัย ในโลกและสังคมที่ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป (ถ้าทัศนคติ รังเกียจ กีดกัน ไม่ให้เข้า ยังมีได้ ต่อไป อาจพัฒนากลายเป็นการหาเรื่อง กลั่นแกล้งรังแก ฆ่าฟันกันกลางถนนก็ยังได้ (โดยเฉพาะยิ่งกำลังย่ามใจว่าเป็น “เสียงส่วนใหญ่” ซะด้วยเนี่ย) อะไรๆ มันเกิดขึ้นได้หากสังคมเข้าสู่ความเป็น “อนาธิปไตย” แล้ว)
วันนี้ก็ ต้องขออภัยท่านผู้อ่านด้วย แต่ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่พึงทำ คือส่วนหนึ่งของการ “รับใช้สังคม” ของผม (เตือนสติ ด้วยหลักปรัชญาความคิดแบบเซน ก่อนที่มันจะสายเกินไป) ว่าแล้ว เรามาเข้าเนื้อหาหลักของสัปดาห์นี้กันดีกว่าครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
火の巻
คัมภีร์แห่งเตโช
二七 一 つかをはなすと云事
ยี่สิบเจ็ด สิ่งที่เรียกว่า การปล่อยด้ามดาบ
`束をはなす `と云に色々心有事也 `無刀にて勝心有 `又太刀にてかたざる心有 `さまざま心のゆく所書付るに非ず `能々鍛錬すべし
ที่เรียกว่า “ปล่อยด้ามดาบ” เป็นการมีจิตไปต่างๆ มีจิตชนะโดยไร้ดาบ หรือมีจิตไม่ชนะด้วยทะจิ มีจิตหลายๆ อย่างที่หาได้เขียนใส่ไว้ไม่ สมควรฝึกฝนให้บ่อยๆ
การตีความและอภิปราย
…ห๊า อะไรนะ…
จริงๆ ผมอ่านตอนนี้ทีแรก ตกใจ อะไรนะ ชนะโดยไร้ดาบ นี่มันมาแนวนิยายกำลังภายในไปไหมน่ะ “ไร้กระบี่เหนือกว่ามีกระบี่” (ต๊กโก้วคิ้วป้าย?) ซึ่งคนอ่านกำลังภายในก็ตีความคำว่า “ไร้กระบี่” ไปกันต่างๆ นานา บ้านก็ว่า อ๋อใช้มือเปล่าก็ชนะศัตรูได้แล้วไม่ต้องใช้กระบี่ หรือแบบว่า ดังแล้ว คนไม่กล้าแหยม เลยถือว่าชนะได้โดยไม่ต้องใช้กระบี่ บลาๆๆ ซึ่งผมอ่านแล้ว ก็รู้สึกว่า มโนกันไปทั้งนั้น ยิ่งพูดว่าใช้กำลังภายในชดเชยน้ำหนักดาบอีก คือยิ่งไปพูดถึงอะไรที่มันจับต้องไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาจากประสบการณ์หรือความรู้เชิงประจักษ์ ผมว่าก็ยิ่งออกทะเล กลายเป็นพูดเอาสนุกอย่างเดียวแต่เราไม่ได้อะไรจากสิ่งนี้
ผมจะไม่เอาอะไรมาก นอกจากเอาประสบการณ์ของตัวเอง (ในฐานะผู้ฝึกบีเจเจคนนึงซึ่งก็ไม่ได้เก่งอะไร) มาจับละกัน
มีวันนึง โค้ชสอนท่าเทคดาวน์ no-gi ด้วยการ arm drag แล้วเข้า body lock ข้างหลัง แล้ว “หมุน” วนไปทางขวาพร้อมกับเอาฝ่าเท้า “ปัด” เท้าคู่ต่อสู้ให้ล้ม หลังจากเล่นท่านี้ไปได้สักพัก ผมก็รู้สึกว่า
…ถ้าไม่หมุนให้ดีก่อน จะตบแปเท้าให้อีกฝ่ายล้ม ยาก และเหนื่อยมาก…
…ถ้าเอาแต่ใช้แรงให้หมุนมากๆ เราก็ เหนื่อยมาก ยิ่งหมุนวนมากยิ่งเหนื่อยเพราะเรากำลังถือน้ำหนักของอีกฝ่ายอยู่
…ถ้าหมุนไม่ต้องแรงมากไม่ต้องเหวี่ยงกว้างมากเอาพอแค่ให้อีกฝ่ายได้ตำแหน่งพอดี การตบเท้าเข้าไป ไม่ต้องแรงมากก็ยังล้มได้ (เพราะอีกฝ่ายเสียสมดุลเองก่อนหน้านั้นแล้ว)
ถ้าผมตีว่า “ทะจิ” คือ “กำลัง” (แรงควาย brute force) แล้ว คำสอนตอนนี้ก็คือ จงตั้งจิตมองหาแนวทางที่จะชนะ (ใช้ออกกระบวนท่าให้สำเร็จ) โดยไม่ใช้แรง (ใช้กระบวนท่า ใช้การเคลื่อนไหวให้มาก) ในอีกด้านคือพยายามหลีกเลี่ยงการเอาชนะด้วยกำลังอย่างเดียว (เพราะมันเหนื่อยและเสี่ยง ในเกมปล้ำกันที่ต้องอาศัยความอืด การเหนื่อยเร็วหมดแรงเร็วจัดว่าเป็นหายนะ)
ง่ายๆ ตรงๆ แต่การจะทำแบบนั้นได้จริงๆ ต้อง “ฝึกฝนให้บ่อยๆ” (能々鍛錬すべし โยคุโยคุ เร็นชู สุเบชิ) เพราะการใช้ในสถานการณ์จริงที่เต็มไปด้วยการขัดขืน การจะหาแง่มุมที่จะใช้กระบวนท่าให้มากและใช้แรงให้น้อยมันไม่ง่ายเลยนะครับ
การกำด้ามดาบ ต้องใช้แรง ฉะนั้น การ “ปล่อยด้ามดาบ” (ทสึกะ โวะ ฮานาสุ 束をはなす=柄を放す) ก็คือ การผ่อนแรงลง
หากการตีความของผมมันยังขาดตกบกพร่องเพราะด้อยประสบการณ์ก็ขอท่านผุ้อ่านให้อภัยด้วยครับ
ขอแถมเกร็ดภาษาอีกนิด ในต้นฉบับคำโบราณนั้น คำว่า “ทสึกะ” ที่ควรจะหมายถึงด้ามดาบ (柄) นั้น ไพล่ไปใช้คันจิคำว่า “ทสึกะ” (束) ที่แปลว่า “เสาคาน” เสียอย่างนั้น คือแค่พ้องเสียงเท่านั้นเอง
เอาล่ะครับ ก่อนจะจากกันวันนี้ สลับมาแบบ ชมอะไรเบาๆ ดีกว่า ผมรับฝากแม่เอาเงินไปทำบุญที่วัดยางกวง เขามีปิดทองพระเจ้าแสนแซว่จำลอง (ของจริงเหลือแต่เศียรอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่) เสร็จแล้วก็ออกมากินข้าวซอยลุงประกิจ กาดก้อม กินข้าวซอยเนื้อชามนึง แล้วเดินไป เจอตือคาโคตลาดประตูเชียงใหม่ ซื้อมากินอีก อร่อยดีทั้งเต้าหู้ทอดและตือคาโค
อีกสองตอนก็จบ “คัมภีร์แห่งเตโช” อันสุดพีคแล้วนะครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (74) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): ยี่สิบหก สิ่งที่เรียกว่า การรู้นายทัพไพร่พล
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (73) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): ยี่สิบห้า สิ่งที่เรียกว่า หัวหนูคอวัว
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (72) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): ยี่สิบสี่ สิ่งที่เรียกว่า การกลายเป็นใหม่
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (71) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): ยี่สิบสาม สิ่งที่เรียกว่า การทะลุก้น
– AFG Open International 2023 รีบมา รีบแข่ง รีบกลับไปประชุม (ห๊า)
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (75) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): ยี่สิบเจ็ด สิ่งที่เรียกว่า การปล่อยด้ามดาบ