โอซาก้าเมืองเก่าที่ข้าพเจ้าคิดถึง
อยู่อำเภอมิโน่ เที่ยวน้ำตกมิโน่
การที่ผมได้มาอยู่อพาร์ตเมนท์คุณป้าเซทสึโกะ ทำให้ชีวิตผมในหลายด้านมีความสุขมากขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้ชีวิตการเรียนมีความสะดวกขึ้น และส่วนตัวผมว่าอำเภอมิโน่เป็นอำเภอที่ไกลเมืองดี ทำให้สงบ ชีวิตราบเรียบ เหมาะแก่จริตของผมดี
ชีวิตราบเรียบที่ว่าคือ…
ตอนกลางวันตื่นสาย (บางทีก็ตื่นเที่ยง) ตื่นมาเดินไปมหาลัยเลย เดินเท้าขึ้นไป ขึ้นเขาไป สองข้างทางเป็นบ้านคน (ในญี่ปุ่นนี่ ผว่า ใครมีบ้านเดี่ยวได้ต้องมีฐานะสักหน่อย) เดินไปจนถึงมหาลัยพอเหนื่อยใช้ได้ เคยลองจะขี่จักรยานดู ป้าเซทสึโกะใจดีให้ยืมจักรยานด้วย ปรากฎว่าไม่ไหว ขึ้นเขาก็ปั่นไม่ไหวต้องจูง แต่เดี๋ยวก่อน ผมเห็นราชิด “ปั่นจักรยาน” ขึ้นเขาไปเรียนได้ด้วยว่ะ แต่ก็ราชิดนี่เนาะ ธรรมดาไม่เป็นอยู่แล้วหมอนี่ ส่วนผมเหรอ ปั่นจักรยานขากลับ โหย มันไหลลงเนิน เบรคกันแทบไม่ทัน พอมาวันหนึ่งขี่จักรยานจะไปไปรษณีย์แถวๆ อาโอดันจิ 粟生団地 โดนตำรวจเรียก มีข้อสงสัยว่าทำไมชื่อเจ้าของจักรยานเป็นคุณป้า สรุป ไม่เอาละ ยุ่งยาก เดินอย่างเดียวหรือขึ้นรถเมล์ดีกว่า
โอเค เดินถึงมหาลัยนะ ได้เวลากินข้าวเที่ยงพอดี ข้าวโรงอาหารอย่างที่เคยเล่าว่าราคาถูกดีมากเหมาะกับชีวิตนักศึกษา บางทีก็ขึ้นไปชั้นสองมีร้านขายข้าวกล่องแบบให้เราตักของใส่เอาตามชอบ คิดราคาตามน้ำหนัก กรัมละหนึ่งเยน แม่ค้าญี่ปุ่นนี่จิตวิทยาดีมากๆ เวลาเขาทอนเงินให้เราเขาเอามือมาประคองมือเราแล้วอีกมือเอาสตางค์วางลงในมือเรา ถ้าเจอแม่ค้าสาวๆ ทำแบบนี้นะ อู้ย ของแพงก็แย่งกันกิน (ฮา)
กินข้าวเสร็จ เข้าห้องเรียนตอนบ่าย มักจะเข้าห้องเรียน อ.ชิมาโมโต้ก่อน แล้วตอนเย็นถึงมีชั่วโมงเรียนสัมมนากับ อ.นิตตะ ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ราวหกโมง ได้เวลากินข้าวเย็นพอดี กินข้าวแล้วก็เดินลงเขา กลับบ้าน ตรงสุดทางเดินขาลงจากมหาลัย (เส้นทางเดียวกับเส้นทางวิ่งลงของรถเมล์) ฝั่งตรงข้ามถนนมีทะโกะยากิขายด้วย เดินเลี้ยวชวาจะไปที่ห้องพัก ระหว่างทางจะเจอเซเว่น (มี ATM ในร้าน ที่เซเว่นญี่ปุ่นมีบริการถ่ายเอกสาร ส่งแฟกซ์ด้วย) เดินไปจะเจอซูเปอร์มาร์เก็ต APPRO ถ้าไม่ถูกใจก็เลี้ยวลดไปหน่อยจะมีซูเปอร์ MARUYASU สองที่นี้ผมได้อาศัยซื้ออาหารมากิน วันไหนที่ไม่ได้ไปมหาลัย ซื้อข้าวซื้อกับข้าวพวกของทอดบ้าง ข้าวห่อสาหร่ายบ้าง เบียร์บ้าง (ซูเปอร์จะขายเหล้าเบียร์ถูกกว่าร้านสะดวกซื้อ) หรือเดินไปอีกมีร้านข้าวกล่อง Hokka Hokka Tei ร้านต่างๆ ที่ผมว่ามานี้ สำรวจกูเกิลแมปแล้ว ณ ปี 2020 ยังอยู่ดีครับ
พูดแล้วจะยาว ลองใช้ google maps นะครับ
แต่ก่อนตรงเดินกลับบ้าน ตรงแถวตึกที่ปัจจุบันเป็น คลินิคหมอฟันโอจิไอนั้น สมัยผมอยู่เคยเป็นแฟมิลี่มาร์ทครับ แต่ตอนหลังก่อนผมเรียนจบไม่นานก็เลิกกิจการไป
วันไหนเป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ วันที่ไม่มีเรียน บางทีผมก็นั่งรถเมล์ไปหาอะไรกินตรงถนนเส้นใหญ่ที่อาโอชินเกะ 粟生新家 ที่กินประจำอันดับหนึ่งก็ร้านซูชิร้อยเยน คุระซูชิ くら寿司 แถวนั้นยังมีไก่เคเอฟซีที่แบบว่า เฮ้ย บุฟเฟต์ไก่ทอด (มีพวกของจีบทอด สปาเก็ตตี้แถมด้วย) แปดร้อยเยนได้มั๊ง (รวมน้ำอัดลมรีฟิลแล้วนะ) เคยกินทีเดียว เอียนไปเลย แถวนั้นเคยมีร้านอาหารอิตาเลียนราคาถูกที่แบบว่าเคยสั่งไวน์แดงมาหนึ่งเหยือกกินแล้วเมาแอ่นเดินกลับห้อง รถมงรถเมล์อะไรไม่เอา ตอนนั้นสองทุ่มกว่าๆ เดินแอ่นไปตามทางเท้า หาคนเดินแทบไม่มีเลย
ภาพย่านอาโอชินเกะ ทางหลวงสาย 171 ภาพนี้ถ่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2004 ถ่ายบนสะพานลอย
ตู้หย่อนจดหมาย หน้าตาตลกดีเลยถ่ายไว้ดูเล่น
ร้านอะไรไม่รู้มีตู้หยอดเหรียญ น้อยครั้งมากที่ผมจะซื้ออะไรจากตู้หยอดเหรียญ เพราะมันแพง เข้าซูเปอร์ของถูกกว่า โดยเฉพาะเบียร์กระป๋อง
แต่ก็นั่นแหละครับ มาอยู่ใหม่ๆ ก็ต้องขลุกขลักบ้าง ในการมาอยู่อำเภอมิโน่ เรื่องแรกเลยที่ต้องทำคือ ไปขึ้นทะเบียนคนต่างชาติ (แจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่) กับที่ว่าการอำเภอมิโน่ เขาก็จะเขียนสลักหลังว่าวันที่เท่านี้ๆ ได้ย้ายมาอยู่ที่อพาร์ทเมนต์นี้ๆ เลขที่นี้ๆ ผมเสร็จธุระจากที่ว่าการอำเภอแล้วก็แวะกินราเม็งบ้าง ซื้อหนังสือมือสองร้าน BOOK-OFF บ้าง โดยมากซื้อการ์ตูนอ่าน แถวนั้นเคยกินร้านอาหารอินเดียสองร้าน อาหารอิตาเลียนหนึ่งร้าน ร้านขายเบียร์ขายไก่คาราเกะขายกับแกล้มหนึ่งร้าน ร้านเนื้อย่างบุฟเฟต์อีกหนึ่งร้าน ที่ๆ นั่งรถเมล์มาเพื่อเดินไปที่ว่าการอำเภอนั้น เป็นย่านป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟพอดี
มีป้ายรถเมล์ มีที่จอดรถแท็กซี่ มองออกไป เห็นตึกโรงแรมไหมครับ
ซึ่งสถานีรถไฟนั้นมีไว้พานักท่องเที่ยวมาเที่ยว “น้ำตกมิโน่” นี่หละครับ น้ำตกมิโน่นั้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติมิโน่ ซึ่งเราก็เดินเข้าไปเลย
เดินเข้าไปนี่ เตือนไว้ก่อน เวลาเจอลิง อย่าเข้าใกล้ อย่าให้อาหารนะครับ แต่ที่นี่เจอลิงน้อยมากๆ เทียบกับศาลกระกาฬที่ลพบุรีหรือเขาตะเกียบที่หัวหินไม่ได้เลย
สะพานสีแดงงามๆ ถ้าจำไม่ผิดเป็นทางข้ามไปเขตวัดริวอันจิ 瀧安寺
เดินตามทางตะลุยป่า สุดท้ายมา เจอร้านน้ำแข็งไสซะอย่างนั้น
ถึงแล้วครับ น้ำตกมิโน่ 箕面滝 เอิ่ม มันเป็นน้ำตกที่เล็กกระจิ๋วหลิว จังเลย อย่าเอาไปเทียบกับน้ำตกเหวสุวัติเขาใหญ่นะครับ แต่ที่นี่คือสัญลักษณ์ของอำเภอนี้จริงๆ ผมไปเดือนสิงหา หน้าร้อน ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เดี๋ยวคราวหน้าผมจะพามาที่นี่อีกทีแต่เป็นน้ำตกมิโน่ “เมื่อฤดูใบไม้ร่วง” ใบเมเปิ้ลสามสีและใบไม้ที่ร่วงหล่น มันจะสวยงามกินใจเลย เป็นความงามแบบเหงาๆ พาใจเศร้าๆ ไปอีกแบบนะ
หันไปชมภาพร้านรวงขายของกินก๊อกแก๊กให้นักท่องเที่ยว สำหรับผม การได้เดินชมธรรมชาติน่ะ ยังไงก็ดีอยู่แล้วครับ ดีใจที่มีแหล่งชมธรรมชาติที่เข้าถึงง่ายแค่นั่งรถเมล์แล้วเดินเอาแบบนี้ นี่แหละครับความสุขอย่างหนึ่งของการได้มาอยู่อำเภอมิโน่ แล้วพบกันใหม่นะครับ
เรื่องแนะนำ :
– “ความทรงจำและคำอำลา” บ๊ายบาย หอพักนักเรียนนานาชาติคันไซ
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (3) วิชาต่อสู้ของญี่ปุ่นที่คนไทยไม่ (น่าจะ) รู้จัก
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (2) พื้นฐานของวิชาดาบอิไอ
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (1) บูโดคังอำเภอซุยตะ
– วัดชิเทนโนจิ (อีกรอบ) กับเนื้อย่างเกาหลีย่านทสุรุฮาชิ 29 กุมภาพันธ์ 2004
#อยู่อำเภอมิโน่ เที่ยวน้ำตกมิโน่