คุณเชื่อไหมว่านาทีที่ผมแก้โจทย์ข้อนี้ได้ ผมมีความรู้สึกว่ามีผู้หญิงคนนึงหันมาทางผม ผมรู้สึกจริงๆ ใครคนนั้นที่ผมรู้สึกคือเทพธิดาแห่งโชค…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเช้าวันเสาร์ เดือนกรกฎาคม…
เมฆทุกก้อนลอยต่ำ กลั่นตัวเป็นฝนห่าใหญ่ ที่ถนนสุขุมวิท….
ผมจำวันนั้นได้ขึ้นใจ ผมในวัยมัธยมปลายในวันที่ไปสอบชิงทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (หรือมีชื่อเล่นว่า ทุนมงบูโช ทุนมง)
ผมไม่ใช่เด็กเรียนห่วยแต่ก็ไม่ได้ดีเว่อร์ระดับทีมชาติ… แต่ตั้งแต่อายุ 15 ผมอยากสอบชิงทุนญี่ปุ่นอันนี้มาก หากเปรียบชีวิตการเรียนมัธยมของผมเป็นหนังเรื่องนึง นี่คงเป็นเหมือนฉากเวทีไคลแมกซ์ของเรื่อง ผมมีคำถามที่ต้องการคำตอบจากการสอบชิงทุนอันนี้มากมาย
“โลกที่ห่างจาก กรุงเทพของเราไปห้าพันกิโลมันเป็นยังไงนะ”
“ความพยายามกว่าสามปีของเรา จะกลายเป็นความสูญเปล่าได้หรือเปล่า”
“ทำไมพวกนางงามจักรวาล พอได้ตำแหน่งถึงต้องดีใจจนต้องร้องไห้ คนทั่วไปต้องเจอโมเมนต์อะไรกัน ถึงจะดีใจขนาดนั้นได้”
เช้าวันนั้นข้อสอบแรกเป็นวิชาภาษาอังกฤษ ผมยังจำได้เลยว่าหลังจากกาคำตอบเอาแต่ข้อที่มั่นใจ (ข้อไม่มั่นใจ ผมข้ามหมด)
มั่นใจ 36 ข้อจาก 80 ข้อ…
(แม่ง… ผมถอดใจเลย…ผมมองไม่เห็นแสงสว่างอะไรเลย อยู่ไทยก้อดีล่ะวะ ผมจำคำเปรยกับตัวเองได้)
ผมอยากกลับบ้านตั้งแต่สิบโมง ข้อสอบยากมากในความรู้สึกผม แต่ไม่ได้กลับเพราะฝนตกหนักมาก!!
ต้องขอบคุณท้องฟ้าในวันนั้น ขอบคุณจริงๆ เพราะชม.ถัดไปคือข้อสอบเลข คำถามข้อสุดท้ายออกเป็นแนวคณิตศาสตร์โอลิมปิค 12 ยกกำลัง 2000 หารดัวย 121 จะเหลือเศษเท่าไหร่…
หากหันกลับไปดู… นี่อาจจะเป็นคำถามที่แพงที่สุดในชีวิตนักเรียนของผมเลยก็ว่าได้ เพราะหากตอบถูก มันคือทุนการศึกษาหลักล้านบาท!!
คุณเชื่อไหมว่านาทีที่ผมแก้โจทย์ข้อนี้ได้ ผมมีความรู้สึกว่ามีผู้หญิงคนนึงหันมาทางผม ผมรู้สึกจริงๆ
ใครคนนั้นที่ผมรู้สึกคือเทพธิดาแห่งโชค…
หลังจากข้อสอบเลขผ่านไป ผมมีกำลังใจอีกครั้ง ผมเคยถามตัวเองตลอดชีวิตมัธยมว่าจะเรียน ดิฟ อินติเกรด สูตรฟิสิกส์มากมายไปทำไมเพราะผมไม่ใช่อัจฉริยะที่จะทำให้มนุษยชาติมีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะดิฟ อินติเกรต หรือฟิสิกส์ควอมตั้มหรอก (คือดูเหมือนพูดแง่ลบ ไม่ไล่ตามฝัน แต่มันจริงเถอะถึงตอนนั้นผมก็แค่อายุสิบปลายๆ ก็จริง แต่ก็เห็นโลกของเหล่าอัจฉริยะทางวิยาศาสตร์ คณิตศาสตร์เป็นยังไง มันมหัศจรรย์แค่ไหน พอที่จะต้องยอมรับว่าโลกใบนี้ไม่ได้เลือกเราค้นพบหลุมดำ ไม่ได้สร้างให้เราแก้ไขทฤษฎีคณิตศาสตร์แฟร์มา มันมีใครบางคนฝันจะทำหน้าที่นั้นแน่ๆ แต่บังเอิญเราไม่ได้ฝันเช่นนั้นน่ะสิ… )
ถึงจะคิดเช่นนั้น โลกใบนี้ก็ไม่ได้ใจดำขนาดนั้น สิ่งที่เราเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ที่ทำให้เราเด็กม.ปลายตอบคำถามได้ว่าดวงอาทิตย์น่าจะหนักกี่กิโล โดยไม่ใช่ท่องมา วิชาเคมีที่ทำให้เรารู้ว่าโลกร้อนขึ้นเพราะอะไร วิชาเลขที่ทำให้ตอบคำถามแปลกๆ ด้านบนได้ และความรู้ที่แปลกๆ เหล่านี้แหล่ะ… ทำให้ผมได้เห็นโลกที่ห่างจากกรุงเทพไปห้าพันกิโล “ประเทศญี่ปุ่น”
ผมไม่เล่าว่าหลังสอบเสร็จจนถึงวันขึ้นเครื่อง มีดราม่าอะไรบ้าง
ผมไม่เล่าหรอกว่าพอไปญี่ปุ่นแล้ว ช่วงเวลามืดๆ ของชีวิต (เช่นเงินไม่พอใช้ อดนอนเพื่อเตรียมตัวสอบ อกหัก แผ่นดินไหว) มันเป็นยังไง จะคุ้มค่ากับที่จากแดนรักดินอุ่นไป ทำเผชิญชีวิตที่ต้องพึ่งตัวเองเป็นหลักแล้วดีไหม…
แต่แค่อยากจะบอกผู้อ่าน และน้องๆ ทุกท่านว่าทุนรัฐบาลญี่ปุ่นของปีนี้เปิดรับสมัครแล้ว เปิดโอกาสให้น้องๆ หลานๆ ได้ไปศึกษาต่อทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นทุนให้เปล่าที่ให้โอกาสแก่น้องๆ หลายๆ คนจะได้ไปรู้จัก
โลกที่ห่างจากที่นี่อีกห้าพันกิโล… โลกที่เราไม่มีวันเข้าใจ ถ้าไม่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่เป็นปีๆ
โลกที่ผู้คนเคารพกฎหมาย มารยาทสังคม เข้าไปถึงรากเหง้า โลกที่คนเผ่าพันธุ์นั้นนึกถึงส่วนรวมก่อนตัวเอง
โลกที่สร้างบุคลากรที่เชื่อว่าความพยายามเป็นค่า infinity ทำดีที่สุดแล้วไม่มีจริง และส่งผลให้ชนเผ่านี้สร้างสิ่งประดิษฐ์เหลือเชื่อขึ้นมามากมาย
เช้าวันเสาร์ที่ 2 เมษา เมฆลอยสูง ฟ้าเปิดสดใสที่สนามบินนาริตะ ราวกับจะบอกผมว่านี่คือการเริ่มต้นหนังภาคใหม่ของชีวิตผม
เทพธิดาแห่งโชค อาจไม่ได้เลือกเราให้พิเศษพอที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้
แต่เทพธิดาแห่งโชคยังให้รางวัลความพยายาม ให้เราได้เห็นอีกโลกนึงได้… โลกที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
หากเรามีฝันจะไปเห็นโลกใบนี้… ผมอยากจะบอกว่าเทพธิดาแห่งโชคถือตั๋วที่เรียกว่า “โอกาส” มาแล้ว
http://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_th/jis_study.html
เรื่องแนะนำ :
– ว่าด้วยเรื่องลางาน : คนญี่ปุ่นเซอร์ไพรส์ไทย และคนไทยก็งงญี่ปุ่น
– (13++) เบคาราสุ Last Episode นิทานเมื่อทำงานกับญี่ปุ่น ไม่ถึงห้าม แต่อย่าทำดีกว่า
-The Darkest hours : เบคาราสุ EP.2 (べからずⅡ) นิทานทำงานกับญี่ปุ่นไม่ถึงห้าม แต่อย่าทำดีกว่า
– นิทาน ทำงานกับญี่ปุ่น : เบคาราสุ (べからず) ไม่ถึงห้าม แต่อย่าทำดีกว่า (EP.1)
– (13+) In my memory หญิงเหล็ก working woman เจแปน